• ดัชนี S&P500 ปิดลบจากที่ทำ All-Time High, Nasdaq ปิดสัปดาห์ทะยาน 4% เป็นประวัติการณ์

    25 มกราคม 2564 | SET News
 



นคืนวันศุกร์ ดัชนี S&P500 ปิดปรับลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปิด -0.3% ที่ 3,841.47 จุด

ดัชนี Nasdaq ยังได้รับแรงหนุนหลักจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่จึงยังปิดทำ All-Time High ได้ และปิดตลาด +0.1% ทำระดับปิดสูงสุดประวัติการณ์ที่ 13,543.06 จุด

ดัชนี Dow Jones ปิด -179.03 จุด หรือ -0.6% ที่ 30,996.98 จุด โดยตลาดถูกกดดันจากหุ้นบริษัท IBM ปิดร่วง 9.9% หลังผลประกอบการบริษัทออกมาแย่กว่าคาดที่ระดับ -6% ทำให้ผลประกอบการ Q4/2020 ยังไม่สดใส ด้านหุ้น Intel ทรุด -9.3% หลังปรับขึ้น 6% ในวันก่อนหน้าที่ขานรับกับรายงานผลประกอบการ

ความหวังเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ และเทคโนโลยีดูจะช่วยหนุนนตลาดหุ้นให้ปิดสัปดาห์แดนบวกได้ แม้จะมีวันหยุด Martin Luther King Jr. Day ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยที่ดัชนี Nasdaq ปิดสัปดาห์ +4.2%, ดัชนี S&P500 ปิด +1.9% และดัชนี Dow Jones ปิด +0.6%

หุ้นบริษัท Apple ปิด +1.6% ในคืนวันศุกร์ และหนุนให้รายสัปดาห์ปิดพุ่งกว่า +9.4% ขณะที่หุ้น Facebook ปิดสัปดาห์ +9.2% และหุ้น Microsoft ปิด +6.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เหล่านี้ มีกำหนดการเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

กลุ่มนักลงทุนมีการประเมินแนวโน้มทีมบริหารของไบเดนเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 อีกครั้ง เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ค่อนข้างแสดงความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความจำเป็นของมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะการตั้งวงเงินสูงถึง 1.9 ล้านล้านเหรียญ

ขณะเดียวกัน นายโจ แมนชิน สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์แผนดังกล่าวเช่นกัน ดังนั้น ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยกดดันสำหรับนายไบเดนมากขึ้น แม้ว่าจะได้รับเสียงข้างมากทั้งสองสภาก็ตาม

รายงานจาก Sevens Report ระบุว่า ภาวะความเป็นจริงทางการเมืองในสหรัฐฯเริ่มมีผลกระทบต่อตลาด และดูจะเห็น “ความยากลำบาก” ที่ชัดเจนขึ้น ในการผลักดันให้ร่างกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเดโมแครตให้กลายมาเป็นข้อกฎหมาย

สำหรับดัชนี S&P500 มีการปรับขึ้นราว 2.3% ในปีนี้ โดยกลุ่มนักลงทุนบางส่วนเชื่อว่า ตลาดอาจได้รับผลกระทบจากการกระจายวัคซีนที่เผชิญอุปสรรคและกระทบต่อการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจต่อไป

อย่างไรก็ดี คณะกรรมาธิการกำกับดูแลทางการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯประกาศยืนยันสนับสนุนให้ นางเจเน็ต เยลเลน ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายใต้การบริหารงานของนายไบเดน ทำให้เธอกลายเป็นผู้นำทางการเงินหญิงคนแรกในตำแหน่งดังกล่าวของสหรัฐฯ

ดัชนีสหรัฐฯฟิวเจอร์สปรับขึ้นก่อนการรายงานผลประกอบการที่คึกคักในสัปดาห์นี้

ดัชนีอนุพันธ์สหรัฐฯ เปิดปรับขึ้นปานกลางในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางตลาดที่เตรียมพร้อมรับรายงานผลประกอบการภาคธุรกิจสหรัฐฯที่คาดว่าจะเป็นไปอย่างคึกคักในสัปดาห์นี้ ประกอบไปด้วยรายงานของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่

ดัชนี Dow Jones ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 56 จุด หลังเปิดตลาดขึ้นไปประมาณ 73 จุด

ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ส +0.2%

ดัชนี Nasdaq-100 ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น +0.28%

หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการลงทุนจาก Ally Invest ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจะก่อให้ระดับเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นตาม และในเวลานี้เราจับตาสัญญาณเงินเฟ้อว่าจะเป็นการขึ้นเพียงชั่วคราว หรือจะมาเปลี่ยนแนวโน้มในระยะยาว จึงอาจทำให้เห็นตลาดอ่อนตัวลงบ้าง แม้ปราศจากการดำเนินการใดๆจากเฟด

ในทางตรงข้าม เงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจ “บังคับ” ให้เฟดจำเป็นต้อง “ขึ้นดอกเบี้ย” และเมื่อนั้น ตลาดหุ้นจะมีแนวโน้มอ่อนตัวลง

สภาวะการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ดูจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับหุ้นกลุ่มผู้บริโภคสินค้าทั่วไป, พลังงาน และภาคการเงิน ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และทองคำก็ดูจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในการถือครองเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อ



ที่มา: CNBC


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com