ตลาดหุ้นเอเชียมีการซื้อขายผสมผสานกันจากกลุ่มนักลงทุนที่รอผลประชุมเฟดในคืนนี้เวลาตี 1 (ตามเวลาไทย)
ดัชนี ASX200 ของออสเตรเลียปิด -0.47% ที่ 6,795.20 จุด
- หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงนำ -1.19%
- หุ้นกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ปิด -1.46%
- หุ้นเหมือง Rio Tinto ปิด -0.95%
- หุ้นเหมือง BHP ปิด -1.64%
ดัชนีนิกเกอิปิดค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 29,914.33 จุด
ดัชนี Topix ปิด +0.13% ที่ 1,984.03 จุด
ดัชนี Kospi ปิด -0.64% ที่ 3,047.50 จุด
ดัชนีเซี่ยงไฮ้ ปิดทรงตัวบริเวณ 3,445.55 จุด
ดัชนีเสิ่นเจิ้น ปิด +1.22% ที่ 13,809.77 จุด
ดัชนี HSI ปิดลบหลังจากเปิดทรงตัวในแดนบวกช่วงบ่ายของตลาด
ดัชนีอินเดียอ่อนตัว แต่ STI ของสิงคโปร์ปิดบวก
นักกลยุทธ์จาก Commonwealth Bank of Austalia กับคาดการณ์เกี่ยวกับประชุมเฟดคืนนี้ โดยระบุว่า ช่วงแรกเราอาจเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและดอลลาร์ที่ปรับขึ้นก่อนประชุมเฟด และแถลงการณ์จากประธานเฟด
แต่ภาพรวมถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ยังมีแนวโน้มในเชิงผ่อนคลายทางการเงินแต่ก็อาจไม่เพียงพอจะบรรเทาตลาดพันธบัตรได้ ขณะที่ภาพรวม "ไม่คิดว่าเฟดจะกังวลต่อการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนมากนักในช่วงหลังจบการประชุม" เพราะพวกเขามองว่าเป็นผลสะท้อนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ก็ยังคาดว่าอาจเห็นประธานเฟด อาจกล่าวย้ำว่า เฟดจะใช้เครื่องมือที่แทรกแซงตลาดพันธบัตร หากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นอุปสรรคสำคัญหรือส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
แต่สิ่งที่จะเห็นแน่อีกหนึ่งอย่าง เราคาดว่าฟดน่าจะมีการปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพี และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯจากโครงการฉีดวัคซีนและการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
· Baidu เพิ่มเงินทุนประมาณ 3.1 พันล้านเหรียญในกระดานซื้อขายตลาดฮ่องกง และทำให้ภาพรวมราคาต่อหุ้นอยู่ที่ 252 ดอลลาร์ฮ่องกง (32.45 เหรียญ) ต่อเนื่อง
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผสมผสานก่อนเฟดตัดสินใจ - BMW ปรับพุ่ง 4.5%
ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสานจากนักลงทุนทั่วโลกที่รอผลประชุมเฟดในคืนนี้ โดยดัชนี Stoxx600 เปิด -0.18% ภาพรวมเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นเอเชีย
.png8412)
อย่างไรก็ดี ตลาดคาดว่าน่าจะเห็นเฟดเปิดเผยข้อมูลคาดการณ์เศรษฐกิจชุดใหม่ รวมทั้งคาดการณ์ดอกเบี้ย ที่อาจมีนัยยะต่อโอกาสจะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยก่อนหรือหลังปี 2023
สำหรับทางฝั่งยุโรป ผู้เชี่ยวชาญต่างๆออกมากล่าวเตือนว่าการระงับใช้วัคซีนจากความกังวลว่าอาจเป็นผลจากรายงานการพบลิ่มเลือด อาจเป็นตัวกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคได้
· BMW เล็งเห็นผลประกอบการโตได้ในปี 2021 พร้อมคาดเห็นสัญญาณยอดขายโตขึ้นในปีนี้อย่างแข็งแกร่งแทบจะทุกตลาด คาดปีนี้โตได้ระหว่าง 6% และ 8%
ภาพรวมคาดว่า 90% ของส่วนแบ่งตลาดทั้งหมดจะได้รับอานิสงส์จากรถต้นแบบพลังงานไฟฟ้าสำหรับปี 2023 และ BMW i4 Model ที่จะเปิดตัวในอีก 3 เดือนข้างหน้า
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ
- หุ้นไทยวันนี้ (17 มี.ค.) ปิดตลาดภาคเช้า -1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,562 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 51,529 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ OR PTT และ HANA
การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 มี.ค.)ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,562.31 จุด ปรับลง -1.72 จุด หรือคิดเป็น -0.11% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 51,529 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,559.22-1,568.92 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ OR PTT และ HANA
ดัชนี SET50 ล่าสุดปรับลง -1.27 จุด คิดเป็น -0.13% อยู่ที่ 963.99 จุด โดยมูลค่าซื้อขายรวม อยู่ที่ 23,175 ล้านบาท เทียบเป็นราว 44.97% ของการซื้อ-ขายทั้งหมด
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท พร้อมทั้งแนวทางการปรับปรุงและมาตรการแก้ไขกรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุน 6.2 แสนล้านบาท มีจำนวนน้อยกว่าวงเงินขาดดุลงบประมาณที่ 7 แสนล้านบาท
- รัฐบาลมีแนวโน้มจัดทำงบประมาณกลางปี 2565 เพิ่ม หากเศรษฐกิจช่วงต่อไปฟื้น ทำให้จัดเก็บงบประมาณได้มากขึ้น หลังกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ที่ 3.1 ล้านล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 5.66% กระทรวงศึกษาธิการ ยังคงรองอันดับหนึ่งได้รับงบสูงสุด 332,398 ล้านบาท แจงงบกลาง 571,047 ล้านบาท นายกฯ ไม่ได้ใช้ทั้งหมด แต่มีมากถึง 11 รายการ
- รมว.คลังเปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มทยอยฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แล้วทำให้มาตรการต่างๆ เริ่มผ่อนคลาย ประชาชนมีความเชื่อมั่นมีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น และเชื่อว่าเดือนเม.ย. ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์นี้การท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเท่าที่ทราบสายการบินต่างๆ ถูกจับจองที่นั่ง เที่ยวบินเต็มทุกเที่ยวบินแล้ว ขณะที่ปริมาณการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงนี้ก็เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจเพราะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะฐานรากจะมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
- รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ยังคงติดตามสถานการณ์ในเมียนมาที่มีความรุนแรงต่อเนื่อง เพราะกังวลว่าหากมีการปราบปรามรุนแรงมากขึ้นอาจทำให้สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ใช้มาตรการคว่ำบาตรขั้นสูงขึ้น คือการห้ามประเทศใดๆ ทำการค้าขายกับเมียนมา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมที่รุนแรง จึงต้องติดตามประเด็นดังกล่าวใกล้ชิด
- "หอการค้า" แนะรัฐทำแผนบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ให้ชัดเจน เน้นกระจายอย่างทั่วถึง หวังเป็นการเตรียมความพร้อมรับเปิดประเทศ หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/64 ลุ้นทั้งปีโต 3-4%