MTS Help Center

น้ำมันดิบปิดบวกหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลง แต่ตลาดยังกังวลอุปสงค์น้ำมัน

ในวันที่ 30 ธ.ค. น้ำมันดิบทรงตัวโดย WTI ปิด +0.83% ที่ 48.40 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ Brent ปิด +0.49% ที่ 51.34 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางตลาดที่มีปัจจัยบวกจาก

- การที่สหรัฐฯมีการประกาศแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ

- สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับลง โดยข้อมูล API เผยสัปดาห์ที่ผ่านมาสต็อกน้ำมันดิบลดลงเกินคาดที่ 4.8 ล้านบาร์เรล ที่ระดับ 492.9 ล้านบาร์เรล (สะท้อนความต้องการแข็งแกร่ง)

- โครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกปีหน้าที่จะนำมาซึ่งการคลายมาตรการเข้มงวดและการดำเนินกิจกรรมภาคธุรกิจที่อาจยิ่งหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้น

ระยะสั้นตลาดมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อ “อุปสงค์น้ำมัน” และจำกัดการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน จาก

- ความกังวลเรื่อง Lockdown

- การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษ ที่ยิ่งทำให้เกิดการ Lockdown

- สถานพยาบาลและการระบาดมีการปรับตัวสูงขึ้นอันเป็นส่วนหนึ่งของยุโรปและแอฟริกา

---------------

น้ำมันดิบปิดปี 2020 ดิ่งแรงกว่า 20% วิกฤต Covid-19 กดดันอุปสงค์หดตัวหนัก

ราคาน้ำมันดิบวันที่ 31 ธ.ค. ปิดปรับขึ้น แต่ปี 2020 ที่ผ่านมาคือปีที่มีความผันผวนหนักมากสำหรับการซื้อขายในตลาดน้ำมันอันเป็นผลจาก “LOCKDOWN” เพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ฉุดกิจกรรมเศรษฐกิจซบเซา และตอกย้ำอุปสงค์ที่อ่อนแอให้แย่ลงมากขึ้น

วันซื้อขายสุดท้าย 31 ธ.ค. - WTI ปิด +12 เซนต์ หรือ +0.25% ที่ 48.52 เหรียญ/บาร์เรล

Brent ปิด -49 เซนต์ หรือ -1% ที่ 51.14 เหรียญ/บาร์เรล

ตลอดปี 2020: Brent ร่วง 22.5% ขณะที่ WTI ทรุดกว่า 21.4%

ภาพรวมราคาน้ำมันดิบปัจจุบันยังมีการปรับขึ้นได้เป็นเท่าตัวนับตั้งแต่ที่ดิ่งลงแรงทำ Low รอบกว่า 10 ปีในเดือนเม.ย. ปี 2020 จากปัจจัยลบ

- สงคราราคาน้ำมันซาอุดิอาระเบีย-รัสเซีย

- การระบาดของ Covid-19

ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวน้ำมันดิบ WTI ทำต่ำสุดที่ระดับติดลบครั้งประวัติการณ์ที่ -40.32 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ Brent ทำต่ำสุดตั้งแต่ปี 1999 บริเวณ 15.98 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่การเริ่มฉีดวัคซีนได้ในช่วงไตรมาสที่ 4/20 ก็ดูจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันและดันราคาฟื้นตัวทำสูงสุดในรอบประมาณ 10 เดือนได้

รายงานผลสำรวจจาก Reuters ชี้ว่า ราคาน้ำมันไม่น่าจะปรับขึ้นได้มากนักในปี 2021 และแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันยังไม่สดใส

ปัจจัยต่อไปที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดในวันจันทร์ที่ 4 ม.ค. ซึ่งเป็นวันทำการซื้อขายวันแรกของปีนี้ คือ “การประชุม OPEC+” เกี่ยวกับการหารือแผนการเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ก.พ. นี้