MTS Help Center

  

Goldman Sachs แนะนำนักลงทุนให้ทำการถือสถานะ Long ในค่าเงินยูโร ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมี.ค. เมื่อวานนี้

การถือครองสถานะ Long Position คือการเข้าซื้อสินทรัพย์จากการเก็งกำไรว่ามูลค่าของสินทรัพย์ดังกล่าวจะปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อ

นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังปรับเพิ่มคาดการณ์ยูโรมีโอกาสแข็งค่าต่อเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้นๆ

ในช่วง 3 เดือนนี้ มองเป้าหมายที่ 1.25 ดอลลาร์/ยูโร (เดิม 1.21 ดอลลาร์/ยูโร)
ในช่วง 1 ปี คาดมีโอกาสเห็นยูโรแตะ 1.28 ดอลลาร์/ยูโร

บรรดานักวิเคราะห์ อาทิ ผู้ช่วยหัวหน้าส่วน Global FX จากสถาบัน Rates and EM Strategy ก็มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน โดยระบุว่า ยูโรจะอยู่ในทิศทางแข็งค่าเช่นเดียวกัน โดยมองเป้าหมายไว้ที่ 1.25 ดอลลาร์/ยูโร และจุด Stop Loss หากต่ำกว่า 1.175 ดอลลาร์/ยูโร

ดังนั้น Goldman อาจจะปิดการซื้อขายได้ หากยูโรเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ภาพรวมคาดการณ์ของค่าเงินยูโรเป็นผลมาจาก
- ตลาดคาดหวังเศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวได้ในอีก 2-3 เดือน
- การฉีดวัคซีนที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
- อัตราการเข้ารักษาพยาบาลด้วย Covid-19 ลดจำนวนลง

ขณะที่โครงการฉีดวัคซีนในยุโรปเผชิญปัญหาชะงักงันบ้างในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่คาดว่าอาจเห็นการฉีดวัคซีนเพิ่มจำนวนขึ้นได้ในช่วงฤดูร้อนนี้ (ภายใน พ.ค.)

ความเสี่ยงสำหรับค่าเงินยูโร คือ หากเฟดตัดสินใจกลับมาใช้แนวทาง Hawkish หรือการคุมเข้มทางการเงิน อย่างเหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเฟดส่งสัญญาณในรายงานสรุปคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจ (SEP) ประจำเดือนมิ.ย. ที่บ่งชี้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยไว้ในปี 2023

ขณะเดียวกัน Goldman Sachs ยังหนุนโอกาสขาขึ้นของค่าเงินยูโร หลังจากที่เหล่านักกลยุทธ์หุ้นของธนาคารมีการปรับเพิ่มคาดการณ์เป้าหมายราคาดัชนี Stoxx600 โดยคาดว่าดัชนี Stoxx600 จะมีผลตอบแทนโดยรวมมากถึง 10% ภายใน 1 ปี สูงกว่าที่คาดการณ์เกี่ยวกับดัชนี S&P500 ที่มองว่าจะขึ้นได้ 6%

ภาพรวมกลุ่มนักวิเคราะห์ ยังให้เหตุผลเกี่ยวกับการแข็งค่าของค่าเงินยูโร ประกอบไปด้วย
- การเติบโตทางเศรษฐกิจยุโรปอย่างรวดเร็ว
- อีซีบีอาจชะลออัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายใต้โครงการ PEPP ในการประชุมเดือนมิ.ย. นี้
- ไอเอ็มเอฟ ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจยุโรปว่าจะกลับสู่ช่วงก่อนการระบาดได้ในปี 2022 โดยคาดโตได้ประมาณ 3.9%

ที่มา: CNBC