MTS Help Center

·         หุ้นเอเชียอ่อนตัวลง หลังเจรจา Brexit และกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯยังชะงักงัน

หุ้นเอเชียอ่อนตัวลงจากสูงสุดประวัติการณ์ จากการเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังไม่คืบหน้า ประกอบกับแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และเทรดเดอร์ปอนด์ถูกกดดันจากเจรจา Brexit ที่ยังไม่เกิดข้อตกลงร่วมกัน

 

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นปิด -0.34%

 

ดัชนีนิกเกอิปิด -0.23% ที่ 26,756.24 จุด ขณะที่ ดัชนี Topix ปิด -0.18% ที่ระดับ 1,776.21 เหรียญ

ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ปิด -0.33% ที่ 2,746.46 จุด

ภาพรวมดัชนี MSCI และนิกเกอิ ปรับขึ้นได้กว่า 60% เมื่อเทียบกับต่ำสุดในเดือนมี.ค.

ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์สอ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวทรงตัว หลังจากที่ปรับขึ้นในช่วงต้นตลาด

ดัชนี ASX200 ปิด -0.67% ที่ 6,683.10 จุด ด้านหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงนำ -0.37%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอ่อนตัวลงหลังจากที่เคลื่อนไหวผันผวนวานนี้ ท่ามกลลางเทรดเดอร์ที่รอคอยประชุมอีซีบี ขณะที่ปอนด์ร่วงมารอการแก้ไขปัญหา Brexit

·         เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนกังวลข้อพิพาทจีน-สหรัฐ

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากรายงานยอดปล่อยกู้ล็อตใหม่สกุลเงินหยวนที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ดี ตลาดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนี CSI300 ที่เป็นหุ้นกลุ่ม blue-chip ปิดทรงตัวที่ 4,940.52 จุด

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,373.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด หรือ +0.039%

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่สกุลเงินหยวนเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 1.43 ล้านล้านหยวน (2.1899 แสนล้านดอลลาร์) พุ่งขึ้น 4.56 หมื่นล้านหยวน เมื่อเทียบเป็นรายปี

·         ตลาดหุ้นยุโรปเปิดทรงตัว จับตาเจรจาข้อตกลง Brexit - กับเวลาที่ใกล้จบลง

ดัชนี Stoxx600 เปิดทรงตัว ขณะที่หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเปิด +0.5% ทางด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเปิด -0.6%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม:

- อังกฤษ - อียู ประกาศตัดสินใจข้อตกลง Brexit ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ภาพหลักยังติดประเด็นหลักใหญ่ๆ ได้แก่ การทำประมงค์ที่ถูกกฎหมาย และกฎเกณฑ์ด้านการแข่งขัน

- ประชุมอียูซัมมิทระหว่างวันนี้และวันพรุ่งนี้  (10-11 ธ.ค.)

- ตลาดสนใจประชุมอีซีบีคืนนี้ เวลา 20.30น.  ที่ถูกคาดว่าจะเห็นการตัดสินใจเรื่องนโญบายการเงิน, คาดการณ์เศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการขยายมาตรการ QE

- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่จับตาเจรจาการค้า Brexit ควบคู่กับเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

- นายมิทช์ แมคคอนเน ผู้นำวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า ทั้งสองพรรคกำลังหาแนวทางร่วมกันเพื่อให้เกิดมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ

- จีดีพีอังกฤษขยายได้ 0.4% ในเดือนต.ค. ชะลอตัวลงจากเดือนก.ย. ที่ขยายตัวได้ 1.1%

 

ดัชนีฟิวเจอร์สสหรัฐฯ เคลื่อนไหวขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางนักลงทุนรอความคืบหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ควบคู่กับการพัฒนาวัคซีน Covid-19

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย โดยระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะหดตัวลงเพียง 0.4% ในปี 2563 ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระบุว่า GDP จะหดตัวลง 0.7% ขณะเดียวกันคาดว่า GDP ปี 2564 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะขยายตัว 6.8% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม

ADB ได้เปิดเผยรายงาน "Asian Development Outlook (ADO) 2020 Update" ในวันนี้ โดยระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลข GDP ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียในปีนี้ มาจากความเชื่อมั่นที่ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้จะฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

ยอดโควิดวันนี้! ไทยพบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 18 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 63 เวลา 11.00 น. เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 18 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 4,169 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 60 ราย รักษาหายเพิ่ม 8 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,888 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 221 ราย

ผู้ติดเชื้อในประเทศ เป็นคนไทย 1 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยัน เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน กรุงเทพมหานคร