• ดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 150 จุด หลังปิดสูงสุดเหนือ 30,000จุดได้

    26 พฤศจิกายน 2563 | SET News

ดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 150 จุด หลังปิดสูงสุดเหนือ 30,000จุดได้


ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับลงเมื่อคืนนี้ จากแรงขายทำกำไร และนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลว่างงานสหรัฐฯ

ดัชนีดาวโจนส์ปิด -173.77 จุด หรือ -0.6% ที่ 29,872.47 จุด

ดัชนี S&P500 ปิด -0.2% ที่ 3,629.65 จุด

ดัชนี Nasdaq ปิด +0.5% ที่ 12,094.40 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบางในช่วงวันหยุดเทศกาล Thanksgiving โดยกองทุน SPY หรือ SPDR S&P 500 ETF Trust มีปริมาณการซื้อขายกว่า 33 ล้านหุ้น น้อยกว่าครึ่งของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยช่วง 30 วันที่ระดับ 79.3 ล้านหุ้น

ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นสะท้อนว่า ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้มาตรการคุมเข้มทางด้านธุรกิจดูจะส่งผลกระทบให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น และกดดันการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน โดยล่าสุดพบมีการขอรับสวัสดิการเพิ่ม 30,000 ราย สู่ระดับ 778,000 ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา


ดาวโจนส์แตะ 30,000 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ปรับขึ้นเหนือ 30,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยดาวโจนส์ปรับขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 โดยปรับขึ้นกว่า 12%

หุ้นกลุ่ม Small caps ปรับตัวลงจากสูงสุดประวัติการณ์เช่นกัน หลังจากดัชนี Russell 2000 ปรับขึ้นเกือบ 2%

โดยเดือนนี้ ดัชนี Russell ปรับขึ้นเกือบ 20% ทำเดือนที่ดีที่สุด ขณะที่เมื่อวานนี้ปิดอ่อนตัวลงมา 0.5%

ตลาดหุ้นปรับขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ ท่ามกลางข่าววัคซีนเชิงบวก และความชัดเจนทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น


Credit Suisse คาด หุ้นสหรัฐฯมีแนวโน้ม “ขึ้นต่อ” ปี 2021

คาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของวัคซีน Covid-19
มาตรการกระตุ้นทางการเงินฉบับใหม่
ทีมบริหารสหรัฐฯชุดใหม่
ทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯในปีหน้า


หลังตลาดเพิ่มขึ้นเดือนพ.ย. ก็มีโอกาสจะเห็นการขึ้นต่อครั้งใหญ่แบบ “Santa Rally” น้อยลง

การปรับขึ้นที่แข็งแกร่งในเดือนพ.ย. อาจส่งผลต่อทิศทางการปรับขึ้นต่อช่วงสิ้นปีที่เคยเกิดขึ้นมา โดยตลาดตอบรับข่าว “วัคซีน” ที่เป็นปัจจัยหลักในเดือนนี้ ที่หนุนหุ้นกลุ่มวัฎจักร อาทิ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการเงิน “จากความหวังจะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัว”

โดยดัชนี S&P500 ปรับขึ้นได้กว่า 11% ในเดือนนี้

หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนจาก CFRA กล่าวว่า หากดัชนีปรับขึ้นได้แล้วกว่า 10% ก็อาจเห็นตลาดหุ้นครั้งนี้ปรับขึ้นได้เป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และการแข็งแกร่งในเดือนพ.ย.นี้ ดูจะขโมยทิศทางเชิงบวกของเดือนธ.ค. หรือจากภาวะ Santa

อย่างไรก็ดี เขาคาดว่า ตลาดจะปรับขึ้นได้สูงกว่าระดับปัจจุบันในช่วงสิ้นปี แต่อาจเกิดภาวะ “Santa Rally” ได้แต่ไม่มากนัก ในการปรับขึ้นในเดือนธ.ค.

ขณะที่ดัชนี S&P500 ปรับขึ้นกว่า 1.5% ในเดือนธ.ค. อาจกลับเท่ากับระดับเดียวกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2


ที่มา: CNBC 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com