• Hopkins Medicine รายงาน ข้อมูลไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังเป็น "กังวล"

    21 เมษายน 2564 | Economic News
 

รายงานจาก Hopkins Medicine เผยข้อมูลไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ต่างๆที่มีต้นกำเนิดจาก SARS-CoV-2 แต่มีความแตกต่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในประเทศจีน

การกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาถูกพบ “ครั้งแรก” ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ เมื่อเดือน ก.ย. ปี 2020 โดยถูกเรียกชื่อว่า B.1.1.7 ซึ่งมีการแพร่ระบาดเร็วมากที่สุดในอังกฤษ ทำให้พบยอดติดเชื้อสูงขึ้นประมาณ 60% ในเดือน ธ.ค. ปี 2020 และ ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดไปในบางประเทศ



สายพันธุ์ B.1.351 เป็นสายพันธุ์ที่ถูกพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ก่อนจะระบาดในที่อื่นๆ อาทิ บราซิล และแคลิฟอเนียร์ เป็นต้น โดยลักษณะของสายพันธุ์นี้ กล่าวคือ

- ผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสก่อนหน้าที่รักษาหายแล้ว “อาจกลับมาติดเชื้อใหม่” ได้อีกครั้ง

- อาจ “ต่อต้าน” ประสิทธิภาพของวัคซีน Covid ที่พัฒนาขึ้นมาได้

วัคซีนบางส่วนที่อยู่ระหว่างการทดสอบในปัจจุบันก็อยู่ในกระบวนการก็ถูกเสนอให้สามารถป้องกันการได้รับเชื้อจากผู้ติดไวรัสสายพันธุ์ B.1.351 นี้ด้วย


ความกังวลเกี่ยวกับไวรัส B.1.351 หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้?

หนึ่งในความกังวลหลัก เกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์นี้ คือ

- อาจส่งผลกระทบต่อ “กระบวนการรักษา” และ “การยับยั้งเชื้อ”

- มักจะ “ไม่แสดงอาการป่วย” เหมือนสายพันธุ์เดิม

- มีโอกาสทำให้ผู้รอดชีวิตจากสายพันธุ์เดิมสามารถกลับมาติดเชื้อไวรัสนี้ได้อีกครั้ง


ข้อมูลวัคซีน Covid-19 ของบริษัท AstraZeneca ที่ศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัย Oxford

- ป้องกันได้ “น้อยที่สุด”

- ช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยได้



ข้อแตกต่างของไวรัสสายพันธุ์ใหม่?

B.1.1.7 - สายพันธุ์ที่พบในอังกฤษ

- สามารถแพร่กระจายและทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้น

- เชื้อกระจายได้ไวและง่ายขึ้น

- ตัวโปรตีนของไวรัส หรือ Spike Protein ที่เพิ่มขึ้น สามารถติดต่อและเกาะกับเซลล์มนุษย์ได้ทางจมูก, ปอด และส่วนอื่นๆในร่างกาย


สายพันธุ์ใหม่จะส่งผลให้เด็กติดเชื้อมากขึ้นกว่าการระบาดช่วงก่อนหน้าหรือไม่?

คำตอบคือ ทีมผู้เชี่ยวชาญในหลายๆพื้นที่ พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ก็พบว่ามีเด็กติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่าสายพันธุ์เก่า


จะเกิดสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสมากขึ้นหรือไม่?

คำตอบคือ “ใช่”

ตราบเท่าที่ยังมีการระบาดในกลุ่มประชากร ก็จะยิ่งส่งผลให “การกลายพันธุ์” เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

จะเห็นได้ว่าสายพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาจาก SARS-CoV-2 ถูกพบได้มากขึ้นทุกสัปดาห์ และมีรูปแบบการระบาดที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ระบาดแรงช่วงแรก จึงเป็นการยากที่จะบอกว่า “อะไรคือตัวขับเคลื่อนแนวโน้มการแพร่ระบาด” มาจากการเปลี่ยนแปลงของไวรัส หรือ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมมนุษย์


ความกังวลที่เกิดขึ้นคือ การเปลี่ยนแปลงของ Spike Protein เป็นไปในลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายคลึงกัน ขณะเดียวกันการระบาดของไวรัสก็กระจายมากขึ้นในหลายแห่งของประเทศ


การเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ และสิ่งที่จะสร้างความวิตกกังวล?

ส่วนใหญ่การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในไวรัสชนิดนี้ เปรียบเหมือนการสร้างแผลเป็นสะสมให้แก่ประชาชนไปชั่วชีวิต

ขณะเดียวกันก็มีหลักฐานที่แน่นหนาเพียงพอที่จะบอกได้ว่า การเปลี่ยนแปลงด้านพันธุกรรม มีสาเหตุมาจาก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของไวรัส และทางสถาบันก็กำลังเฝ้าสังเกตแนวทางของไวรัสมากขึ้น เพื่อให้มันใจว่ากระบวนการทดสอบ, การรักษา และวัคซีนจะยังมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น ในเวลานี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันต่อไปในทุกความพยายามทั้งหมดเพื่อต้านการระบาดของไวรัส และเร่งให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้


ที่มา: Hopkins Medicine

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com