MTS Help Center

ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 300 จุด หลังตลาดผิดหวัง “โพเวลล์” ไม่กังวลเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่ Nasdaq ดิ่งลงแรงในปีนี้

ดัชนี S&P500 ปิด –1.3% ที่ 3,768.47 จุด หลังจากที่ระหว่างวันผันผวนในทิศทางขาลงและปรับตัวลงกว่า -2.5% ไปทำต่ำสุด

ดัชนี Dow Jones ปิด -345.95 จุด หรือ -1.1% ที่ 30,924.14 จุด โดยระหว่างการซื้อขายดิ่งแรงกว่า 700 จุด

ดัชนี Nasdaq ปิด -2.1% ที่ 12,723.47 จุด ท่ามกลาง Tesla ร่วงเกือบ 5%

ภาพรวม Nasdaq ปีนี้กลับมาเป็นแดนลบอีกครั้ง โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน -1.3%
และปรับลงแรงกว่า 10% นับตั้งแต่จุดสูงสุดที่ทำไว้เมื่อช่วง 52 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลง จากการที่ “โพเวลล์” ไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวังไว้ โดยนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ยังคงส่งสัญญาณที่จะเดินหน้าผ่อนคลายทางการเงินต่อไป จึงทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับพุ่ง และตลาดกลับมาคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้ออีกครั้ง

ประธานเฟดยังคงมีมุมมองต่อ “การกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ” ที่จะเป็นตัวช่วย “เร่งการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ” จึงเป็นการตอกย้ำถึงสภาวะที่ เฟดจะอดทนรอต่อไปก่อนจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ

อย่างไรก็ดี ประธานเฟดตระหนักดีว่าการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในเวลานี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงจะมีการ “จับตาอย่างใกล้ชิด” ก่อนจะตัดสินใจดำเนินการใดๆ

นักลงทุนบางส่วนค่อนข้างผิดหวังที่เฟดไม่มีท่าทีหนักแน่นในการเปลี่ยนแปลงแนวทางการซื้อสินทรัพย์

กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการที่เฟดจะกลับมาดำเนินนโยบายในรูปแบบ “Operation Twist” เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ที่จะช่วยทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดพันธบัตรระยะสั้น และมีการเข้าซื้อผลตอบแทนพันธบัตรในระยะยาวแทน

นอกจากนี้ ตลาดรับข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้นกว่าคาดการณ์เล็กน้อยในสัปดาห์ที่แล้ว

หัวหน้าฝ่ายการลงทุนจาก Independent Advisor Alliance กล่าวว่าตลาดส่วนใหญ่ตอบรับข่าวดี ทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดเองก็เผชิญข่าวร้ายและการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นหากเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดการณ์

นักลงทุนบางส่วน เชื่อมั่นว่า การเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นตัวเร่ง “มุมมองเชิงบวกต่อตลาด” โดยล่าสุด วุฒิสภาสหรัฐฯกำลังหารือกันเรื่องแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญที่ได้รับต่อจากสภาผู้แทนราษฎร ท่ามกลางนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนแผนการจำกัดและปรับลดข้อกำหนดผู้ได้รับเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้แพ็คเกจดังกล่าว

ที่มา: CNBC