• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564

    11 กุมภาพันธ์ 2564 | Economic News
   

·         ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าใกล้ต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ หลังข้อมูลเงินเฟ้อยังอ่อนตัว

แม้ว่าวันนี้ตลาดเอเชียส่วนใหญ่จะปิดทำการในวันหยุดประจำชาติ ค่าเงินดอลลาร์ก็ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าลงต่อใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ โดยดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 90.387 จุด หลังเมื่อคืนนี้ลงไปทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 2 สัปดาห์แถว 90.249 จุด หลังทราบข้อมูลมาตรวัดเงินเฟ้อสหรัฐฯ จากดัชนี CPI ที่ออกมาแย่กว่าคาดและเฟดให้คำมั่นจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป

ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์เคลื่อนไหวต่ำกว่าสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อคืนนี้

"เงินเฟ้อ" ยังเป็นจุดเด่นของตลาด โดยที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอาจเห็นการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ หลังจากที่อ่อนค่าลงไปในปีที่แล้วจากภาวะ Shock ทางเศรษฐกิจ และนำมาสู่มุมมองของนักลงทุนที่คิดในเรื่องการทดสอบการแก้ปัญหาของเฟดที่จะเกิดขึ้นตามมา

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.2119 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งใกล้เคียงกับระดับแข็งค่ามากสุดตั้งแต่ 1 ก.พ.

ค่าเงินปอนด์ได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์จะเห็นดอกเบี้ยติดลบจากธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่เมื่อวานนี้ปรับขึ้นไปทำแข็งค่ามากสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ 1.3865 ดอลลาร์/ปอนด์


ด้านถ้อยแถลงประธานเฟดล่าสุดเมื่อวานนี้ ดูจะยังให้น้ำหนักไปยัง

- คนว่างงานที่ยังอยู่ระดับสูง

- ย้ำถึงเฟดต้องคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป เนื่องจากอาจผลักดันให้ข้อมูลเงินเฟ้อรายปีปรับสูงขึ้น

- เงินเฟ้อที่ยืนเหนือ 2% ได้ในบางอาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังทำสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ 104.41 เยน/ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ โดยล่าสุดทรงตัวบริเวณ 104.59 เยน/ดอลลาร์

Bitcoin ที่ถูกใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเป็นบางเวลา ปรับอ่อนตัวลงเล็กน้อยประมาณ 7% หลังไปทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีระดับซื้อขายแถว 44,786 เหรียญ

 

·         เยลเลน” จับตานวัตกรรมในการต่อสู้กับการใช้ Bitcoin ในทางที่ผิด

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวเตือน ความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้น” จากตลาดดิจิทัล อันรวมไปถึงการใช้ Cryptocurrency ในทางที่ผิด แต่ภาคเทคโนโลยีด้านการเงินในการต่อสู้กับอาชญากรรมและลดความไม่เท่าเทียมกันในตลาด

ทั้งนี้ นางเยลเลน ย้ำเตือนถึงนวัตกรรมในกลุ่มการเงินเพื่อใช้สกัดการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายจากกลุ่มอาชญากรรมและกลุ่มแฮคเกอร์ เพื่อลดช่องว่างด้านดิจิทัลในสหรัฐฯ

 

·         จิม แคร์เมอร์ เรียกร้องให้สหรัฐฯ สร้างโรงงานเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนชิป และการว่างงาน

จิม แคร์เมอร์ ผู้ประกาศข่าวของสำนักข่าว CNBC มองว่า สหรัฐฯควรให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาส่วนประกอบการผลิตชิปเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นของประเทศและปัญหาการขาดแคลนชิปที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสหรัฐฯ

 

·         ไบเดนกังวลต่อการคุยผ่านโทรศัพท์อย่างเป็นทางการครั้งแรกกับประธานาธิบดีจีน

 

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ร่วมพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่ง

 

ทั้งนี้ นายไบเดน แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับจีน ดังนี้

การบีบบังคับและความไม่ยุติธรรมทางเศรษฐกิจฮ่องกง

สิทธิมนุษยชนใน มณฑลซินเจียง

การดำเนินการรุกรานที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะในไต้หวัน

 

 

·         สหรัฐฯเล็งเพิ่มมาตรการคุมเข้มด้านการส่งออกเทคโนโลยีไปยังประเทศจีน

 

ทีมบริหารของนายไบเดนจะทำการเพิ่ม "เป้าหมายการใช้มาตรการคุมเข้มรอบใหม่" ต่อการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีจีนที่ค่อนข้างจะอ่อนไหวต่อการจัดการกับชาติพันธมิตร

 

พร้อมกันนี้ สหรัฐฯจะไม่ทำการ "ยกเลิก" การขึ้นภาษีสินค้าจีน ที่เกิดขึ้นในทีมบริหารของนายทรัมป์ ก่อนที่จะจัดการกับการและหารือต่อการปรับทบทวนข้อตกลงกับชาติพันธมิตร

 

 

·         ประธานาธิบดีจีน ชี้ การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อทั้งสองประเทศ

 

·         ไต้หวัน - สหรัฐฯ จัดประชุมร่วมกันครั้งแรกภายใต้การบริหารชุดใหม่ของทีมนายไบเดน

 

·         ไต้หวัน ชื่นชม ไบเดน สำหรับการโทรคุยกับประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ครั้งแรก

รัฐบาลไต้หวัน แสดงความขอบคุณ และชื่นชม นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากโทรคุยกับประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับความกังวลต่อกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวัน ที่อ้างสิทธิการปกครองโดยจีน

อย่างไรก็ดี การโทรคุยอย่างเป็นทางการระหว่างนายไบเดน และนายสี จิ้น ผิง เป็นการเพิ่มความมั่นใจต่อไต้หวัน ว่าคำมั่นสัญญาที่มีต่อไต้หวันนั้น “ มั่นคง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่จีนก้าวเข้าสู่กิจกรรมทางทหารใกล้เกาะนี้ไม่นานหลังจากที่นายไบเดนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา

 

·         อินเดีย-จีน เห็นพ้องถอนกองกำลังจากบริเวณข้อพิพาทเทือกเขาหิมาลัย

 

·         IAEA เผย อิผลิตแร่ยูเรเนียมเพิ่ม  ฝ่ายฝืนคำสั่งข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015 แม้ว่าชาติมหาอำนาจทางตะวันตกจะกล่าวเตือนว่าการกระทำดังกล่าวอาจทำลายข้อตกลงมากกว่า ในการนำแร่ยูเรเนียมมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการสร้างระเบิดปรมาณู

 

 

 

·         CDC ชี้ การใส่หน้ากากอนามัยจำนวน ชั้น ดูจะช่วยลดการระบาดของ Covid-19 ได้อย่างเหมาะสมกว่า


·         หัวหน้าควบคุมพันธุกรรมของอังกฤษ เผยว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ถูกพบขึ้นที่เมือง Kent ในครั้งแรก จะระบาดไปทั่วโลก

 

 

·         ฮ่องกงลดการจัดงานเทศกาลตรุษจีน ท่ามกลางการควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19

 

 

·         ราคาน้ำมันดิบปรับลงหลังขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ความหวังอุปสงค์ช่วยจำกัดการปรับลง

 

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยเผชิญแรงเทขายหลังปรับขึ้นแข็งแกร่งจากกลุ่มนักลงทุนเพื่อทำกำไร ขณะเดียวกันตลาดน้ำมันก็ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากการที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ๋อย่างประเทศซาอุดิอาระเบียยังคงปรับลดกำลังการผลิตต่อ

 

น้ำมันดิบ Brent ปรับลงหลังประมาณ 40 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.7% ที่ระดับ 61.07 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ไปทำสูงสุดตั้งแต่ม.ค.ปี 2020 ท่ามกลางการปรับขึ้นมาอย่างยาวนานต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

 

น้ำมันดิบ WTI ปรับลง 35 เซนต์ หรือ -0.6% ที่ 58.33 เหรียญ/บาร์เรล

 

นอจากนี้ ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบจาก EIA ก็ยังปรับลดลงได้อย่างต่อเนื่องเป็นจำนวน 3 สัปดาห์ และล่าสุดทำต่ำสุดตั้งแต่มี.ค. ปีที่แล้วก็ดูจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันดิบได้อยู่

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com