MTS Help Center

ขณะที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรส กำลังดำเนินการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเยียวยาโควิดมูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญ ท่ามกลางสมาชิกจากพรรครีพับลิกันหลายรายที่เสนอให้มองที่ความจำเป็นของประเทศเป็นหลัก ขณะที่มุมมองของสมาชิกเฟดมีความเห็นที่แตกต่างออกไป

นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส
กล่าวถึงสถานการณ์การะรบาดในเวลานี้ที่ยังไม่จบลงได้โดยง่าย และเขาคาดว่าการกระจายวัคซีนจะช่วยให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำการได้ และเศรษฐกิจอาจเติบโตได้ถึง 5% ในปีนี้ หากอัตราคนว่างงานลดลงมาสู่ระดับ 4.5% จาก 6.7% ในเดือน ธ.ค.

จากคาดการณ์ดังกล่าว การเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็น ยกเว้นแต่จะมีงบประมาณสนับสนุนที่เพียงพอทางด้านวัคซีน, การเปิดภาคเรียน และกลุ่มคนว่างงาน


นายนีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส
หนึ่งในผู้สนับสนุนการใช้นโยบายผ่อนคลายของเฟด (Dovish) มองว่า ควรมีการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ในช่วงที่ไวรัสยังคงระบาด และรัฐบาลควรมีการอัดฉีดเงินเพิ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

พร้อมกันนี้ เขามีการสนับสนุนการจ่ายเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจแก่ประชาชน ที่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของนายไบเดนที่ต้องจ่ายเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือเพิ่ม 1,400 เหรียญ/คน จากเดิมที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส 600 เหรียญ/คน ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรครีพับลิกันยังคงเห็นคัดค้าน

อย่างไรก็ดี การกำหนดนโยบายสำหรับเศรษฐกิจโดยไม่ละเลยประชาชนยังเป็นเรื่องที่ยาก

ช่วงภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

สหรัฐฯได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อในประเทศสูงกว่า 26 ล้านราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 441,000 ราย แม้ภาคที่อยู่อาศัยและภาคส่วนของเศรษฐกิจอื่นๆ จะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไรนัก แต่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจก็ยังไม่จบลง เนื่องด้วยจำนวนผู้ขอรับเงินสวัสดิการว่างงานยังแตะ 18 ล้านราย ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมการบริการเผชิญกับสภาวะยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคาร, การท่องเที่ยว และการโรงแรม

ทั้งนี้ สภาคองเกรสและทีมบริหารของนายไบเดน ที่ไม่รวมถึงเฟด จะตัดสินใจว่าจะต้องใช้วงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจำนวนมากเท่าไร แต่เรื่องของ "ความจำเป็น" ก็ยังเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกมาหารือกันอยู่ในเวลานี้


นายจิม จัสติก ผู้ว่าการรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย พรรครีพับลิกัน
แสดงความสนับสนุนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

นายโจ แมนชิน วุฒิสมาชิกเวสต์เวอร์จิเนีย พรรคเดโมแครต
คัดค้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากมองว่า ควรให้การช่วยเหลือแก่ผู้ที่จำเป็นเท่านั้น

นายราเฟล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า
กล่าวว่า การจะสรุปวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่แน่นอนในเวลานี้เป็นเรื่องที่ยาก และสิ่งที่เขาคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า และ 1 ปีจากนี้ จะส่งผลต่อภาคธุรกิจต่างๆ รวมทั้งสิ่งที่จะเกิดต่อภาคครัวเรือนไม่ว่าจะเรื่องสภาพอากาศหรือพายุที่จะเกิดขึ้น

จึงหวังว่า "วัคซีน" จะเพียงพอต่อประชาชนภายในช่วงฤดูร้อนนี้ (มิ.ย.- ก.ย.)

นายเจน แปสกี โฆษกประจำทำเนียบขาว
กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญนี้ มีความเสี่ยงน้อยมาก ขณะที่ข้อเสนอของทางพรรครีพับลิิกันให้ลดวงเงินเหลือเพียง 6.18 แสนล้านเหรียญก็ยังเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องตัดสินใจต่อในวันนี้

ที่มา : Reuters