• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 20 มกราคม 2564

    20 มกราคม 2564 | SET News

 · จิม เครเมอร์ เจ้าของรายการ Mad Money ชื่อดังของ CNBC ชี้ “ถ้อยแถลงของเยลเลน ว่าที่รมว.คลังสหรํฐฯ หนุนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนตลาดหุ้น”

โดยภาพรวมมุ่งเน้นไปยังการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานเต็มรูปแบบเพื่อให้หน่วยงานต่างๆสามารถจ้างงานได้เต็มรูปแบบ และจะเห็นได้ว่าช่วงที่นางเยลเลน ดำรงตำแหน่งประธานเฟดในปี 2014-2018 สามารถผลักดันภาคแรงงานของประเทศได้

ขณะที่เป้าหมายของนายไบเดนเกี่ยวกับแผนเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญ จะมาช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯในการต่อสู้กับการระบาดของ Covid-19

และการใช้นโยบายดังกล่าว “เป็นที่ชื่นชอบของตลาดหุ้น”

· มุมมองนักวิเคราะห์จาก Reuters มองมูลค่าหุ้นสหรัฐฯจะเติบโตตามรายงานผลประกอบการ และจะหนุนให้ตลาดหุ้น “ฟื้นตัว”

ผลประกอบการของภาคบริษัทสหรัฐฯ และแนวโน้มผลกำไรที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเสถียรภาพต่อมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้น และผลักดันให้มูลค่าหุ้นในตลาดเข้าใกล้ระดับสูงสุดรอบ 20 ปี

นักกลยุทธ์จาก Wells Fargo Investment คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งจากผลประกอบการที่พลิกฟื้นในปี 2021 นี้

อ้างอิงจากข้อมูลของ Refinitiv คาดว่า ผลประกอบการของบริษัทในกลุ่ม S&P500 จะโตได้ราว 24% ในปี 2021 หลังจากที่ดิ่งลงไปกว่า 15% ในปี 2020 และน่าจะเริ่มเห็นรายงานผลประกอบการที่เริ่มต้นดีขึ้นของปีนี้ในการประกาศรายงานสัปดาห์นี้

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเยลเลนหนุนค่าใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่


ตลาดหุ้นเอเชียทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ หลังจากที่ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวสนับสนุนการกระตุ้นทางเศรษฐกิจในวงเงินมหาศาลที่จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐฯจากสถานการณ์ Covid-19 ในเวลานี้

ขณะที่ วันนี้ นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง หลังจากสัปดาห์ที่แล้วเขาเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญเพื่อหนุนเศรษฐกิจ และเร่งผลักดันการแจกจ่ายวัคซีน

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดญี่ปุ่นปิด +0.81% ทำสูงสุดประวัติการณ์


ดัชนี Nikkei 225 ปิด -0.38% ที่ระดับ 28,523.26 จุด

ภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียก็มีการเคลื่อนไหวผสมผสาน โดยตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกขานรับารปรากฏตัวอีกครั้งของ “นายแจ็ก หม่า” ผู้ก่อตั้ง Alibaba Group และทำให้หุ้นบริษัทดังกล่าวพุ่งขึ้นกว่า 5% ในช่วงบ่ายวันนี้ จึงหนุนให้หุ้นบริษัทเทคโนโลยีในฮ่องกงดูจะตอบรับในทิศทางที่แข็งแกร่งตาม

หุ้นบริษัท Tencent ปิด +3.13%
หุ้นบริษัท Meituan ปิด +6%
หุ้นบริษัท Hang Seng Tech ปิด +3.64%


ดัชนี HSI ปรับขึ้นทำสูงสุดเกือบ 30,000 จุด ตอบรับการปรับขึ้นของหุ้นบริษัท Alibaba และกองทุนจีนเพิ่มเม็ดเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์


ดัชนี HSI ปรับขึ้นทำสูงสุดที่ 29,984 จุด ทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ 3 พ.ค. ปี 2019 ก่อนจะถูกแรงเทขายลงมาปิดตลาดที่ 29,905.63 จุด

ภาพรวมปีนี้ดัชนี HSI ปรับขึ้นได้แล้วประมาณ 9.2% ซึ่งเป็นการเริ่มต้นปีที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 1985

หุ้นกลุ่ม Blue-Chip ในฮ่องกงปรับขึ้นได้ราว 9.7% ในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 1985 เช่นกัน


ดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.4% ที่ 3,581.24 จุด

ดัชนี CSI300 ก็ปิดปรับขึ้นกว่า 0.7% จากการปรับขึ้นของหุ้นบริษัทในกลุ่มเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น

ดัชนี Nasdaq Futures ของสหรัฐฯปรับขึ้น 0.5% จากหุ้นบริษัท Netflix ปรับขึ้นได้ประมาณ 12.2% ในช่วงเปิดตลาด


· "แจ็ก หม่า" ปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน

ในวันนี้ นายแจ็ก หม่า มหาเศรษฐีชื่อดังของจีน และผู้ก่อตั้ง Alibaba Group ซึ่งเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ของจีน ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปลายเดือนตต.ค. ด้วยการพบปะพูดคุยกับครูจากพื้นที่ชนบทในจีน 100 คน ในการประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

อย่างไรก็ดี ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่านายแจ็ก หม่า พูดจากที่ใด

· หุ้นยุโรปเปิดปรับขึ้นก่อนพิธีสาบานตนของ “ไบเดน” โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด +0.2% ขานรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับขึ้น 1.3%


ทางด้านหุ้นกลุ่มสุขภาพและสาธารณูปโภค ปรับตัวลงประมาณ 0.3%

นักลงทุนทั่วโลกจับตาพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของนายโจ ไบเดน ในวันนี้ หลังจากที่ในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านภาวะทางการเมืองของสหรัฐฯเผชิญกับความวุ่นวาย

นายไบเดนจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ที่มารับช่วงต่อจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน นับตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนนี้ (ตามเวลาไทย) ซึ่งแถลงการณ์ของนายไบเดนก็มุ่งเน้นไปยังการรวมเป็นหนึ่งของประเทศ ท่ามกลางเผชิญเหตุจลาจลที่มีความรุนแรงในอาคารรัฐสภาเมื่อไม่นานมานี้


· อ้างอิงจากกรุงเทพธุกิจ

กทม.ติดเชื้อโควิดสะสม 619 ราย ศบค.ห่วงคลัสเตอร์ระบาดใหม่

วันที่ 20 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบมีผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย แบ่งได้ 2 กลุ่ม

กลุ่มแรก เป็นการติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ 10 ราย ประกอบด้วย เพศชาย 5 ราย อายุ 22-45 ปี เพศหญิง 4 ราย อายุ 7-51 ปี สัญชาติไทย 9 ราย และแรงงานข้ามชาติ อีก 1 ราย ไม่มีอาการ 1 ราย และมีอาการไข้ 9 ราย


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- "อาคม" กุมขมับสั่งเอ็กซิมแบงก์เร่งพิจารณาสินเชื่ออุ้มผู้ประกอบการสายการบิน หลังลดสเปกเหลือกู้เพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงาน แจงต้องพิจารณาอย่างรัดกุม ยอมรับมีหลายธุรกิจอ้อนรัฐบาลช่วยหลังเจอพิษโควิด-19 เล่นงาน ด้านแอร์เอเชียเคาะให้พนักงานหยุดงาน 4 เดือน ไม่รับค่าจ้าง

- รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้การปล่อยสินเชื่อซอฟต์โลนธปท. มีความรวดเร็วและเข้าถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้มากกว่าเดิม ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมาได้มีข้อเสนอให้แก้ไขกฎหมาย พ.ร.ก.ซอฟต์โลน และที่ผ่านมาแต่ละธนาคารได้มีความเห็นและบอกอุปสรรคแล้วว่ามีอะไรบ้าง หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับภาครัฐและ ธปท.ว่าจะปรับแก้ไขหรือปรับเงื่อนไขใดบ้างเพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงได้มากขึ้น

- ธนาคารพาณิชย์-ธนาคารรัฐ เร่งออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 กรุงศรีออกมาตรการ "พัก-ยืด-ลด" อุ้มลูกค้า ออมสินอึ้ง! ลูกหนี้แห่ขอสินเชื่อฉุกเฉินล้นกว่า 1.1 แสนราย ธ.ก.ส.ต่อเวลาพักหนี้ 6-12 เดือน ธพว.ช่วยเอสเอ็มอี เพิ่มสินเชื่อใหม่ "จ่ายดี มีเติม"

- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยปี 2563 ว่า เศรษฐกิจดิจิทัลครอบ คลุมทั้งอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจเรียกรถและสั่งอาหารออนไลน์ การท่องเที่ยวออนไลน์ และสื่อออนไลน์ มีมูลค่าสูงถึง 5.4 แสนล้านบาท คาดเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี ไปอีก5 ปี ระบุโควิดฯ ดันตลาดอีคอมเมิร์ซโตถึง 81% ชดเชยการชะลอตัวของธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ ขณะที่ธุรกิจเรียกรถ-สั่งอาหารผ่านแอพฯ มีมูลค่ารวมสูงถึง 3.3 หมื่นล้านบาท พร้อมก้าวกระโดดเป็น 2 แสนล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า แนะภาครัฐปรับตัวและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อต่อยอดธุรกิจแทนการออกกฎหมายฉุดรั้งเศรษฐกิจดิจิทัล

- มติวิป 2 ฝ่าย เคาะแล้วอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแค่ 4 วัน 16-19 กุมภาพันธ์ ลงมติ 20 กุมภาพันธ์ ประชุมแก้ไขรธน. วาระ 2 กำหนด 24-25 กุมภาพันธ์


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com