หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Northern Trust กล่าวว่า วัคซีน Covid-19 จะไม่ใช่ผลลัพธ์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯได้อย่างทันที เนื่องด้วยเศรษฐกิจยังจำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนครั้งใหญ่ทางการเงินเพื่อช่วยฟื้นคืนสภาวะย่ำแย่ในเวลานี้
ตลาดต่างๆทั่วโลกมีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่บริษัท Pfizer ที่มีการพัฒนาวัคซีนร่วมกับบริษัท BioNTech ประกาศว่า ผลการทดสอบวัคซีนมีประสิทธิภาพกว่า 90% ในการยับยั้งการติดเชื้อ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานใดประกอบว่ากลุ่มผู้ทดสอบเหล่านี้มีอาการติดเชื้อมาก่อน
ข่าวดีที่ช่วยหนุนสหรัฐฯได้ในเวลานี้ คือ
- ข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของ “วัคซีน”
- ข้อมูลการขยายตัวของภาคแรงงานประจำเดือนต.ค.
*** แต่ทั้งหมดนี้ไม่อาจช่วยลดความจำเป็นที่จะต้องเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ***
แม้ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯจะออกมาดี
แต่ก็ยังมีชาวอเมริกาว่างงานอีกกว่า 10 ล้านราย ที่ประสบกับภาวะว่างงานมาตั้งแต่เดือนม.ค. จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งจำนวนคนว่างงานในเวลานี้ ก็ดูเหมือนจะต้องใช้เวลานานขึ้นที่การจ้างงานจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเศรษฐกิจสหรัฐฯจึงยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยอื่นๆที่จะสร้างความผันผวนให้แก่สหรัฐฯ คือ “งบประมาณสำหรับรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นต่างๆภายในประเทศ” เนื่องด้วย งบประมาณ ณ ปัจจุบัน ประสบกับปัญหาอย่างหนักในเรื่อง
- การประสบภาวะสูญเสียรายได้
- ภาวะคนตกงาน
- การปรับลดหน่วยงานบริการบางส่วน
*** และทั้งหมดนี้ เป็นผลเสียต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ***
เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทั้งหมด ก็จะเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่า
เศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “วัคซีน” เพื่อ “แก้ไขปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น”
เพราะถึงแม้วัคซีน Covid-19 ของบริษัท Pfizer และ BioNTech จะอยู่ใน “ทิศทางเชิงบวก”
ที่ อาจได้รับการอนุมัติภายในปีนี้ แต่ก็อาจมีจำนวนโดสไม่เพียงพอต่อผู้ที่จำเป็นไปจนถึงปี 2020 ได้
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯเองก็ ยังไม่มีแนวโน้มจะได้รับแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ก่อนจะเกิดพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนม.ค. ท่ามกลางความขัดแย้งเชิงลึกภายในสภาคองเกรส
การเจรจาข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา (3 พ.ย.) โดยที่พรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังไม่สามารถหาข้อตกลงเกี่ยวกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในเวลานี้
ผลจากเรื่องดังกล่าว ทำให้คาดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯดูจะย่ำแย่ลง และอาจมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น “หากเรายังคงรอคอยให้วัคซีนมาช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่าง”
ภาคธุรกิจต่างๆและนักเศรษฐศาสตร์รายอื่นๆ มีการกล่าวในทำนองเดียวกันว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจำเป็นที่ต้องได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ประธานสภาหอการค้าสหรัฐฯ เรียกร้องให้ สภาคองเกรสรีบผ่านร่างกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนที่นายโจ ไบเดน จะเข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียงเดือนเดียว ก่อนที่เศรษฐกิจจะได้รับอานิสงส์เพิ่มเติมจากการมีวัคซีนมาเกื้อหนุน
ที่มา: CNBC