• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 2 เมษายน 2564

    2 เมษายน 2564 | Gold News

·         ทิศทางทองปิดสัปดาห์กับระดับ 1,729 เหรียญ

นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ทองคำมีการปรับขึ้นหลังไปทำต่ำสุดในรอบหลายเดือน อันเป็นผลจาก

1) การอ่อนค่าของดอลลาร์

2) การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

กลุ่มนักลงทุนตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และการเผยแผนโครงสร้างพื้นฐานของนายไบเดน

ภาพทางเทคนิคราคาทองคำมีสัญญาณฟื้นตัวและมีการสร้างขายกขึ้นมา โดยตลาดดูจะจับตาข้อมูล

- Non-Farm Payrolls (การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ) ในคืนวันนี้

- FOMC Minutures (รายงานประชุมเฟดเดือนมี.ค.) ประกาศสัปดาห์หน้า

 

ทองคำจะมีระดับแนวต้านสำคัญ 1,737 เหรียญ และยังเป็นระดับสำคัญของกราฟราย 4 ชั่วโมงของเส้น  SMA200 รวมทั้งระดับเส้น Fibonacci 61.8% ของภาพรายสัปดาห์

หากทองคำจะเป็นขาขึ้นได้ต้องเผชิญความท้าทายที่ 1,747 เหรียญ ที่เป็นระดับแนวต้านสำคัญรายวันที่ 2 หรือเป็นแนวรับสำคัญแรกของภาพกราฟรายสัปดาห์


ในทางกลับกัน หากทองคำหลุดต่ำกว่า 1,729 เหรียญ ที่เป็นเส้น Fibonacci 23.6% และเป็นระดับ 61.8% ของภาพกราฟรายสัปดาห์ เพราะหากหลุดลงมาจะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,725 เหรียญ ที่เป็นแนวแรกของเส้นค่าเฉลี่ยรายวัน SMA 10 และ Fibonacci 23.6% เพราะถ้าหากไปต่อไม่ได้จะกลบมาเจอ 1,720 เหรียญ ที่เป็นต่ำสุดของสัปดาห์นี้


·         FX Empire วิเคราะห์ทองคำ Gold Futures ตลาด Comex คาดหากผ่านแนวต้าน 1,746.9 เหรียญ มีโอกาสไปที่ 1,788.5 เหรียญ




มุมองระยะสั้น

คาดสัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวเหมือนระยะยาว จับตา 1,711.9 เหรียญ

สัญญาณขาขึ้น

ทองคำต้องยืนเหนือ 1,711.9 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่ง

หากผ่านไปได้จะมีโอกาสขึ้นไปแถว 1,746.9 เหรียญ และ 1,756 เหรียญได้อย่างรวดเร็ว

ถ้าผ่านระดับสำคัญด้านบนได้ มีโอกาสเห็นทองคำฟื้นตัวต่อไปที่ 1,767.6 เหรียญ และ 1,788.5 เหรียญ ตามลำดับ

สัญญาณขาลง

หากทองคำต่ำกว่า 1,711.9 เหรียญ จะส่งสัญญาณให้เกิดแรงเทขายเข้ามาต่อ

ทองคำมีโอกาสปรับตัวลงรวดเร็วหากหลุดระดับดังกล่าวลงมาที่ 1,704.6 เหรียญ

มีโอกาสเห็นทองคำทดสอบต่ำสุดเดิม 1,677.3 และ 1,676.2 เหรียญ

หากยังหลุดระดับสำคัญข้างต้นจะตอกย้ำ "ภาวะขาลง" ต่อ

 

 ·         ดอลลาร์ปรับขึ้น 3 สัปดาห์ต่อเนื่อง - ตลาดรอจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้

ค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวในวันนี้ ก่อนทราบข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อันได้แก่ Non-Farm Payrolls  หรือการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ และ Unemployment Rate  หรือคนว่างงานที่จะประกาศในคืนนี้เวลา 19.30น. (ตามเวลาไทย)




ความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์ปรับขึ้นมาต่อเนื่องช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีที่ปรับขึ้น ขานรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ด้านโครงสร้างพื้นฐานของนายไบเดน มูลค่ากว่า 2 ล้านล้านเหรียญ ประกอบกับโครงการฉีดวัคซีน Covid-19 ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  ในขณะที่มีความกังวลเรื่องสัญญาณเงินเฟ้อตามมาด้วย

ตลาดการซื้อขายวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด Good Firday  จึงทำให้หลายๆตลาดปิดเฉลิมฉลองเทศกาล Easter

บรรดานักวิเคราะห์ กล่าวว่า การแข็งค่าของดอลลาร์มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นต่อไป ท่ามกลางการตอบรับของนักลงทุนในเรื่อง "การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ"

ค่าเงินเยนล่าสุดทรงตัวที่ 110.62 เยน/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่าใกล้ระดับสูงสุดรอบ 1 ปี

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1777 ดอลลาร์/ยูโร ใกล้ระดับอ่อนค่ามากสุดรอบ 5 เดือน

ค่าเงินสวิสฟรังก์ทรงตัวที่ 0.9417 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังอ่อนค่ามา 0.2% วานนี้

ค่าเงินปอนด์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวแถว 1.3843 ดอลลาร์/ปอนด์

คืนนี้จับตา Non-Farm Payrolls สหรัฐฯ 19.30น.

- นักวิเคราะห์คาดอาจเห็นการจ้างงานจากรัฐบาลเพิ่มขึ้นกว่า 647,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.

- คาดอัตราว่างงานอาจลดลงมาสู่ 6.0% จากเดิม 6.2% ในเดือนก.พ

"ดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 92.862 จุด" โดยดัชนีดอลลาร์มีการแข็งค่าต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน

บรรดานักวิเคราะห์มองภาพรวม  ไม่คาดว่าค่าเงินสกุลหลักส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวมากนักในวันนี้ จากการที่ "ตลาดการเงินส่วนใหญ่ปิดทำการ"  ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลียสิงคโปร์ฮ่องกง,  อังกฤษยุโรป และสหรัฐฯ

ค่าเงินนิวซีแลนด์ทรงตัวที่ 0.7034 เมื่อเทียบกับดอลลาร์

Bitcoin ปรับขึ้นเหนือ 60,000 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน แต่ก็มีการปรับอ่อนค่าลงมาเล็กน้อยแถว 59,601 เหรียญ

ETH มีการปรับแข็งค่าไป +1.39% บริเวณ 1,994 เหรียญ


·         ตลาดหวังจ้างงานสหรัฐฯมี.ค. ขยายตัวขึ้น - แต่ประชาชนก็ยังคงขาดแคลนตำแหน่งงาน

 

·         แหล่งข่าวด้านการขนส่งทางเรือ ชี้ คลองสุเอซ มีการยกระดับความรวดเร็วในการขนส่งสินค้า เพื่อเลี่ยง "อุปสรรค" ที่จะเกิดในอนาคต

 

·         บรรดาผู้เชี่ยวชาญชี้ WHO ย้ำ ต้นกำเนิด Covid-19 มาจากสหรัฐฯ และทางการจีนต้องเพิ่มการปราบปรามสัตว์ป่ามากขึ้น

 

·         นักกฎหมายกว่า 70 ราย ส่งสัญญาณคัดค้านพาสปอร์ตวัคซีนที่รัฐบาลกำลังพิจารณาเพื่อช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะที่เริ่มมีการยกเลิกล็อคดาวน์ในหลายแห่ง

 

·         วัคซีน” เกมการเมือง?! - ประธานคณะกรรมาธิการอียู เผยถึงการเริ่ม เข้มงวด” แล้ว ท่ามกลางการเดินหน้าฉีดวัคซีน และการตำหนิความล่าช้าอย่างมากของกลุ่มผู้อนุมัติวัคซีนในการพิจารณาปัญหาวัคซีน AstraZeneca ที่ทำให้เกิดการจัดส่งล่าช้า

 

·         การใช้มาตรการคุมเข้ม Covid-19 รอบใหม่ของฝรั่งเศส จะยิ่ง "เพิ่มผลกระทบทางเศรษฐกิจ" ในปีนี้ แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าผลกระทบนั้นมีความเสียหายอย่างไร

 

·         ธนาคารกลางจีน คาด ราคา Bitcoin ปรับขึ้นอาจช่วยหนุนความน่าสนใจของค่าเงินหยวนให้เพิ่มขึ้นตาม


·         การเติบโตในเมืองต่างๆของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว และต้องการเป็น "เมืองแห่งวัตถุดิบด้านการผลิต" ลำดับต่อไป ในการเสริมสร้างเทคโนโลยีของตนเอง ท่ามกลางระบบท้องถิ่นที่พร้อมสู่แนวทางดังกล่าว  อาทิ เซิ่นเจิ้น ที่ดูจะพร้อมเป็นเมืองหลักแห่งวัตถุดิบหรือ Silicon Valley สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศอย่าง Tencent และ Huawei เป็นต้น แต่ก็ยังไม่อาจกล่าวย้ำได้ว่าเสิ่นเจิ้นนั้นประสบความสำเร็จได้อีกขั้นแล้วในเวลานี้


·         RPT เผย จีนไม่มีแนวโน้มจะใช้ "พันธบัตรสหรัฐฯ" เป็นเครื่องมือต่อกรด้านความสัมพันธ์ที่ยังตึงเครียดระดับสูง

บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ มองไปในทิศทางเดียวกันว่า จีนยังไม่มีแนวโน้มจะทำการเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯในเร็วๆนี้ ท่ามกลางความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยังตึงเครียดอยู่ในระดับ "สูง

·         สหรัฐฯจะทำการสรุปความสัมพันธ์ร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เรื่องการพิจารณานโยบายด้านความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือใน "วันนี้" ซึ่งจะเป็นการหารือที่ครอบคลุมถึงเรื่องการขาดแคลนชิปประเภท Semi-Conductor ด้วย

·         ญี่ปุ่นจัดประชุมนุมร่วมกับสถาบันการเงิน Nomura และ MUFG เกี่ยวกับการขาดทุนที่เป็นผลข้องเกี่ยวจากลูกค้าสหรัฐฯที่ยังไม่ปรากฏนาม

 

·         ทางการญี่ปุ่นเพิ่มการรับวัคซีน Covid-19 จากบริษัท Pfizer เพื่อให้เกิดการฉีดวัคซีนแก่ผู้สูงอายุได้รวดเร็วขึ้น

·         ออสเตรเลียกำลังพิสูจน์กรณีการพบลิ่มเลือดในกลุ่มผู้ได้รับการฉีดวัคซีนบริษัท AstraZeneca

·         ออสเตรเลียเรียกร้อง "กองทัพพม่า" ปล่อยตัวที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของออสเตรเลีย ที่ถูกจับกุมภายใต้การเป็นหนึ่งในรัฐบาลนางอองซาน ซูจี ซึ่งถูกคุมขังเป็นเวลานานอย่างน้อย เดือนแล้ว

·         ผู้ประท้วงเมียนมาประกาศสู้แบบกองโจร หลังถูกตัดสัญญาณเน็ตมือถือ

กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเมียนมาได้ออกมาประท้วงด้วยการจุดเทียนเมื่อคืนที่ผ่านมา และพยายามแก้ปัญหาด้านการติดต่อสื่อสารกันหลังกองทัพสั่งตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนมือถือในวันนี้ ขณะที่กลุ่มต่อต้านการใช้กำลังกวาดล้างผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับกองทัพประกาศว่า จะไม่ลดละความพยายามในการกดดันให้นายทหารระดับสูงยอมลงจากอำนาจ



·         หุ้นญี่ปุ่นปิดทำการกว่า 1.5% ท่ามกลางตลาดหุ้นอื่นๆปิดทำการในวัน Good Friday

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดแดนบวก ตามการปรับขึ้นเป็นประวัติการณ์ของดัชนี S&P500 ในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ดัชนีนิกเกอิปิด +1.58% ที่ 29,854 จุด หลังหุ้น Softbank Group ปรับขึ้น 4.22%

ดัชนี Topix ปิด +0.71% ที่ระดับ 1,971.62 จุด

ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ ปิด +0.82% ที่ 3,112.80 จุด

ตลาดหุ้นจีนก็ปรับขึ้นได้ในวันนี้

ดัชนี เสิ่นเจิ้นปิด +1.02% ที่ 14,122.61 จุด

ดัชนี เซี่ยงไฮ้ปิด  +0.52% ที่ 3,484.39 จุด

ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการในวันหยุด Good Friday ได้แก่ ออสเตรเลียฮ่องกงอินเดีย และสิงคโปร์  เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯและอังกฤษ

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

ธปท.คาดเริ่มทดสอบใช้ CBDC ในวงจำกัดช่วง Q2/65 หลังเริ่มเปิดรับฟังความเห็น

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าจะเริ่มทดสอบการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางสำหรับการใช้งานในภาคประชาชน (Retail Central Bank Digital Currency: Retail CBDC) ในวงจำกัดในช่วงไตรมาส 2/65 หลังจากเริ่มเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน

ทั่วไป รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชน จนถึงวันที่ 15 มิ.ย.64 โดยจะนำความเห็นที่ได้รับมาร่วมกำหนดแนวทางการพัฒนา Retail CBDC ต่อไป

หนี้ครัวเรือนปี 64 ยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในกรอบ 89-91% ต่อGDP

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตโควิด-19 น่าจะทำให้เงินกู้ยืมของภาคครัวเรือนปี 2564 มีโอกาสเติบโตขึ้นสูงกว่าปี 2563 ที่เติบโตเพียง 3.9% ซึ่งภาพดังกล่าวอาจส่งผลต่อเนื่องให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีขยับสูงขึ้นมาอยู่ในกรอบประมาณ 89.0-91.0% ต่อจีดีพีในปี 2564 เทียบกับปี 2563 ที่ระดับหนี้ครัวเรือนที่ทะลุ 14 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 18 ปี โดยหนี้ครัวเรือนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 89.3% เมื่อเทียบกับจีดีพีในปี 2563 ซึ่งตอกย้ำว่า ทางการไทยคงหันกลับมาดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างจริงจังเมื่อวิกฤตโควิด-19 สิ้นสุดลง โดยอาจกลับมาสานต่อมาตรการดูแลให้การก่อหนี้ของครัวเรือนสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ (Affordability)

ศบค.เผยพบคนไทยกลับจาก ตปท.ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา 10 ราย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) เปิดเผยว่า พบผู้เดินทางสัญชาติไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศ แทนซาเนีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และโมซัมบิก 10 ราย ติดเชื้อ SAR-CoV-2 สายพันธุ์ South African variant โดยมีทั้งไม่แสดงอาการและแสดงอาการ 50:50 และเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง มีช่วงอายุเฉลี่ย 47 ปี (อายุน้อยสุด 23 ปี และสูงสุด 66 ปี)



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com