• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2564

    23 มีนาคม 2564 | Gold News


ทองลงจากหุ้นสหรัฐฯปิดบวก

· ราคาทองคำเคลื่อนไหวปรับลงกว่า 1% แม้ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับลง โดยตลาดได้รับแรงกดดันหลักจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับขึ้น


· ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.3% ที่ 1,738.93 เหรียญ


· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด -0.2% ที่ 1,738.1 เหรียญ


· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า ทองคำอาจปรับขึ้นได้ไม่มาก ท่ามกลางตลาดที่อ่อนแรง แม้ดอลลาร์จะอ่อนแรงตาม แต่หากประชาชนในตุรกีมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับค่าเงินลีราที่อ่อนค่าแรงสัปดาห์นี้ จากเหตุประธานาธิบดีตุรกีสั่งปลดผู้ว่าการธนาคารตุรกีเป็นรายที่ 3 หลังปลายสัปดาห์ที่แล้วผู้ว่าการคนดังกล่าวประกาศเพิ่มดอกเบี้ยมากถึง 4.5% ทำให้ดอกเบี้ยล่าสุดแตะ 19% จึงกดดันค่าเงินลีราร่วงหนักกว่า 12% และทำให้ประชาชนแห่มาถือดอลลาร์หรือทองคำวานนี้ แต่หากมีความกังวลมากขึ้นก็จะทำให้นักลงทุนหรือประชาชนเปลี่ยนมาถือดอลลาร์หรือทองคำมากขึ้นได้ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า


· นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสจาก RJO Futures มองว่า เทรดเดอร์คาดทองคำมีโอกาสไปเหนือ 1,750 เหรียญได้ก่อนที่จะเห็นการเริ่มต้นซื้อขายรอบใหม่ และการคงดอกเบี้ยระดับต่ำของเฟดก็ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด


· เมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.35% แตะ 92.09 จุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีปรับลงแตะ 1.682%


· ราคาพลาเดียมปิด -1.1% ที่ 2,606.24 เหรียญ

· ราคาแพลทินัมปิด -1.1% ที่ 1,182.87 เหรียญ

· ราคาซิลเวอร์ปิด -2% ที่ 25.72 เหรียญ


· WHO ระบุว่า ภูมิภาคต่างๆทั่วโลกมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มมากขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ และทั่วทุกมุมโลกมีการพบการระบาดของสายพันธุ์ใหม่มากขึ้น

สำหรับยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกมีรายงานพบจำนวนสูงขึ้นประมาณ 8% ในสัปดาห์ก่อน นับเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันที่ทาง WHO เห็นการระบาดของสายพันธุ์ใหม่เพิ่มมากขึ้น


· สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด พบรายงาน 81 ประเทศยังมียอดติดเชื้อไวรัสเพิ่มสูงขึ้น




ยอดติดเชื้อรายวันทั่วโลกล่าสุดพบเพิ่มขึ้น 403,545 ราย สะสมที่ 124.28 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มมา 7,011 ราย รวมสะสมที่ 2.73 ล้านราย



สหรัฐฯพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 44,692 ราย รวมสะสม 30.57 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมในประเทศเพิ่มขึ้นทะลุ 555,944 ราย

สถานการณ์ในบราซิลยังรุนแรง พบยอดติดเชื้อไวรัสใหม่ 53,386 ราย รวมสะสม 12.05 ล้านราย และมียอดเสียชีวิตสะสมสูง 295,685 ราย


สถานการณ์การระบาดในไทย

ศบค. รายงานว่า พบติดเชื้อโควิดรายใหม่ เพิ่มขึ้น 73 ราย ป่วยสะสม 27,876 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 91 รายในขณะนี้ ท่ามกลางกทม.ยอดยังพุ่งต่อเนื่อง จับตาการเดินทางข้ามจังหวัดช่วงสงกรานต์

ขณะที่ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนแล้ว 73,517 ราย ศบค. เผยเมื่อวานนี้บางคนเริ่มรับเข็ม 2



รายงานจาก BBC ระบุว่า วัคซีนโควิด-19: ภาคท่องเที่ยวกระทุ้งรัฐปลดล็อกนำเข้าวัคซีน แผนนำเข้าโดยรัฐ ฟื้นเศรษฐกิจไม่ทัน

กลุ่มผู้บริหารธุรกิจท่องเที่ยวเรียกร้องรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กล้าตัดสินใจ แสดงความจริงใจความโปร่งใส่ในการบริหารจัดการวัคซีนต้านโควิด-19 ลดการผูกขาดวัคซีนเพียงไม่กี่ราย ผ่อนคลายข้อจำกัดการนำเข้าเพื่อให้การกระจายครอบคลุมอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ทันสถานการณ์


· สถานการณ์การฉีดวัคซีน Covid-19 ทั่วโลกพบว่า มี 139 ประเทศเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนแล้วรวมกว่า 448.07 ล้านโดส




· ยอดติดเชื้อไวรัส Covid-19 ในสหรัฐฯเพิ่มจำนวนเกินกว่าครึ่งประเทศ แม้ว่าจะมีการเร่งโครงการฉีดวัคซีนก็ตาม


· ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.

ข้อมูลจาก CDC และการวิเคราะห์ของ Reuters ไปในทิศทางเดียวกันเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯที่พบจำนวนการเพิ่มขึ้นประมาณ 5% สูงกว่า 394,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 9 สัปดาห์

ขณะเดียวกันจำนวน 30 จาก 50 รัฐ ก็ดูจะพบจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่มากขึ้น เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีจำนวน 19 รัฐจาก 50 รัฐ

ภาพรวมการพบยอดติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ที่ลดลงตั้งแต่ช่วงม.ค. เกิดขึ้นพร้อมๆกับการกล่าวเตือนของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขและทางการแพทย์ ว่าอาจเห็นยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ หากประชาชนชาวสหรัฐฯมีการผ่อนคลายการดำเนินตามมาตรการเว้นระยะทางสังคมที่เร็วเกินไป ประกอบกับการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นตัวทำให้การแพร่เชื้อเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นภายในประเทศ


· ทำเนียบขาวให้สัญญาจะเพิ่มการฉีดวัคซีน Covid-19 ของบริษัท Johnson&Johnson หลังเปิดตัวล่าช้า


· ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดโครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนสูงวัยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป


· ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19 ของบริษัท AstraZeneca แล้ว


· ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯทรุดลงเกินคาดในเดือนก.พ. แตะ 6.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ภาพรวมรายปีอยู่ที่ 6.22 ล้านยูนิต ท่ามกลางอุปทานที่น้อยลงกว่า 29.5% เมื่อเทียบรายปี นับเป็นระดับการปรับตัวลงที่มากที่สุดที่เคยเกิดขึ้น

หากเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้าจะพบยอดขายบ้านมือสองปรับขึ้นได้มากถึง 9.1%


· “โพเวลล์” ระบุว่า Cryptocurrency “ไม่มีประโยชน์โดยแท้จริงในการเป็นสินทรัพย์ที่สามารถกักเก็บมูลค่า”


· ประธานเฟดกับมุมมองเศรษฐกิจแข็งแกร่งโดยได้รับอานิสงส์แต่สภาคองเกรสและเฟดที่เตรียมการสนับสนุนครั้งใหญ่ แต่ยังห่างไกลจากการโตได้อย่าง “เต็มที่” แม้จะเห็นถึงการเติบโตที่รวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น เฟดจึงจะเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจต่อไปตราบเท่าที่จำเป็


· นายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีสัญญาณ “ฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์” จากที่ประสบภาวะถดถอยจากวิกฤต Covid-19 แต่การจะเติบโตได้อย่างเต็มที่ก็ยังต้องใช้เวลาในการเยียวยา เนื่องจากวิกฤตดังกล่าวได้สร้างความเสียหายไว้เบื้องหลัง ขณะที่แนวโน้มของการเติบโตในระยะกลางและระยะยาวเป็นไปในทิศทางเชิงบวก


· นางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในสมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด ระบุว่า ภาคธุรกิจขนาดเล็กอาจประสบปัญหาความล้มเหลวมากขึ้น จากการใช้มาตรการควบคุมไวรัสในหลายๆรัฐ


· นักวิเคราะห์จาก Invesco ระบุว่า ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อจะช่วยสร้างโอกาสการเข้าซื้อ “อย่างมาก” ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี


· ทำเนียบขาวจ่อพิจารณาแบ่งแผนฟื้นฟู 3 ล้านล้านเหรียญ เป็น 2 ฉบับ

The New York Time เป็นที่แรกที่เปิดเผยรายงานความเป็นไปได้ที่ทีมบริหารของนายไบเดนจะทำแผนเสนอแบ่งออกเป็น 2 ฉบับ

ขณะที่ล่าสุด NBC News รายงานว่าทางทำเนียบขาวจะตัดสินใจพิจารณาทางเลือกในการผ่านร่างงบประมาณ 3 ล้านล้านเหรียญ สำหรับเป็นแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ


· เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เข้าพบภาคอุตสาหกรรมพลังงานก่อนหารือถึงแผนการจัดการด้านภูมิอากาศและโครงสร้างพื้นฐาน


· กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรียกร้อง “ไบเดน” กำหนดมาตรฐานพาสปอร์ตด้านสุขภาพ และแผนการถอนคำสั่งห้ามเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ


· ทีมบริหารไบเดน ถูกวิจารณ์หนักท่ามกลางกระแสกลุ่มผู้อพยพที่จะเพิ่มขึ้น จากการถอนมาตรการจำกัดพรมแดนสัปดาห์นี้


· รัฐบบาลไบเดน ส่งสัญญาณว่า “อินเดีย” เป็นประเทศพันธมิตรที่สำคัญในการแก้ไขปัญหากับจีน

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายกล่าวกับสำนักข่าว CNBC ในทางเดียวกันว่า สหรัฐฯเล็งเห็นถึงความสำคัญของ “อินเดีย” ที่จะมาเป็นหนึ่งในประเทศพันธมิตรที่จัดการกับการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย


· ทีมบริหารไบเดน มีคำสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ชาวจีนสองราย ข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์


· การกำหนดนโยบายการเงินจีนเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วอย่างมากหลังจากพ้นวิกฤตการเงินปี 2008

นักวิเคราะห์จาก Allianz กล่าวว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง Covid-19 ของจีน สิ้นสุดลงไปตั้งแต่ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เร็วกว่าที่เคยใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยาวนานนับปีในยุควิกฤตการเงินระหว่างปี 2008 – 2009

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Allianz มองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดมีแนวโน้มจะช่วยเพิ่มอุปสงค์การส่งออกจีนให้สูงมากถึง 6 หมื่นล้านเหรียญ และเป้าหมายของการดำเนินนโยบายมีความรัดกุมขึ้นเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดการเงิน รวมทั้งความเสี่ยงจากการเติบโตที่ร้อนแรงในกลุ่มตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงิน


· น้ำมันดิบปรับขึ้นเล็กน้อยแม้ว่าจะมีความกังวลอุปสงค์ ท่ามกลางการ Lockdown ยุโรป

น้ำมันทรงตัวแม้จะมีความหวังจะเห็นอุปสงค์น้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปีนี้ และตลาดลดแรงเทขายที่เกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ตลาดก็ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากสถานการณ์การ Lockdown ในประเทศยุโรปที่บดบังแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 6 เซนต์ หรือ +0.1% ที่ 64.59 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 13 เซนต์ ที่ระดับ 61.55 เหรียญ/บาร์เรล


· ตลาดเงิน ลุ้นมติกนง.คงดอกเบี้ย 0.5% กรอบสัปดาห์นี้ 30.60-31.00 บาท/ดอลลาร์

สำหรับสัปดาห์นี้ มีนโยบายการเงินไทยที่ต้องติดตาม

แม้เราจะเชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)



ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ตามที่ตลาดคาดไว้ในวันพุธนี้ แต่ตลาดน่าจะจับตาไปที่มุมมองของกนง.ต่อที่ทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย และการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่ในปีนี้จากปลายปีที่แล้วที่ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 3.2% ในปี 2021



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com