• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564

    1 กุมภาพันธ์ 2564 | Economic News
   

· ดอลลาร์รีบาวน์ในฐานะ Safe-Haven หลังการเก็งกำไรของรายย่อยสะเทือนความเชื่อมั่นสินทรัพย์เสี่ยง

ค่าเงินดอลลาร์ได้รับอานิสงส์ในช่วงเริ่มสัปดาห์ใหม่ จากเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่ยังวิตกกังวลถึงการต่อสู้กันในตลาดหุ้นสหรัฐฯระหว่าง "Hedge Funds" และ "นักลงทุนรายย่อย"

ขณะที่ความหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯดูจะลดน้อยลงจากวงเงินที่อาจถูกปรับลดลงมา ขณะที่ความล่าช้าในเรื่องการกระจายวัคซีนก็ยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด และทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 90.58 จุด

นักลงทุนพยายามลดการถือครองดอลลาร์หลังจากที่อ่อนค่าไปกว่า 7% ในปี 2020 จากแรงหนุนของภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกและการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่

สำหรับเวลานี้กลุ่มสมาชิกรีพับลิกันกำลังเจรจาเรียกร้องให้นายไบเดนทำการลดวงเงินแพ็คเกจ 1.9 ล้านล้านเหรียญลงมาเหลือเพียง 6 แสนล้านเหรียญ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯเผชิญความผันผวนหนักจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่ต่อสู้กดดันให้บรรดากองทุน Hedge Funds ทำการไล่ปิด Short อย่างหนัก และดันหุ้นบริษั GameStop และหุ้นอื่นๆ อาจเผชิญกับสภาวะปรับฐาน

เงินเยนแข็งค่า 0.1% ที่ 104.63 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ไปทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 2 เดือนครึ่งที่ระดับ 104.94 เยน/ดอลลาร์เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.2132 ดอลลาร์/ยูโร และยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ


· 10 ส.ว.สหรัฐฯจากพรรครีพับลิกัน ยื่นเสนอแพ็คเกจ Covid-19 ในขนาดเล็กลงมาด้วยท่าทีประนีประนอม

ตัวแทนส.ว. 10 รายจากพรรครีพับลิกัน เขียนจดหมายขอเข้าพบ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯเพื่อลดวงเงินแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเยียวยา Covid-19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ เพื่อให้สามารถผ่านร่างและช่วยเหลือเศรษฐกิจได้ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาเวลานี้ และเพื่อให้เกิดการช่วยเหลือชาวสหรัฐฯให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิของสหรัฐฯด้วย

ในจดหมายดังกล่าวจะเป็นการพบกัน โดยส.ว.ของรีพับลิกันนำโดย

นางซูซาน คอลลินส์ จากรัฐเมนส์

นายมิทท์ รอมนีย์ จากรัฐอูทาร์

นายร็อบ พอร์ตแมน จากรัฐโอไฮโอ

นางลิซา มูโคสกี้ จากรัฐอลาสก้า

และอีก 5 สมาชิกที่เหลืออาจมีการเปิดเผยรายชื่อในวันนี้

ขณะที่ส.ว. รีพับลิิกันบางราย อธิบายถึงแพ็คเกจกระตุ้น Covid-19 ในมุมมองของพวกเขาว่าต้องเป็นการให้ความช่วยเหลือที่มากขึ้นแก่ชาวอเมริกาส่วนใหญ่ที่มีความจำเป็น และเรียกร้องให้มีวงเงินมูลค่า 1.6 แสนล้านเหรียญ สำหรับการพัฒนาวัคซีน, การขนส่งวัคซีน, การทดสอบหาเชื้อ, การติดตามผล, กระบวนการรักษา และอื่นๆที่จำเป็นทางด้านอุปทาน

รายละเอียดแผนโดยย่อ

* เพิ่มการจ่ายเงินแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

* ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินสวัสดิการว่างงานในระดับปัจจุบันออกไป

* ให้เงินทุนสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบสำหรับครอบครัวที่กำลังเดือดร้อนทางด้านโภชนาการ

* เพิ่มการช่วยเหลือทางด้านทรัพยากรเพิ่มเติมแก่ภาคธุรกิจขนาดเล็กและบรรดากลุ่มนายจ้าง ผ่านโครงการ Paycheck Protection Program (PPP) และโครงการสินเชื่อเพื่อการกู้ยืมแก่ผู้ที่ที่ประสบปัญหา (Economic Injury Disaster Loan Program)

* ระดมทุนด้านทรัพยากรเพื่อให้เกิดการเปิดภาคเรียนอย่างปลอดภัย รวมถึงสวัสดิการเด็ก

* เตรียมวงเงิน 4 พันล้านเหรียญสำหรับสนับสนุนทางด้านสุขภาพและบริการด้านการรักษา

*สำหรับเมื่อวานนี้ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวสนับสนุนทีมบริหารนายไบเดนที่มีการพบกับ 10 ส.ว.ของรีพับลิกัน ในการผลักดันให้สภาคองเกรสผ่านร่างกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้*


· สมาชิกวุฒิสภารัฐโอไฮโอจากรีพับลิกัน เรียกร้องให้นายไบเดนลดวงเงินแพ็คเกจ Covid-19 เหลือเพียง "600 ล้านเหรียญ" จาก 1.9 ล้านล้านเหรียญ


· “ไบเดน” ตอบรับคำเชิญพบกับวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเพื่อหารือแพ็คเกจ Covid-19 ฉบับต่อไป

นายเจน พีสกี้ โฆษกประจำทำเนียบขาว กล่าวสรุปถึงการพบกันในครั้งนี้ว่า นายไบเดนตอบรับคำเชิญจากนางซูซาน คอลลินส์ ส.ว. จากพรรครีพับลิกันตัวแทนรัฐเมน เพื่อปรับทบทวนมาตรการดังกล่าวร่วมกัน

นางซูซาน คอลลินส์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ทำการทวิตเตอร์ข้อความที่กล่าวย้ำถึงกำหนดการที่ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะทำการเข้าพบกับ 10 วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันในช่วงเวลาประมาณตี 5 (ตามเวลาไทย) เกี่ยวกับการประนีประนอมหารือถึงแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 600 ล้านเหรียญตามที่พรรครีพับลิกันยื่นเสนอ


· รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่มีอุปสรรคต่อการใช้วัคซีน Sputnik V และ Sinopharm หากได้รับการอนุมัติจากสหภาพยุโรป โดยนายกรัฐมนตรีเยอรมนี มีกำหนดจะจัดการประชุมสุดยอดในวันนี้พื่อเอาชนะปัญหาการขาดแคลนวัคซีน


· ระบบบริการสุขภาพแห่งอังกฤษ (NHS) ชี้ วัคซีน Covid-19 จะถูกส่งต่อให้กับผู้สูงอายุทุกคนในบ้านพักคนชราของอังกฤษทุกแห่ง


· ยอดติดเชื้อใหม่ในไอร์แลนด์เหนือเพิ่มขึ้น 426 ราย ทำให้ยอดรวมติดเชื้อสะสมล่าสุดแตะ 103,960 ราย ขณะที่วันนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 19 ราย


· กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน กล่าวว่า อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการไอทีมีผลกำไรโดยรวมเพิ่มขึ้น 7.8% ในปี 2020 เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 1.65 แสนล้านเหรียญ

ทางด้านรายได้โดยรวมของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการไอทีในปี 2020 อยู่ที่ 8.16 ล้านล้านหยวนในปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้น 13.3% จากปีก่อนหน้า

ขณะที่ยอดส่งออกของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และไอทีลดลง 2.4% เมื่อเทียบกันปีต่อปี แตะที่ 4.78 หมื่นล้านเหรียญ


· Xiaomi ฟ้องสหรัฐฯให้ยกเลิกการแซงแทรงทางทหารของจีน และการสั่งห้ามลงทุนในหุ้น และเพื่อให้สหรัฐฯถอนรายชื่อบริษัทออกจากบัญชีดำ


· รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมขยายระยะเวลาการบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับโตเกียวและภูมิภาคต่างๆ ที่ยังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจำนวนมาก

ซึ่งจะตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายเวลาหลังจากการประชุมของคณะผู้เชี่ยวชาญในวันอังคารนี้โดยมีช่วงเวลาฉุกเฉินในจังหวัดรวมถึงพื้นที่โตเกียวที่คาดว่าจะดำเนินต่อไปอีกหนึ่งเดือน


· เศรษฐกิจไต้หวันรุดหน้าโตแซงจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี จากความต้องการชิปที่เพิ่มสูงขึ้


ข้อมูลจีดีพีไต้หวันปี 2020 ออกมาดีขึ้นเกินคาดทะลุ 2.98% เมื่อเทียบปีก่อน ถือเป็นการปรับขึ้นแรงครั้งแรกแซงหน้าจีนในรอบ 30 ปี ท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกในด้านการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีที่ยังแข็งแกร่ง จึงบดบังปัจจัยลบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา


· เยอรมนีคาดเข้มงวดรอบใหม่กับจีนและรัสเซีย เมื่อ "แมร์เคล" ลงจากบทบาทผู้นำทางการเมือง


· เยอรมนี Lockdown เข้มงวดกระทบค้าปลีกหดตัวในเดือนธ.ค.-จำกัดการใช้จ่ายผู้บริโภค

ยอดค้าปลีกของเยอรมนีออกมาหดตัวลงเกินคาด -9.6% ในเดือนธ.ค. ขณะที่เดือนพ.ย. ถูกปรับทบทวนมาที่ 1.1%


· ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่าได้จัดสรรเงินมูลค่า 25 ล้านเหรียญเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลฟิลิปปินส์ในการสั่งซื้อวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา

โดยเงินทุนดังกล่าวจะมาจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบสุขภาพเพื่อรับมือและจำกัดไวรัสโคโรนามูลค่า 125 ล้านเหรียญที่ ADB ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลฟิลิปปินส์จ่ายเงินให้ผู้ผลิตวัคซีนล่วงหน้าเพื่อรับประกันการส่งมอบวัคซีนให้กับพลเมืองของตน ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศที่มีมากกว่า 500,000 ราย


· อินเดียทุ่มงบค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มเท่าตัวแตะ 3 หมื่นล้านเหรียญสำหรับปีงบประมาณใหม่ มุ่งหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ


· กองทัพเมียนมายึดอำนาจรัฐบาลออง ซาน ซู จี

กองทัพเมียนมาออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1

เวลาประมาณ 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กองทัพเมียนมาได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ซึ่งเป็นฉบับแรกหลังเข้ายึดอำนาจการบริหารประเทศจากรัฐบาลพรรคเอ็นแอลดี

มีประเด็นสำคัญ 4 ประการ คือ

1. กองทัพจะจัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งสหภาพเมียนมาขึ้นมาใหม่ และสอบสวนตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เป็นไปตามกติกาการเลือกตั้ง

2. กองทัพจะเดินหน้าต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 และจะฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด

3. กองทัพจะยังคงเดินหน้ากระบวนการหยุดยิงทั่วประเทศ

4. การเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นหลังจากสถานการณ์ฉุกเฉินสิ้นสุดลง


· ชาวเมียนมาในญี่ปุ่นรวมตัวต้านรัฐประหาร

ชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นรวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยสหประชาชาติในกรุงโตเกียว เพื่อประท้วงกองทัพเมียนมาที่ก่อการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลของนางออง ซาน ซู จี

ผู้ชุมนุมหลายคนชูรูปภาพของนางซู จีพร้อมกับเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอและผู้ที่ถูกทหารควบคุมตัวไป


· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าการเปิดตัววัคซีนโคโรนาไวรัส การติดเชื้อรายใหม่และการค้นพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะกดดันความต้องการน้ำมันดิบก็ตาม

โดยราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.7% ที่ระดับ 55.40 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.5% ที่ระดับ 52.44 เหรียญ ซึ่งภาพรวมเดือนม.ค.ราคาน้ำมันดิบทั้งสองชนิดเพิ่มขึ้นเกือบ 8%

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากโครงการฉีดวัคซีนที่กำลังดำเนินอยู่ในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักและการลดกำลังการผลิตโดยผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ซาอุดีอาระเบีย แต่การเพิ่มขึ้นของราคายังคงถูกจำกัดจากการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ซึ่งอาจถูกกดดันจากการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าและการเพิ่มขึ้นของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่


ที่มา : Politico, The Journal, The National News,CNN,BBC, Japantoday


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com