• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 29 มกราคม 2564

    29 มกราคม 2564 | Economic News
   

·         ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายค่าเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า หลังจากทางการสหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่สดใส ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

 

ตลาดหันมาถือครองเงินดอลลาร์ในสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อต้นสัปดาห์ จากความกังวลว่ามาตรการกระตุ้นทางการคลังของสหรัฐจะไม่มากอย่างที่หวังไว้ และเนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรนาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศต่างๆพยายามที่จะออกวัคซีน

 

โดยค่าเงินดอลลาร์ทำรีบาวน์จากระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และกลับมาอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อไม่นานมานี้

 

ในเดือนนี้ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่ากว่า  0.50% เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น หลังจากที่อ่อนค่าลงมากกว่า 6% ในปีที่แล้ว โดยล่าสุดอ่อนค่าลง 0.13% ที่บริเวณ 90.53 จุด




 

·         เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวในปี 2020 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน แต่เติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สี่และคาดว่าจะฟื้นตัวต่อไปหลังจากปีที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1940

 

โดยจีดีพีของสหรัฐฯในไตรมาสที่สี่ขยายตัวได้ 4% จากไตรมาสก่อนที่ระดับ 33.4%

 

ทั้งนี้ การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 ไม่เพียงพอที่จะเอาชนะผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดไวรัสโคโรนาในช่วงต้นปี โดยเศรษฐกิจหดตัว 3.5% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองและครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 หลังจากวิกฤตการเงิน



สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด:


 

 ภาพรวมยอดติดเชื้อทั่วโลกสะสมล่าสุดทะลุ 101.98 ล้านราย

โดยยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 580,957 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมอยู่ที่ระดับ 2.19 ล้านราย

 

สหรัฐฯมียอดติดเชื้อสะสม 26.32 ล้านราย โดยล่าสุดพบยอดติดเชื้อใหม่ 149,081 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสม 443,369 ราย

 

 

สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย

 

ญี่ปุ่นติดเชื้อสะสมล่าสุดที่ 375,607 ราย และมียอดเสียชีวิตรวม 5,361 ราย

จีนพบยอดติดเชื้อเพิ่มล่าสุดที่ 54 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมที่ 89,326 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ติดเชื้อสะสมทะลุ 76,926 ร้อย

 

เมียนมาติดเชื้อโควิดจ่อแตะ 140,000 ราย ตายกว่า 3,000 ราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมียนมาได้พุ่งขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรกเพียง 2 รายในวันที่ 23 มี.ค.2563


 ยอด 'โควิด-19' ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 756 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 746 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 16,221 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 76 คน ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 11,287 ราย และผู้ป่วยที่รักษาอยู่ 4,858 ราย


·         บริษัท Novax ชี้ วัคซีน Covid-19 มีประสิทธิภาพสูงกว่า 89% ในการต้านเชื้อไวรัส จากการทดสอบเฟส ในประเทศอังกฤษ

 

 

·         "แอสตร้าเซนเนก้า" เตรียมผลิตวัคซีนโควิด 90 ล้านโดสในญี่ปุ่น

 

โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า บริษัทแอสตร้าเซเนก้าวางแผนที่จะผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กว่า 90 ล้านโดสในญี่ปุ่น หรือประมาณ 75% ของปริมาณที่ญี่ปุ่นจะได้รับจากแอสตร้าเซเนก้าซึ่งเป็นบริษัทยาของอังกฤษ

 

·         สมาชิกคณะกรรมการการเลือกตั้งของจอร์เจีย เรียกร้องให้มีการ สอบสวน คดีการเลือกตั้งทรัมป์

 

คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐจอร์เจีย มีแผนจะเสนอญัตติในเดือนหน้า เพื่อเรียกร้อง นาย คริส คาร์ อัยการสูงสุดของรัฐ ให้สอบสวนทางอาญาเกี่ยวกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่พยายามคว่ำผลการเลือกตั้งในปี 2020

 

·         ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน จิม จอร์แดน แห่งโอไฮโอ จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งวุฒิสภาในปี 2022

 

 

·         ไบเดน เรียกคืน ธุรกิจกลุ่มประกันสุขภาพในออนไลน์ อีกครั้ง หลังจากอ้างว่า ทรัมป์ ได้ยกเลิกไปในครั้งก่อน

 

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้จัดให้มีลงทะเบียนประกันสุขภาพออนไลน์ขึ้นอีกครั้งสำหรับผู้ที่ไม่ได้รับความคุ้มครองจากนายจ้าง ในการดำเนินการครั้งนี้ ไบเดน ระบุเพิ่มเติมว่ามีเป้าหมายเพื่อยกเลิก“ ความเสียหาย” ที่นายทรัมป์ได้ทำไว้

 

โดยนายไบเดน ได้ออกคำสั่งฉุกเฉิน ให้ประชากรสหรัฐฯ ลงทะเบียนประกันผ่านระบบสุขภาพของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม โดยปกติโปรแกรมสามารถเข้าถึงได้เพียงหกสัปดาห์ในฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น

 

·         กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่มั่นใจว่าจะถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานหรือไม่

 

·         ไบเดน” ชะลอการค้าอาวุธแก่ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บ่งชี้ความสัมพันธ์ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นของสหรัฐฯ-ซาอุฯ จากการที่ทีมบริหารไบเดนต้องการทบทวนข้อตกลงการค้าอาวุธมูลค่าหลายพันล้านเหรียญที่ทำไว้ในยุคของนายทรัมป์

 

 

 

·         สภาคองเกรสประสานเสียงทำเนียบขาว เตรียมสอบราคาหุ้น GameStop

 

นางแนนซี เพโลซี  กล่าวว่า สภาคองเกรสจะเข้าร่วมการตรวจสอบการทะยานขึ้นของหุ้น GameStop หลังจากที่ได้สร้างความผันผวนในตลาดหุ้นสหัฐฯ

 

ท่าทีของนางเพโลซีสอดรับกับทำเนียบขาว ซึ่งได้ประกาศจับตาภาวะผันผวนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ หลังจากที่ราคาหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ ได้พุ่งขึ้นถึง 1,700% นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้

 

ผู้ใช้บริการ Robinhood ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อขายหุ้นได้ฟรีผ่านระบบออนไลน์ ยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ หลังจากที่ Robinhood ได้ทำการบล็อกการเข้าซื้อหุ้น GameStop เพื่อสกัดความผันผวนในตลาด

 

ขณะที่ทาง CEO ของ Robinhood กล่าวว่า การที่ Robinhood หยุดการซื้อขายในการเก็งกำไรนั้นเป็นผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ใช้หลายล้านคน

 

พร้อมทั้ง ปฎิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และกล่าวว่าการจำกัดวงเงินซื้อขายกับหุ้นเหล่านั้นเป็นมาตรการป้องกันเชิงรุก

 

·         อังกฤษเพิ่มรายชื่อประเทศถูกแบนการเดินทาง หวังสกัดโควิดระบาด

 

รัฐบาลอังกฤษประกาศเพิ่มรายชื่อประเทศที่จะถูกสั่งระงับการเดินทางเข้าสู่อังกฤษ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

ทั้งนี้ กระทรวงการขนส่งของอังกฤษแถลงว่า ผู้ที่เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตท์ บุรุนดี และววันดา จะไม่สามารถเดินทางเข้าอังกฤษ ตั้งแต่ช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันพรุ่งนี้

 

ก่อนหน้านี้ อังกฤษประกาศห้ามผู้ที่เดินทางจากโปรตุเกส และทวีปอเมริกาใต้ เดินทางเข้าประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์บราซิล

 

·         นาย จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ภูมิใจ เปิดตัว วีซ่าสำหรับพลเมืองฮ่องกง

 

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นาย บอริส จอห์นสัน ได้กล่าว ชื่นชมโครงการวีซ่าใหม่ที่อนุญาตให้ชาวฮ่องกงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสามารถเป็นพลเมืองอังกฤษได้แล้ว ซึ่งเป็นโครงการเปิดตัวเพื่อตอบสนองต่อกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีน

 

·         อัตราผู้ว่างงานในญี่ปุ่น ยังทรงตัวที่ 2.9% ในเดือนธ.ค.

 

จากข้อมูลรัฐบาล รายงานว่า อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นยังทรงตัวที่ 2.9% ในเดือนธ.ค.และตำแหน่งว่างงานยังคงเหมือนเดิมจากเดือนก่อนหน้า

 

·         ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามาตรการ Lockdown ในหลายประเทศและความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

 

โดยสัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 28 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.5% ปิดที่ 55.53 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 51 เซนต์ หรือคิดเป็น 1% ปิดที่ 52.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

·         นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทวันนี้ที่ 29.95-30.10 บาท/ดอลลาร์

 

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 63 มาที่ -6.5% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ -6.8 ถึง -6.3%)จากเดิมที่คาดไว้ที่ -7.7% สาเหตุที่ GDP ปีนี้ติดลบน้อยลง เนื่องจากการที่รัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดี และมีมาตรการเยียวยาออกมาต่อเนื่อง

 

-นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) คาดเศรษฐกิจไทย (GDDP) ปีนี้จะเติบโต 3.1% โดยมองว่าการ เริ่มให้มีการฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 น่าสนใจ เนื่องจากคาดว่าภาครัฐจะสามารถฉีดวัคซีนได้ 50% ของจำนวนประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งจะ เริ่มฉีดได้ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ และอาจจะมีจำนวนผู้ฉีดวัคซีนมากกว่าที่ภาครัฐบาลคาดการณ์ไว้หากประชาชนบางส่วนเข้ารับการฉีดวัคซีนผ่าน โรงพยาบาลเอกชน โดยมองว่าวัคซีนจะช่วยทุกๆอย่างปรับตัวดีขึ้น

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com