ยูโรและดอลลาร์ผันผวน หลังตลาดถูกกดดันจากนโยบายอีซีบี
ค่าเงินสกุลหลักๆมีการปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยและปรับอ่อนค่าลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดพยายามตัดสินใจเกี่ยวกับถ้อยแถลงของอีซีบีเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น หลังจากที่อีซีบีประกาศคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยไว้ แม้เหล่าเทรดเดอร์จะมองหาสัญญาณว่าอีซีบีจะเริ่มต้นลด/ถอนนโยบายการเงินเมื่อใด
โดยค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 0.1% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี มีการเรียกร้องให้สมาชิกอีซีบียอมรับการจัดการแผนกองทุนฟื้นฟูสำหรับอียูด้วย เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัสระบาดต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน โดยจะเห็นได้จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังจำเป็นต้องพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงิน ดังนั้นทุกฝ่ายไม่ควรเดินหน้าเพียงลำพัง
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าในตลาดนิวยอร์ก ค่าเงินยูโรลดลง 0.24% ที่ระบ 1.2007 ดอลลาร์/ยูโร และดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใญ่ เพิ่มขึ้น 0.28% สู่ระดับ 91.355 จุด
อัตราผลตอบแทนทรงตัว แม้ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯดีกว่าคาด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ทรงตัวแนว 1.58%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 30 ปี ทรงตัวที่ 2.26%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์แตะ 547,000 ราย เป็นครั้งแรก หลังคาดออกมาแนว 603,00 ราย
ข้อมูลยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ ปรับตัวลง 3.7% ในเดือนมี.ค. ส่งผลให้ภาพรวมรายปีอยู่ที่ 6.01 ล้านยูนิต ถือเป็นอัตราการขายที่ชะลอตัวลงมากที่สุดตั้งแต่ส.ค. และยังเป็นการปรับลงต่อเนื่อง 2 เดือน
อย่างไรก็ดี หากเทียบกับช่วงเดือนมี.ค. ปี 2020 จะพบว่ายอดขายสูงขึ้น 12.3%
ด้านการประมูลผลตอบแทนพันธอายุ 20 ปีมีมูลค่า 2.4 หมื่นล้านเหรียญ สะท้อนอุปสงค์ในตลาดที่ยังแกร่ง