น้ำมันดิบปิดร่วงจากระดับสูงสุดรอบหลายสัปดาห์ ตามการร่วงลงของหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ OPEC+ เลื่อนการพิจารณาผลผลิตน้ำมันออกไป
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดรอบหลายเดือน และปิดลงกว่า 1% วานนี้ หลังจากที่ OPEC+ ยังคงล้มเหลวในการตัดสินใจว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตหรือไม่ในเดือนก.พ. ในการประชุมเมื่อวานนี้
น้ำมันดิบ Brent ปิด -71 เซนต์ หรือ -1.4% ที่ 51.09 เหรียญ ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิด -90 เซนต์ หรือ -1.9% ที่ 47.62 เหรียญ
ในช่วงต้นตลาดน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก.พ. ขณะที่ Brent ทำสูงสุดตั้งแต่เดือนมี.ค. ส่งผลให้ค่าพรีเมียมของน้ำมันดิบสองชนิดปรับตัวขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่พ.ค.
ดัชนี S&P500 และดาวโจนส์ดิ่งลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเดินทางไปยังรัฐจอร์เจีย เพื่อจับตาดูผลการเลือกตั้งวุฒิสภสหรัฐฯ ก่อนจะทราบผลคะแนนในวันนี้
การประชุม OPEC+ วานนี้ จะกลับมาหารือการเจรจาอีกครั้งหลังจากที่ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องระดับการผลิตน้ำมันในเดือนก.พ.นี้ ท่ามกลางซาอุดิอาระเบียที่ค้านการเพิ่มการผลิตน้ำมันในช่วงที่เกิดการ Lockdown รอบใหม่เพื่อต่อสู้กับ Covid-19
ด้านรันสเซียเรียกร้องให้เกิดการเพิ่มการผลิตน้ำมันในช่วงที่อุปสงค์มีการฟื้นตัว
หัวหน้าฝ่ายตลาดน้ำมันจาก Rystad Energy กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อวานไม่มีอะไรใหม่เกิดขึ้น แต่รัสเซียเองก็อาจจะไม่ต้องการเผชิญกับความสูญเสียโดยง่าย ดังนั้นจึงอาจต้องรอการเจรจาออกไป
ยอดส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซูเอล่าหดตัวลงมากสุดนับตั้งแต่ปี 1940 ภายใต้การคว่ำบาตรที่เข้มงวดมากขึ้นของสหรัฐฯ โดยยอดส่งออกร่วงลงไปกว่า 376,500 บาร์เรล/วันในปี 2020