• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 20 มกราคม 2564

    20 มกราคม 2564 | Economic News
  

· ดอลลาร์อ่อนค่าจากความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนนักลงทุนในตลาด

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันนี้ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นจากนักลงทุนที่ตอบรับกับข้อมูลความเชื่อมั่นของเยอรมนีที่ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาด และการจะเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ จากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯที่กล่าวให้การสนับสนุนเมื่อวานนี้ และไม่แสดงความเป็นกังวลมากเกี่ยวกับระดับหนี้สิน

ดังนั้น จึงช่วยให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น และกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับแข็งค่ามากสุดรอบ 1 เดือน

ค่าเงินยูโรรีบาวน์กลับจากที่ลงมาหาแนวรับบริเวณ 1.2050 ดอลลาร์/ยูโร โดยแข็งค่าขึ้นประมาณ 0.4% ทำแข็งค่าที่ 1.2145 ดอลลาร์/ยูโร จากการที่ ZEW เผยข้อมูลผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ออกมาดีกว่าที่คาด และรัฐบาลอิตาลีรอดจากการลงมติไม่ไว้วางใจ


นายโจ ไบเดน จะเข้าพิธีสาบานตนในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ (เที่ยงคืนวันนี้ ตามเวลาไทย) โดยเหล่าเทรดเดอร์จะให้ความสนใจไปยัง “นโยบาย” มากกว่าพิธีการรับตำแหน่ง

ค่าเงินเยนที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเผชิญแรงเทขายจากความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวก่อนหน้าและทำระดับอ่อนค่าแถว 104 เยน/ดอลลาร์ โดยล่าสุดแข็งค่ามาที่ 103.84 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินปอนด์ได้รับแรงหนุนจากการที่หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบีโออี คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จึงทำให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่ามาที่ 1.3649 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินหยวนปรับแข็งค่าขึ้นได้ปานกลางที่ 6.4757 หยวน/ดอลลาร์

ธนาคารกลางมาเลเซียจะตัดสินใจการประชุมในวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่คาดจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารกลางแคนาดาถูกคาดว่าจะคงดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้


· “ทรัมป์” จบยุคดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ส่งผลให้เขาต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคต


· “ไบเดน” เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 46 ท่ามกลางปัญหาทางการเมืองสหรัฐฯในเชิงลึก และการระบาดของไวรัสโคโรนา


· รายงานมุมมองนักวิเคราะห์จาก Reuters

1) วิกฤตระดับประเทศของสหรัฐฯ สร้างแรงกดดันต่อถ้อยแถลงของนายไบเดน ในการต่อสู้กับการสร้างความเชื่อมั่นของชาวอเมริกาและฟื้นฟูจิตวิญญาณของประเทศที่กำลังสิ้นหวัง

อย่างไรก็ดี นายไบเดนต้องการให้สภาคองเกรสดำเนินการอย่างรวดเร็ว และทีมบริหารของเขาเชื่อว่าจะหาวิธีที่มีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุดเพื่อลดภาวะตึงเครียดทางการเมืองจากผลงานที่ไม่ใช่เพียงคำพูด โดยเฉพาะการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแพ็คเกจเยียวยาช่วง Covid-19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ ที่จะเป็นก้าวแรกในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้สถานศึกษากลับมาเปิดภาคเรียนได้ และการฉีดวัคซีนภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น


2) “เยลเลน” กล่าวถ้อยแถลงสนับสนุนแผนนโยบายเยียวยา Covid-19 ขนานใหญ่ จะส่งผลต่อนักลงทุน 2 ทาง

- ช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง จากนโยบายที่จะมาช่วยเศรษฐกิจ

- มีความกังวลมากขึ้นในระยะยาวเกี่ยวกับระดับหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯที่จะขยายตัว


3) แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดนจะช่วย “หนุนการซื้อขาย” แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯหวังว่าจะเห็นการฟื้นตัวดำเนินต่อไป ภาพรวมคาดหุ้นกลุ่มวัฎจักรจะได้รับอานิสงส์มากสุด


· นักกลยุทธ์จาก Wells Fargo Asset Management มองว่า แม้ตลาดจะมีมุมมองเชิงบวกแต่ก็เห็นถึงโอกาสที่เป็นจริง หากว่าเฟดจะเลือกลด QE ในช่วงปลายปีนี้

ดังนั้น จึงอาจเห็นคาดการณ์ของเฟดว่าเศรษฐกิจจะแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ จึงอาจหมายถึงการที่เฟดเลือกจะลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ในช่วงประมาณเดือนธ.ค. แต่ยังคงดอกเบี้ยในระดับต่ำ


· การอ้างถึงการโกงคะแนนของนายทรัมป์ ทำให้เกิดความแตกแยกในสมาชิกพรรครีพับลิกันในเท็กซัสและพื้นที่เขตเสียงข้างมากของรีพับลิกัน (Red States)

·   ไวรัสโคโรนาคร่าชีวิตประชาชนในสหรัฐฯกว่า 100,000 ราย ในระยะเวลาเพียง 36 วัน ส่งผลให้ยอดเสียชีวิตสะสมพุ่งทะลุ 400,000 ราย



· แผนที่สะท้อนให้เห็นถึงยอดติดเชื้อไวรัสล่าสุดในจีนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

 

· บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญ แสดงความท้อแท้ จากการกระจายวัคซีนในเยอรมนีไม่เป็นไปตามแผน

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนี ตั้งเป้าหมาการฉีดวัคซีนที่ 300,000 รายต่อวัน แต่ข้อมูลจากสาธารณสุขขณะนี้ทางประเทศก็ยังประสบปัญหาความล้มเหลวในการผลักดันให้ถึงเป้าหมาย และจากข้อมูลภายใน 24 ชั่วโมง มีการฉีดวัคซีนได้เพียง 62,000 ราย




ทั้งนี้ เยอรมนีเริ่มฉีดวัคซีนทั้ง 16 รัฐ ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. หรือเกือบ 1.2 ล้านคนในเยอรมนี (ในกลุ่มคนทำงานด้านสุขภาพ, ผู้รักษาตัวที่บ้าน และบุคลากรอื่นๆ รวมทั้งผู้สูงอายุ ที่ถูกกำหนดให้รับการฉีดวัคซีนเป็นกลุ่มแรก) และในการฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ได้รับวัคซีนเพียง 25,000 โดส

แตกต่างจากการฉีดวัคซีนของอังกฤษ ที่เป็นประเทศแรกที่มีการอนุมัติการใช้วัคซีนฉุกเฉินจากบริษัท Pfizer-BioNTech ที่ในช่วงต้นฉีดวัคซีนได้มากถึง 4 ล้านคนในโดสแรก และได้รับวัคซีนโดสที่ 2 เพียง 450,000 โดส ขณะที่การฉีดวัคซีนต่อวันทำได้ราว 300,000 โดสในสัปดาห์ที่แล้ว


· เจ้าของสายการบิน Virgin Atlantic และ Virgin Australia หวังว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยให้เกิดการเดินทางด้วยสายการบินเป็นไปได้ง่ายขึ้น


· จีนคงดอกเบี้ยเงินกู้ภาคบริษัทและภาคครัวเรือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ตามคาด

โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR อายุ 1 ปี ทรงตัวที่ 3.85% ขณะที่อัตราดอกเบี้ย LPR อายุ 5 ปี คงที่ 4.65%


· ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจากความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ “ไบเดน” และการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบ ที่คาดว่าจะมาช่วยกระตุ้นอุปสงค์ด้านพลังงาน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นประมาณ 37 เซนต์ หรือ +0.7% ที่ 53.35 เหรียญ/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นประมาณ 35 เซนต์ หรือ +0.6% ที่ 56.25 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปรับขึ้นมากกว่า 2% เมื่อวานนี้

บรรดาเทรดเดอร์จับตาไปยังรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จากสถาบัน API และ EIA โดยผลสำรวจนักวิเคราะห์จาก Reuters โดยเฉลี่ยมองว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะปรับลงราว 300,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่คาดว่าสต็อกแก๊สโซลีนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3 ล้านบาร์เรล ประกอบไปด้วยน้ำมันดีเซลที่อาจเพิ่มขึ้นประมาณ 800,000 บาร์เรล


· เลขาธิการของ OPEC ให้คำมั่นว่าจะทำการกระชับสัมพันธ์กับทีมบริหารชุดใหม่ของสหรัฐฯ แม้ว่าไบเดนจะเรียกร้องการดำเนินนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้เกิดการเอื้อประโยชน์ทางด้านความสัมพันธ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ และภาพรวมก็ดูไม่มีทางเลือกมากนัก แต่ก็ยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งร่วมกันได้

ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่ม OPEC มีความกังวลต่อแนวโน้มพลังงานและสภาพอากาศของโลกจากการมาของนายไบเดน

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ International Energy Agency กล่าวว่า เรื่องสำคัญที่สุดคือ “ส่วนแบ่งน้ำมันในตลาดพลังงานโลกจะปรับตัวลดลง และอาจลงเร็วขึ้นจากการเปลี่ยนการใช้พลังงานที่จะไปใช้พลังงานสีเขียวมากขึ้น


· ByteDance เจ้าของแอพลิเคชัน TikTok จะทำการเปิดตัวการชำระค่าใช้จ่ายในจีนเพื่อผลักดันระบบ Fintech และด้าน E-Commerce


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com