สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรํฐฯที่จะมาช่วยหนุนทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก
แต่ "อุปสงค์น้ำมัน" ก็ยังถูกกดดันจากความกังวลเรื่องยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่ส่งผลให้เกิดการ Lockdown ทั่วโลก และส่งผลให้เกิดการชะลอด้านการอุปโภคบริโภคน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนมี.ค. ขยับขึ้น 20 เซนต์ หรือ +0.4% ที่ 54.95 เหรียญ/บาร์เรล หลังอ่อนตัวไป 35 เซนต์เมื่อวานนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลง 17 เซนต์ หรือ -0.3% ที่ระดับ 52.19 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่เมื่อวานนี้ "ไม่มีราคาปิดการซื้อขาย" เนื่องในวันหยุดประจำชาติของสหรัฐฯ
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ที่ส่งมอบเดือนก.พ. จะหมุดอายุลงในวันนี้
กลุ่มนักลงทุนจับตา "อุปสงค์น้ำมัน" ในประเทศจีน หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ทางการจีนมีการเปิดเผยข้อมูลกำลังการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 3% และทำสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ในปี 2020 ซึ่งจีนเองถือเป็นประเทศเศรษฐกิจเพียง "ประเทศเดียว" ในโลกที่สามารถหลีกเลี่ยงกับสภาวะหดตัวได้ในปีที่แล้ว ขณะที่หลายๆประเทศเผชิญกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ *กลุ่มนักลงทุนรอคอย "พิธีสาบานตน" ของนายโจ ไบเดน ในวันพรุ่งนี้ ที่จะมีการกล่าวรายละเอียดของแผนกระตุ้นทางเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ
นักวิเคราะห์อาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า น้ำมันมีแนวโน้มจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากนโยบายของนายไบเดน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียอาจเผชิญกับ "ความผันผวนได้"
นักวิเคราะห์จาก ANZ มองว่า ราคาน้ำมันดิบโดยรวมได้รับอานิสงส์จากการที่ซาอุดิอาระเบียจะทำการปรับลดอุปทานลงในช่วง 2 เดอนข้างหน้าประมาณ 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน ที่น่าจะเป็นตัวหนุนราคาน้ำมันช่วงไตรมาสแรกได้
ขณะที่การระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นยังคงสร้างความกังวลเกี่ยวกับการ Lockdown ที่น่าจะเป็นปัจจัยลบและจำกัดการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับปริมาณการขายพลังงานเชื้อเพลิงของประเทศอินเดียในเดือนม.ค.นี้ เมื่อเทียบกับข้อมูลเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้นในจีนและญี่ปุ่นจึง "อาจลดอุปสงค์น้ำมัฯ" ได้
สำหรับสถานการณ์ในสหรัฐฯและยุโรป ก็น่าเป็นกังวลจากการกระจายวัคซีนที่เป็นไปอย่างล่าช้า จึงยิ่งจุดประกายความกังวลด้านอุปงสค์เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ที่ยังน่าเป็นห่วงในเวลานี้
ที่มา: Reuters