• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564

    8 กุมภาพันธ์ 2564 | Economic News
   

·         ดอลลาร์อ่อนค่า เหตุไม่แน่ใจเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่  เนื่องจากตลาดเริ่มเล็งเห็นถึงข้อมูลจ้างงานที่ออกมาผิดหวังจึงลดการถือครองในดอลลาร์

ดัชนีดอลลาร์วันนี้ทรงตัวแนว 91.084 จุด  โดยอ่อนค่าลง 0.6% จากระดับปิดวันศุกร์

ทางด้านยูโรยังทรงตัวอยู่แนว 1.2048 ดอลลาร์/ยูโร  แต่เผชิญกับการทดสอบในช่วงท้ายวันจากข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีทีชะลอตัวลงในช่วงสิ้นปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์บางราย มองกว่า ถึงกลุ่มนักลงทุนมีการลดสถานะ Short ในดอลลาร์ แต่ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและความคืบหน้าในการต่อสู้กับวิกฤตไวรัสโคโรนาก็ดูจะเป็นตัวที่อาจผลักดันให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ 1.3736 ดอลลาร์/ปอนด์ ปิดใกล้สูงสุดรอบเกือบ 3 ปี

เงินเยนทรงตัวที่ 105.38 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากสูงสุดรอบ 3 เดือน

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯล่าสุดดูจะเห็นการจ้างงานออกมาแย่กว่าที่คาด แม้ว่าผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ก่อนออกมาดีขึ้น

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ตลาดให้ความสำคัญช่วงปลายสัปดาห์นี้

ดัชนีราคาผู้บริโภค

ความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ดูจะเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อสหรัฐฯที่อาจจะปรับตัวสูงขึ้นและอาจหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯด้วย

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว หากออกมาน่าผิดหวังจะกดดันดอลลาร์ได้ต่อ

CFTC เผย กลุ่มนักลงทุนมีการหารือกันเรื่องภาวะขาลงของดอลลาร์ หลังจากที่มีปริมาณการถือ Short ในดอลลาร์ลดลงแตะ 2.995 หมื่นล้านเหรียญ ในสัปดาห์ที่แล้ว เมือเทียบกับสถานะ Short ในสัปดาห์ก่อนที่มีมูลค่าการถือครองที่ 3.381 หมื่น้านเหรียญ

Ethereum ปรับลง 3.88% ที่ 1,615 เหรียญ ยังคงเผชิญแรงขายหลังทำสูงสุดประวัติการณ์ในการเปิดทำการซื้อขาย Ether Futures ในตลาด CME วันนี้วันแรก

Bitcoin ค่าเงินดิจิทัลยอดนิยมปรับลง 0.88% ที่ 38,936 เหรียญ

 

·         Standard Chartered แนะ "อย่าประมาท" เนื่องจากการทำ Short ในดอลลาร์ยังไม่จบ  ดังนั้น จึงอาจเกิดการทำ Short ครั้งใหญ่ในค่าเงินดอลลาร์ตามมาอีกครั้งได้


·         อังกฤษ เผย วัคซีน AstraZenecaช่วยยั้งการตายจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาได้ด้วยอัตราเพียงครึ่งโดส

 

·         ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันประจำเดือนธ.ค.ซบเซเนื่องจากมาตรการ Lockdown ทั้งในและต่างประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งฉุดรั้งภาคการผลิตที่มุ่งเน้นการส่งออกในเศรษฐกิจของยุโรป

ทั้งนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมทรงตัวในเดือนนี้หลังจากปรับเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของ Reuters คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%

 

·         จีนรายงานว่าไม่มีผู้ติดเชื้อยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ภายในประเทศเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ เดือน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าทางการจีนสามารถควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสระลอกใหม่ได้สำเร็จ

 

·         ออสเตรเลียได้สร้างความมั่นใจให้กับพลเมืองของตนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาของบริษัท AstraZeneca เพื่อคลายความกังวลหลังทางการแอฟริกาใต้ประกาศแผนระงับการฉีดวัคซีนของบริษัทดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เนื่องจากการทดสอบปรากฏให้เห็นผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจมากนัก

 

·         สิงคโปร์ได้เลื่อนการทำข้อตกลง Travel Bubble ออกไปอย่างไม่มีกำหนดการแน่นอนว่าจะสรุปได้ในเมื่อใด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศยังไม่สามารถควบคุมได้

หนังสือพิมพ์ Business Times ของสิงคโปร์รายงานว่า โครงการนำร่อง Connect@Singapore ยังไม่ปรากฏความคืบหน้าเป็นรูปร่าง จากที่แต่เดิมมีกำหนดเริ่มโครงการในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา


·         พระเณร เข้าร่วมประท้วงต้านรัฐประหารที่เมียนมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

 

·         Brent แตะ 60 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากการปรับลดอุปทาน และความหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยหนุนราคา

ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบปี ขณะที่น้ำมันดิบ Brent  futures พุ่งแตะระดับ 60 เหรียญ/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการลดอุปทานลงของกลุ่มผู้ผลิตและความหวังที่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของสหรัฐฯ จึ่งช่วยเพิ่มอุปสงค์

น้ำมันดิบ Brent แตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 60.06 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ของปีที่แล้ว ที่ 59.98 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นที่ 64 เซนต์ หรือ 1.1%

น้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1.1% ที่ระดับ 57.50 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ของปีที่แล้ว


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com