• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับลงในปีนี้ แต่ปีหน้าจะชะลอการปรับลง

    30 ธันวาคม 2563 | Economic News
   

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับลงในปีนี้ แต่ปีหน้าจะชะลอการปรับลง

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ดิ่งลงในปี 2020 มีการทำระดับต่ำสุดครั้งประวัติศาสตร์ในช่วงต้นปี ก่อนที่จะค่อยๆกลับมาทรงตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

 

ขณะที่นักลงทุนรอคอยการปรับขึ้นในปี 2021

 

คาดการณ์ที่ว่าวัคซีน Covid-19 จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้รีบาวน์ได้ในปี 2021 ก็เป็นตัวหนุนให้นักลงทุนเลือกออกจากตราสารหนี้และสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นใกล้ 2%



นักลงทุน 2-3 ราย ยังเชื่อว่าจะเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกลับไปเคลื่อนไหวได้ก่อนช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนาในเร็วๆนี้ ขณะที่ผลสำรวจค่ากลางของกลุ่มนักกลยุทธ์ของ Reuters ก็คาดว่าอาจเห็นอัตราผลตอบแทนปรับขึ้นแตะ 1.2% ภายในระยะเวลา 1 ปี

 

ท่ามกลางปัจจัยอื่นๆที่มีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร คือ ความรวดเร็วในการกระจายวัคซีน Covid-19 และผลการเลือกตั้งผู้แทนวุฒิสภาจากรัฐจอร์เจียในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ว่าเดโมแครตจะพลิกกลับมาครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้หรือไม่

 


หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวฟื้นตัวขึ้น อาจมาจากความเป็นไปได้ในเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ ที่เสี่ยงจะให้นักลงทุนแห่เทขายพันธบัตรระยะยาว จากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น

 

ภาพรวมของเงินเฟ้อยังคงมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนดไว้ ท่ามกลางรัฐบาลมีการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนหลายล้านล้านเหรียญ และเฟดมีการอนุญาตปล่อยให้เงินเฟ้อฟื้นตัวขึ้น

 

ซึ่งการจะเห็นเงินเฟ้อปรับขึ้นก็น่าจะมีผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี เริ่มปรับขึ้นจากระดับปัจจุบันที่อยู่ที่ 2.02% ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่พ.ค. ปี 2019

 

ผลสำรวจล่าสุดของ BofZ Global Research กล่าวว่า บรรดาผู้จัดการกองเทุนเล็งเห็นถึงการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อที่อาจเป็นความเสี่ยงในการปรับขึ้นรอบใหญ่เป็นครั้งที่ 2


 

นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank ระบุในช่วงต้นเดือนธ.ค. ว่า อาจเห็นความต้องการตราสารหนี้มากขึ้นในปีหน้า จากการสนับสนุนของเฟด โดยคาดอาจเห็นความต้องการเพิ่มขึ้นมากถึง 2.7 ล้านล้านเหรียญในปี 2021 ขณะที่เฟดมีการเข้าซื้อตราสารหนี้ ณ ปัจจุบันอยู่ จึงสะท้อนว่าภาคเอกชนอาจจำเป็นต้องมีการได้รับเม็ดเงินมากถึง 1.7 ล้านล้านเหรียญนั่นเอง

 

Bank of America กล่าวว่า อุปทาน/อุปสงค์ของตราสารหนี้อาจกลายมาเป็น  "ความไร้เสถียรภาพมากขึ้น" ในปี 2021  ซึ่งอาจเห็นอุปทานปรับขึ้นทำสุงบสุดเป็นประวัติการณ์ได้

 

นักลงทุนยังคงจัตาว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการเข้าซื้อพันธบัรอย่างไร เพราะอาจเป็นตัวจำกัดการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวได้

 

คาดการณ์ Spread ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 10 ปี ที่มักนำมาเป็นตัววัดเส้น Yield curve พบว่าถ่างมากขึ้นเกือบ 12 จุดในเดือนธ.ค. ทำให้คาดว่าอาจเห็นภาวะขาลงเกิดขึ้นในอัตราผลตอบแทนระยะยาวในอนาคตได้

 

ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่เฟดมีสัญญาณเล็กน้อยเกี่ยวกับการพร้อมปรับการเข้าซื้อพันธบัตรที่ผสมผสานกัน โดยช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาประธานเฟด กล่าวว่า การซื้อพันธบัตรระยะยาวอาจไม่เพิ่มสูงขึ้นจากรายการความเป็นไปได้ของเฟด

 

ที่มา: Reuetrs

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com