ดอลลาร์รีบาวน์ต่อจากต่ำสุดปี 2018 หลังทราบข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ

ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.35% ที่ 90.117 จุด หลังทำสูงสุดตั้งแต่ 1 ม.ค.
ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯออกมาแย่กว่าคาดในเดือนธ.ค. หนุนโอกาสการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับวิกฤตไวรัสโคโรนา และผลจากการใช้มาตรการ Lockdown ของรัฐบาล
จ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯหดตัวลงหนักกว่า -140,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ถือเป็นการร่วงลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน และถือเป็นการหดตัวหนักกว่าที่คาดว่าจะมีการจ้างงานติดลบ 71,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ 6.7% บ่งชี้ตลาดแรงงานยังชะลอตัว
ดอลลาร์แข็งค่าจากระดับต่ำสุดรอบเกือบ 3 ปี จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับสูงขึ้นหนุนดอลลาร์ ส่งผลให้เหล่าเทรดเดอร์เทขายทำกำไรโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ดอลลาร์เกิดแรงซื้อกลับหลังทราบข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯและคาดการณ์ที่จะเห็นกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมช่วยฟื้นคืนเศรษฐกิจสหรัฐฯจนกว่าวัคซีนจะกระจายได้ทั่วและทำให้เกิดการคลาย Lockdown
นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า รายงานจ้างงานสะท้อนว่าชาวอเมริกาจำเป็นต้องได้รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเดี๋ยวนี้เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจ แม้จะประสบปัญหาขาดดุลทางการเงินจากการใช้มาตรการจ่ายเช็คประชาชนรายคน 2,000 เหรียญ
พรรคเดโมแครตชนะการชิงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯและส่งผลให้นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีโอกาสผลักดันมาตรการค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนคาดว่าจะเสริมความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเข้าสู่สภาวะติดลบ รวมั้งทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าด้วย

ดัชนีดอลลาร์ปี 2020 ปรับอ่อนค่าลงไป 7% และในช่วง 2-3 วันแรกของปีนี้ดอลลาร์ปรับขึ้นได้ประมาณ 0.9%
ทั้งยูโรและค่าเงินปอนด์อ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ โดยยูโรอ่อนค่าลงประมาณ 0.5% ที่ 1.2209 ดอลลาร์/ยูโร และปอนด์อ่อนค่าลง 0.01% ที่ 1.3562 ดอลลาร์/ปอนด์
Bitcoin ปรับขึ้นทำ All-Time High แตะ 41,802.84 เหรียญ ก่อนจะปิด +2.39% ที่ 40,454.81 เหรียญ หลังจากยืนเหนือ 40,000 เหรียญได้เป็นครั้งแรก