MTS Help Center

ทองคำปรับตัวลงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่ง

ราคาทองคำบรรเทาแรงดิ่งกว่า 1% ในช่วงต้นตลาดสหรัฐฯวานนี้ได้ ท่ามกลางแรงกดดันจาก
1) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 1.4% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. ปีที่แล้ว
2) ดัชนีดอลลาร์กลับมาทรงตัวใกล้ระดับแข็งค่ามากสุดรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่
3) SPDR ขายทองคำออกต่อเนื่อง 4 วันทำการ
4) ข้อมูลยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯพุ่งขึ้นเกินคาด
5) หุ้นสหรัฐฯปิดพุ่งขึ้นในแดนบวก ขานรับถ้อยแถลงเฟดที่ยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

จึงบดบังปัจจัยบวกในช่วงต้นได้รับอานิสงส์จากถ้อยแถลงเชิงผ่อนคลายทางการเงินของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.4% ที่ 1,798.10 เหรียญ หลังจากที่ดิ่งลงไปกว่า 1.2% เมื่อคืนนี้

·          

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด -0.4% ที่ 1,797.90 เหรียญ

 

·         กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 4.08 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,106.36 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค. ปีที่แล้ว

รวมขายต่อเนื่อง 4 วันทำการ 26.53 ตัน  ขณะที่ตลอดเดือนก.พ.นี้ SPDR มีการขายทองคำออกมาแล้วสุทธิ 53.77 ตัน เป็นการขายต่อเนื่อง 5 เดือนติดกันตั้งแต่ต.ค. ปี 2020  โดยหากรวมช่วงเดือนม.ค. ถึงปัจจุบันขายแล้วทั้งสิ้น 64.38 ตัน

 

·         หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจาก Blue Line Futures กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเป็นปปัจจัยที่เข้ากดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเวลานี้

 

·         เมื่อคืนนี้นายโพเวลล์ ยังคงกล่าวย้ำถึงการที่เฟด จะยังคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป และเฟดจะยังคงการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจต่อ ตอกย้ำถึงความจำเป็นที่เศรษฐกิจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์

 

·         เทรดเดอร์ประจำ BMO มองว่า ตลอดช่วง 2 วัน ประธานเฟดค่อนข้างส่งสัญญาณอย่างมากต่อแนวทางการผ่อนคลายทางการเงินที่ส่งผลในเชิงเป็นมิตรต่อตลาดหุ้น และกดดันค่าเงินดอลลาร์ รวมทั้งช่วยพยุงราคาทองคำได้

 

·         นักลงุทนยังคงจับตาความคืบหน้าของแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดในวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ ที่อาจนำไปสู่การเห็นเศรษฐกิจเร่งฟื้นตัวได้ แม้ว่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อควบคู่กันก็ตาม

·         ซิลเวอร์ปิด +0.7% ที่ระดับ 27.82 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด +1.7% ที่ 1,258.50 เหรียญ

·         ราคาพลาเดียมปิด +3.5% ที่ 2,431.60 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 15 ม.ค.

 

·         ตลาดพันธบัตรตอบรับถ้อยแถลงของนายโพเวลล์เมื่อคืนนี้

เมื่อคืนนี้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี พุ่งทะยานทำสูงสุด 1.42% สูงสุดตั้งแต่ ก.พ. 2020

การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหนุนนักลงทุนออกจากหุ้นกลุ่ม High-Flyong เข้าสู่ตลาดพันธบัตร

กดดันการเติบโตของบางบริษัท เช่น บริษัทด้านเทคโนโลยี ที่ได้รับประโยชน์จากการใช้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระดับต่ำ

 

·         ดอลลาร์ชะลอการแข็งค่าหลัง “โพเวลล์” ยังมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงิน - ปอนด์ยังแข็งค่าต่อ

ค่าเงินปอนด์ทำแข็งค่ามากสุดทะลุ 1.42 ปอนด์/ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เม.ย. ปี 2018

ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าได้ 0.29% มาที่ 90.378 จุด โดยภาพระหว่างวันยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ

ออสเตรเลียดอลลาร์ทำแข็งค่ามากสุดรอบ 3 ปีต่อบริเวณ 0.794 เมื่อเทียบดอลลาร์ หลังจากที่อ่อนตัวในช่วงต้นตลาด

ค่าเงินกีวีของออสเตรเลียก็ทำแข็งค่ามากสุดตั้งแต่ปี 2018 โดยปิด +0.69% ที่ 0.739 กีวี/ดอลลาร์

 

·         Bitcoin พุ่งทะลุ 50,000 จุดอีกครั้ง จากแรงซื้อของบริษัท Square ที่ประกาศมีการเข้าซื้อ Cryptocurrency มูลค่า 170 ล้านเหรียญ  โดยล่าสุด Bitcoin ปรับขึ้นมาที่ 50,061 เหรียญ หลังไปทำสูงสุด 51,369 เหรียญหลังทราบการประกาศดังกล่าว

 

·         เฟดคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน, ยังคงดอดทนรอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ถ้อยแถลงของประธานเฟดก่อนเข้าพบคณะกรรมาธิการกำกับดูแลบริการภาคการเงินของสหรัฐฯ ยังเห็นเฟดกล่าวย้ำถึง
- เฟดให้คำมั่นที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจเพื่อให้กลับมามีการจ้างงานได้อย่างเต็มที่
- มีความกังวลต่อเงินเฟ้อน้อย แม้จะเริ่มเห็นการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ
- ไม่คิดว่าการปรับขึ้นของเงินเฟ้อจะเป็นปัญหา
- คาดเงินเฟ้ออาจจะต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดจนถึงปี 2023 ได้
- การอัดฉีดทางการเงินไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ
- ขาดแรงหนุนอย่างมากในตลาดแรงงาน
- ค่าเงินดิจิทัลดอลลาร์ เคลื่อนไหวในระดับสูงกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้

 

·         ผู้เชี่ยวชาญจาก UBS Global Wealth Management ระบุว่า ถ้อยแถลงประธานเฟดเป็นการยืนยันแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

 

·         นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็น “ขาขึ้น” และคาดว่าเงินเฟ้ออาจแตะเป้าหมาย 2% ในช่วงสิ้นปีนี้ พร้อมย้ำว่าเฟดมีการกำหนดนโยบายที่เป็นไปอย่างเหมาะสม

 

·         สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เตรียมลงมติกระตุ้นเศรษฐกิจศุกร์นี้ ทำให้เราอาจเห็นการผ่านร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจำนวนวงเงินมหาศาล และ “มีแนวโน้ม” จะเห็นการลงมติของวุฒิสภาต่อในช่วงต้นเดือนมี.ค.

 

·         สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ลดแรงสนับสนุนและกดดันให้ลดวงเงินแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ ของไบเดน

 

 

·         ไบเดนลงนามคำสั่งฉุกเฉินในการจัดหาชิปเพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลน และปรับทบทวนการหาวิธีเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน

 

·         ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯพุ่งสูงขึ้นเกินคาดเดือนม.ค. โดยได้รับแรงหนุนครั้งประวัติศาสตร์จากอัตรากู้บ้านที่อยู่ระดับต่ำและปัญหาการขาดแคลนบ้านของผู้เป็นเจ้าของก่อนหน้านี้

ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯปรับขึ้นแตะ 4.3% สู่ระดับ 923,000 ยูนิตในเดือนม.ค. ขณะที่เดือนธ.ค. ปรับทบทวนเพิ่มมาที่ 885,000 ยูนิต

 

·         หน่วยงาน NFR เผย ยอดค้าปลีกสหรัฐฯปีนี้จะปรับขึ้นได้กว่า 8.2% สู่ระดับ 4.33 ล้านล้านเหรียญ อันเนื่องจากประชาชนได้รับวัคซีน Covid-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท่ส่งสัญญาณเชิงบวก หนุนการกลับมาเปิดทำการ

 

·         สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาในเวลานี้

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกล่าสุดทะลุ 113 ล้านรายเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดอยู่ที่ 113.07 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 2.50 ล้านราย

โดยสหรัฐฯ ยังเป็นอันดับหนึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 28.96 ล้านราย และเสียชีวิตรวม 517,289 ราย ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่ายอดติดเชื้อสะสมในรัสเซียทะลุ 4 ล้านรายแล้ว

สถานการณ์การระบาดในไทย พบยอดผู้ติดเชื้อติดเฉียด 100 ราย โดยล่าสุดเพิ่มขึ้น 93 ราย ติดเชื้อสะสม 25,692 ราย โดยมียอดผู้เสียชีวิตคงเดิิม 83 ราย

 

·         วัคซีน “ซิโนแวค” จากจีนลอตแรกจำนวน 2 แสนโดสเดินทางถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยและถูกนำไปเก็บไว้ที่คลังเก็บวัคซีนรอการตรวจสอบประสิทธิภาพแล้ว และดำเนินการฉีดให้กลุ่มเป้าหมายต่อไป ส่วนลอต 2 และ 3 รวม 1.8 ล้านโดส อีก 2-3 เดือน มาถึง ขณะที่วัคซีนแอสตราเซเนกา มาถึงตามหลัง ช่วงบ่ายวันเดียวกัน

 

·         นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า ศบค.ให้ความเห็นชอบแผนกระจายวัคซีน 2 แสนโดสแรก 13 จังหวัด ล็อต2-3เพิ่มอีก 5 จังหวัด รวมกระจายให้ 18 จังหวัด ประกอบด้วย กลุ่มแรก พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร จำนวน 70,000 โดส  ปทุมธานี 8,000 โดส สมุทรปราการ 6,000 โดส และกลุ่มพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม คือ ชลบุรี 4,700 โดส ภูเก็ต 4,000 โดส อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 2,500 โดส และจ.เชียงใหม่ 3,500 โดส

 

 

·         สาธารณรัฐเชคเผชิญกับยอดติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งตั้งแต่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา

ยอดติดเชื้อใหม่ในประเทศเพิ่มมากถึง 15,000 ราย ถือเป็น และมีอัตราการระบาดที่รวดเร็วมากที่สุดในยุโรป ที่สูงกว่า 6 เท่าของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเยอรมนีในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

จำนวนคนติดเชื้อตามโรงพยาบาลยังอยู่ขั้นวิฤตสูงถึง 1,389 ราย หรือสูงสุดประวัติการณ์ ขณะที่เตียงผู้ป่วย เหลือเพียง 2-3 ที่ จากจำนวนเตียงรักษาในประเทศมี 10.7 ล้านเตียง

 

·         ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคติดต่อและโรคระบาดสหรัฐฯ (CDC) เตือนให้ระวังไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจเป็นตัว “ทำลาย” ความพยายามทั้งหมดได้ หากเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลก

 

·         Moderna พัฒนาวัคซีนหนุนต่อสู้สายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งเพิ่มเป้าหมายการผลิตวัคซีนที่ 100 ล้านโดสเพื่อรองรับกับการต้านสายพันธุ์ใหม่ ท่ามกลางความกังวลเพิ่มขึ้น

 

·         Pfizer-BioNTech เผยผลทดสอบวัคซีน Covid-19 ที่พบว่ามีประสิทธิภาพสูงถึง 94% จากการใช้งานจริงทั่วโลก หวังเห็นความเป็นไปได้ในการสิ้นสุด Lockdown และสามารถกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจได้

 

·         เจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เผยวัคซีน Covid-19 ของบริษัท Johnson & Johnson มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการฉีดเพียง 1 เข็ม จึงอาจนำไปสู่การได้รับอนุมัติใช้ฉุกเฉิน

ทั้งนี้ FDA และผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่างๆจะประชุมร่วมกันในวันศุกร์นี้ว่าจะอนุมัติวัคซีนบริษัทดังกล่าวหรือไม่

รายงานของบริษัท Johnson&Johnson (J&J) ได้รับการยืนยันจาก FDA แล้วว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพและป้องกันการระบาดแบบไม่แสดงอาการได้ โดยการทดสอบการใช้วัคซีนในกลุ่มดังกล่าว 16 รายเพียง 1 เข็ม พบว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้วัคซีน 2 เข็ม โดยมีประสิทธิภาพที่ 88%

 

·         ทำเนียบขาวคาดหวังได้วัคซีนจาก Johnson&Johnson 3-4 ล้านโดสภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่รอ FDA ทำการอนุมัติ

การเพิ่มจำนวนวัคซีนจะยิ่งทำให้ขยับใกล้เป้าหมายโครงการฉีดวัคซีนที่ทีมบริหารไบเดนวางไว้ ขณะที่ CEO บริษัท  Johnson&Johnson คาดจะจัดส่งวัคซีนได้เกือบ 4 ล้านโดส

 

·         หน่วยงาน PAHO ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ WHO ระบุถึงจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯลดน้อยลง แต่ผลจากวัคซีนอาจใช้เวลาหลายเดือน

จำนวนยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในสหรัฐฯลดลงราว 30% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐฯ ดังนั้น PAHO จึงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลและกลุ่มผู้ผลิตเร่งการจัดส่งวัคซีนให้รวดเร็วขึ้นแก่ภูมิภาคที่มีประชาชนจำนวน 1 ล้านคน เนื่องจากพบว่ามีการกลับมาป่วยและเสียชีวิตราว 34,000 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

 

·         COVAX ขนส่งวัคซีนลอตแรกให้ประเทศกานาแล้ว

 

·         เยอรมนี ยัน ประชาชนจะได้รับวัคซีนของ AstraZeneca เพิ่ม 15 ล้านโดสช่วงไตรมาสที่ 2/2021

 

·         เยอรมนีอนุมัติการใช้เครื่องมือทดสอบ Covid-19 ได้ที่บ้าน เตรียมปูทางสู่การคลาย Lockdown นับตั้งแต่ที่ใช้มาตรการดังกล่าวในช่วงกลางเดือนธ.ค. เป็นต้นมา

ภาพรวมการติดเชื้อในประเทศเยอรมนีค่อนข้างลดลงอย่างมีเสียรภาพเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ของปี แต่ภาพรวมเป็นการค่อยๆลดอย่างช้าๆ จึงสร้างความยากลำบากมากขึ้นต่อการพิจารณาคลายมาตรการคุมเข้ม ซึ่งบรรดาผู้นำของประเทศจะเข้าพบกันในสัปดาห์หน้า เพื่อประชุมถึงแนวทางการตัดสินใจเรื่อง Lockdown ที่มีกำหนดรอบล่าสุดถึง 7 มี.ค. นี้

 

·         สถาบันวิจัย DIW ชี้ เศรษฐกิจเยอรมนีจ่อหดตัว -1.5% ในช่วงต้นปี 2021 โดยมีสาเหตุหลัก

- จากการใช้มาตรการ Lockdown เพื่อจำกัดการติดเชื้อ Covid-19

- ยอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ

- การระบาดของไวรัสกระทบภาคการผลิตให้ชะลอตัว

 

·         อินเดีย เตือนความเลวร้ายของสถานการณ์ Covid-19 แม้จะฉีดวัคซีนได้มากขึ้น

อินเดียประกาศขยายโครงการฉีดวัคซีน แต่เตือนถึงสถานการณ์อาจกลับมาระบาดเพิ่มขึ้นได้อีกครั้งในหลายๆพื้นที่

แม้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินเดียจะประกาศการควบคุมเชื้อ Covid-19 ได้ แต่รัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของประเทศ และรัฐเกรละทางตอนใต้ ยังมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น จากการไม่สวมหน้ากากอนามัย และไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะทางสังคม

ภาพรวมยอดติดเชื้ออินเดียทะลุ 11 ล้านราย โดยช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีค่าเฉลี่ยติดเชื้อ 13,742 ราย ขณะที่ข้อมูลเสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ 104 ราย ในหนึ่งวัย ทำให้ยอดเสียชีวิตรวมสะสมสูงกว่า 156,000 ราย

 

·         กว่า 200 องค์กรทั่วโลกเรียกร้องให้ G20 สนับสนุน IMF ในการช่วยเหลือประเทศยากจนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

 

·         แอฟฟริกาใต้หนุนเพิ่มงบด้านวัคซีนที่อาจสูงมากถึง 1.93 หมื่นล้านแรนด์ (1.33 พันล้านเหรียญ เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง ท่ามกลางความกังวลเรื่องระดับหนี้สิน

 

·         ผลสำรวจ Reuters สะท้อนมุมมอง เศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 4/2020 จากการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มหลังพ้นจุดพีคของ First Wave

 

·         อิหร่าน ชี้ สหรัฐฯต้องเป็นฝ่าย “เริ่มก่อน” หากจะรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

 

·         นักบริหารเงิน ระบุว่า "บาทขยับในกรอบแคบๆ ตามแรงซื้อแรงขายที่มีปริมาณพอกัน ขณะที่ภูมิภาคมีแนวโน้มแข็งค่า" โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 30.00-30.10 บาท/ดอลลาร์

จากเมื่อวานเงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 30.04 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดเมื่อ เช้าอยู่ที่ระดับ 30.01 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวตามแรงซื้อและแรงขายในกรอบ 30.02-30.04 บาท/ดอลลาร์ ขณะ ที่ค่าเงินในภูมิภาคมีแนวโน้มแข็งค่า

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข คาดปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้จะจัดส่งไปยังโรงพยาบาลตามแผนการฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย ประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข อสม.ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด, พื้นที่ควบคุมสูงสุด, พื้นที่ควบคุม และพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม รวม 18 จังหวัด โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งระบบการเก็บและการจัดส่งวัคซีนจะควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 2-8 องศาเซลเซียส เพื่อคงคุณภาพของวัคซีน

-รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา คาดสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น หลังมีการนำวัคซีนโควิด-19 มาใช้งาน ทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงเหลือหลักสิบในเดือน มี.ค.64 ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 5 ล้านคน ปี 65 เพิ่มขึ้นเป็น 15 ล้านคน ปี 66 ขยับเพิ่มเป็น 30 ล้านคน และปี 67 กลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนปี 62