MTS Help Center

· DailyFX วิเคราะห์ดอลลาร์ "ขึ้นต่อ" จากแรงหนุนของ "อัตราผลตอบแทนพันธบัตร"

ค่าเงินดอลลาร์ปรับขึ้นต่อหลังจากที่ขึ้นต่อเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับขึ้นหลังเกิดเหตุจลาจลในรัฐสภาสหรัฐฯ

วิเคราะห์ค่าเงินดอลลาร์ด้วยกราฟรายวันตั้งแต่ 15 ต.ค. - 7 ม.ค. 20201

โดยทั่วไปดอลลาร์มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ในระยะสั้นๆ ขณะที่ RSI กลับสู่ภาวะ Oversold ทั้งหมดนี้จึงทำให้ดอลลาร์มีการรีบาวน์กลับขึ้นมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้นต่อเนื่อง จึงทำให้ดอลลาร์มีแรงซื้อตาม และมีโอกาสเห็นดอลลาร์ทดสอบแนวต้านสำคัญทางเทคนิคที่ 91 จุด

วิเคราะห์กรอบความผันผวนของดอลลาร์

ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างชะลอตัวลงจากปัญหาทางการเมือง ซึ่งค่าความผันผวนของดอลลาร์อยู่ราว 9.1% และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นได้จากผลของตัวเลขจ้างงานในเดือนธ.ค.

· FXStreet คาดค่าเงินปอนด์รอปัจจัยใหม่

* ปัจจุบันปอนด์ทรงตัวแถว 1.3569 ดอลลาร์/ปอนด์

* ผลผลิตด้านการก่อสร้างในอังกฤษยังขยายตัวได้ในเดือนธ.ค.

* ยอดติดเชื้อ Covid-19 ในอังกฤษสัปดาห์นี้ลดลงเป็นสัปดาห์แรก

* ปอนด์ทรงตัวในกรอบ Sideway Down ในระยะสั้นๆยังเสี่ยงร่วงลงต่อได้

ค่าเงินปอนด์ในกราฟราย 4 ชั่วโมง เผชิญแรงเทขายแถวเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 20 วันที่สะท้อนถึงภาวะขาลง แต่ก็ยังทรงตัวได้เหนือเส้น SMA ราย 100 วัน

ในทางเทคนิคค่าเงินปอนด์มีโอกาสเคลื่อนไหวแดนลบ และระยะสั้นๆมีโอกาสปรับตัวลดลง แต่หากดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าก็จะช่วยจำกัดการอ่อนตัวลงของค่าเงินปอนด์ได้

แนวต้าน: 1.3620 1.3660 1.3710

แนวรับ: 1.3515 1.3470 1.3420

· FXStreet วิเคราะห์ยูโร - ดอลลาร์แข็งค่าก่อนข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ

ค่าเงินดอลลลาร์แข็งค่าต่อในวันนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยยูโรอ่อนค่าลงมาแตะ 1.2244 ดอลลาร์/ยูโร ภาพรวมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ทำ High รอบหลายเดือนเป็นปัจจัยที่หนุนดอลลาร์

ภาพรวมตลาดไม่ได้สนใจต่อข่าวความวุ่นวายหรือเหตุจลาจลในสหรัฐฯ แต่กลับให้ความสำคัญต่อความหวังจะมีวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกัน Covid-19 ที่จะมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2021 นี้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ

อย่างไรก็ดี คืนนี้ตลาดรอคอยการประกาศข้อมูลการจ้างงานของรัฐบาลสหรัฐฯที่ถูกคาดว่าจะเห็นการจ้างงานลดลงราว 71,000 รายในเดือนธ.ค. และอัตราว่างงานมีโอกาสพุ่งแตะ 6.8%

ข้อมูลค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงมีโอกาสโตได้ปานกลางราว 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่รายปีทรงตัวที่ 4.4%

วิเคราะห์ค่าเงินยูโรในระยะสั้น

ค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.2270 ดอลลาร์/ยูโร ในช่วงเปิดตลาดเอเชีย ภาพรวมมีโอกาสอ่อนค่า หากเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 100 วันที่ระดับ 1.2230 ดอลลาร์/ยูโร

แนวต้าน: 1.2285 1.2345 1.2390

แนวรับ: 1.2230 1.2190 1.2140

· ตลาดให้ความสนใจไปยังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯประจำเดือนธ.ค.

ตลาดจับตาดูรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯประจำเดือนธ.ค.ในคืนนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการจ้างงานที่ชะลอตัวลงอีกเนื่องจากข้อจำกัดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

โดยคาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯจะลดลงจาก 245,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา เหลือเพียง 71,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.นี้

· สถานการณ์ Covid-19 | พบยอดติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ของอังกฤษระบาดเพิ่มมากขึ้นในสหรัฐฯ ขณะที่รพ.สหรัฐฯ มียอดผู้ป่วยรวมทะลุ 132,000 ราย

ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เตือน Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ตรวจพบในอังกฤษ (B.1.1.7) เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อาจเกิดภาวะ Shutdown เศรษฐกิจอีกครั้ง หากโรงพยาบาลในรัฐเอาไม่อยู่

ทั้งนี้ รัฐนิวยอร์ก มีรายงานว่าเป็นเพียงรัฐเดียวที่พบสายพันธ์ุใหม่ระบาดอยู่ในเวลานี้ แต่แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นยังอยู่ในเกณฑ์ แต่ผู้ว่าการรัฐฯมีความวิตกกังวลว่าหากการระบาดยัังคงรุนแรงอาจทำให้โรงพยายาลในพื้นที่ไม่เพียงพอ

โรงพยายาลรัฐลอสแองเจลลิส "ถูกบังคับให้ตัดสินใจเข้มงวดขึ้น" จากยอดผู้ป่วย Covid-19 เพิ่มสูง

CDC ชี้ วัคซีนกว่า 21 ล้านโดสถูกกระจายไปทั่วพื้นที่ในสหรัฐฯแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้รับวัคซีนเกือบ 6 ล้านโดส

รัฐอิลลินอยส์ กลายเป็นรัฐที่ 5 ในสหรัฐฯที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 1 ล้านราย

รัฐเท็กซัสยืนยันพบผู้ติดเชื้อสายพันธ์ุใหม่รายแรก เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่พบในอังกฤษ

· รัฐบาลอังกฤษออกกฎให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องแสดงผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีผลลัพธ์เป็นลบ เมื่อไปถึงสนามบิน เพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมของอังกฤษระบุว่า มาตรการใหม่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางโดยเรือ เครื่องบิน หรือรถไฟจะต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาที่ออกไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมายังอังกฤษ

· เมืองใกล้เคียงกรุงปักกิ่งสั่งห้ามประชาชนออกนอกพื้นที่ ท่ามกลางการระบาดที่เพิ่มมากขึ้นเหมือนในอู่ฮั่นปีที่แล้ว

· นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เข้ารับวัคซีนป้องกัน COVID-19 โดสแรก

ณ ขณะนี้ประเทศสิงคโปร์มีการอนุมัติวัคซีนของบริษัท Pfizer-BioNTech เพียงเจ้าเดียว แต่นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ปริมาณของวัคซีนจะมีเพียงพอสำหรับประชาชน 5.7 ล้านคน ที่จะครอบคลุมกับวัคซีนของผู้ผลิตรายอื่น ๆ ได้แก่ Moderna และ Sinovac ด้วย

ทั้งนี้ สิงคโปร์ได้รับฉีดวัคซีนครั้งแรกในช่วงสิ้นเดือนธ.ค. และจะเริ่มฉีดวัคซีนแก่บุคลากรทางการแพทย์ในวันนี้ และเดือนหน้าจะเป็นการฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุในเดือนหน้า

· กทม. พบติดเชื้อโควิดเพิ่ม 37 ราย จากพื้นที่เสี่ยง-สัมผัสผู้ป่วย

กทม.ยังพุ่งไม่หยุดติดเชื้อโควิดอีก 37 ราย รวมสะสม 364 ราย ติดเชื้อจากจุดเสี่ยง-สัมผัสผู้ติดเชื้อ 29 ราย รอสอบสวน 1 ราย

วันที่ 8 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบมีผู้ติดเชื้อใหม่ 37 ราย โดยในจำนวนนี้ 7 ราย ศบค.ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าติดเชื้อจากสาเหตุอะไร มีบันทึกเพียง 30 ราย ซึ่งแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มแรก ติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อจำนวน 29 ราย สัญชาติไทย 27 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และเมียนมา 1 ราย

ประกอบด้วยเพศชาย 13 ราย อายุระหว่าง 18-71 ปี เพศหญิง 16 ราย อายุระหว่าง 21-54 ปี มีอาการป่วย 21 ราย ไม่มีอาการ 8 ราย

· ท้ายที่สุด "ทรัมป์" ยอมรับ "ไบเดน" เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ แม้ว่านายทรัมป์จะไม่มีการเอ่ยชื่อถึงนายไบเดน แต่ก็มีการกล่าวถึง "ทีมบริหารชุดใหม่" ที่จะเข้าพิธีสาบนตนในวันที่ 20 ม.ค. นี้

· เดโมแครตฟ้อง "ทรัมป์" รอบสอง หลังเหตุจราจลที่รัฐสภา

โดยในวันนี้ พรรคเดโมแครต ยื่นฟ้องร้อง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นครั้งที่สอง หลังจากที่นายทรัมป์ กล่าวหาว่า เดโมแครตฉ้อโกงการเลือกตั้ง เพื่อปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายทรัมป์ โจมตีเข้ารัฐสภา

ทั้งนี้ผู้นำฝ่ายพรรคเดโมแครต ซึ่งรวมถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นางแนนซี เปโลซี และผู้นำวุฒิสภาเสียงข้างน้อย นาย ชัค ชูเมอร์ เรียกร้องให้ดำเนินการฟ้องร้องทันทีหากรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ ปฏิเสธที่จะดำเนินการเพื่อปลดทรัมป์ออกจากอำนาจ

· อดีตทูตสหรัฐฯ มอง "ทรัมป์" เป็นอันตรายต่อประเทศ และควรจะลาออกไป โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกประณามถึงการปลุกปั่นให้เกิดจราจลที่รัฐสภาของสหรัฐฯ

และนายทรัมป์จะดำรงตำแหน่งวันสุดท้าย ในวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายโจ ไบเดน จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป

จึงเกิดคำถามว่า นายทรัมป์ ควรลาออกก่อนที่จะถึงวันนั้นหรือไม่

อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุดสุด นายทรัมป์ ก็ได้ออกมายอมรับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนถัดไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี และส่งผลให้เกิดการจลาจลร้ายแรงที่รัฐสภา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงอย่างน้อย 5 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน

· สหรัฐฯ ยั่วจีน เยือนไต้หวัน

ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ มีแผนการเยือน ไต้หวัน ในวันที่ 13-15 ม.ค. เพื่อเข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่อาวุโสไต้หวัน ซึ่งการประชุมของสหรัฐฯและไต้หวันในครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้แก่จีนเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจีนกล่าวอ้างว่าเกาะไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีนที่รอการรวมชาติกันอีกครั้ง ส่งผลให้ผู้สนับสนุนไต้หวันภายใต้การบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงเจ้าหน้าที่อาวุโสไต้หวันไม่พอใจจีนอย่างมาก

· ชาวประมงสก็อตแลนด์ระงับการส่งออกอียูจากความล่าช้าของข้อตกลง Brexit ส่งผลให้เกิดความเสียหายมูลค่าหลายแสนปอนด์

· จีนต่อรองสหรัฐฯ ถอนชื่อบัญชีดำบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้น หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนามคำสั่งฉุกเฉิน โดยห้ามสหรัฐฯลงทุนด้านหลักทรัพย์ในบริษัทจีน ที่ควบคุมโดยกองทัพจีน และจะมีผลในวันที่ 11 ม.ค.นี้ ท่ามกลางการต่อรองของจีน ซึ่งมองว่า ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนถัดไป อย่างนายโจ ไบเดน อาจจะยกเลิกการขึ้นบัญชีดำได้

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้สหรัฐฯ พิจารณาขึ้นบัญชีดำของบริษัทจีนรวมทั้งสิ้น 35 แห่ง รวมถึงหุ้นบริษัทอาลีบาบาและเทนเซนต์ด้วย

· ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขยายภาวะฉุกเฉินจากเขตโตเกียวไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เนื่องจากผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยสองเท่าสำหรับเศรษฐกิจญี่ปุ่น

โดยนาย โยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยอมรับว่ามาตรการที่มีผลในเมืองหลวงอาจจำเป็นในส่วนอื่น ๆ ของประเทศด้วย

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ได้เตือนว่าภาวะฉุกเฉินในวงจำกัด เพียงหนึ่งเดือนที่พุ่งเป้าไปที่โตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงอาจนำไปสู่การหดตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสปัจจุบัน

· บริษัท Samsung Electronics ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและชิปหน่วยความจำรายใหญ่ของเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบเป็นรายปี ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนากระตุ้นให้เกิดจากการทำงานระยะไกลและการดูทีวีทำให้ยอดขายชิปและแผงจอแสดงผลเพิ่มขึ้น โดยผลกำไรแตะที่ 9 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 8.24 พันล้านเหรียญ โดยตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 9.5 ล้านล้านวอน

· ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน และภาพรวมรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเนื่องจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นทั่วโลกทำให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนเพิ่มขึ้นตามคำมั่นสัญญาของซาอุดีอาระเบียที่จะลดการผลิต

โดยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกกล่าวว่าจะลดการผลิตลงอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนก.พ.และมี.ค.

UBS ปรับเพิ่มการคาดการณ์สำหรับราคาน้ำมันดิบ Brent เป็น 60 เหรียญ/บาร์เรลในช่วงกลางปี หลังจากการลดการผลิตของซาอุดิอาระเบียและความคาดหวังของอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในไตรมาสที่สองเนื่องจากการเปิดตัววัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาอาจจะช่วยฟื้นการเดินทาง

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.7% ที่ระดับ 54.77 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากปรับขึ้นไปแตะบริเวณ 54.92 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงุสดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.7% ที่ระดับ 51.16 เหรียญ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.ทีผ่านมา ที่บริเวณ 51.34 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงก่อนหน้านี้

ภาพรวมรายสัปดาห์น้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดเพิ่มขึ้นมากกว่า 5%