IMF เผยคาดการณ์ราคาน้ำมันปี 2021 และทิศทางเศรษฐกิจตะวันออกกลาง
กองทุน IMF ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจตะวันออกกลางและเอเชีย โดยคาดจะมีการเติบโต -4.1% แย่กว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ -1.3%
ราคาน้ำมันยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน
ราคาน้ำมันถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการฟื้นฟูกลุ่มผู้ส่งออก โดยเฉพาะในประเทศซาอุดิอาระเบีย, อิรัก, อิหร่าน, สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน และคูเวต ที่เป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้หลักจากกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนั้น การฟื้นตัวของราคาน้ำมันจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนมี.ค. ของปี 2020 นี้
น้ำมันดิบ Brent ยังมีระดับการซื้อขายต่ำกว่าช่วงก่อนเกิด Covid-19 มากถึง 40%
ทั้งนี้ IMF ไม่คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะก้าวหลุดกลับมาฟื้นตัวได้ในเร็วๆนี้ พร้อมคาดกรอบราคาไว้ที่ 40-50 เหรียญ/บาร์เรล ในปี 2021 แม้ว่าช่วงต้นปีที่แล้ว จึงคาดกรอบสั้นช่วงต้นปีหน้าระหว่าง 40-45 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งคาดว่าก็ยังน้อยกว่า 80 เหรียญ/บาร์เรล จึงทำให้ซาอุดิอาระเบียจำเป็นต้องสร้างสมดุลด้านค่าใช้จ่ายด้านราคาน้ำมัน
“แนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน” ยังเบาบางจากการระบาดของ ไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นครั้งใหม่ทั่วโลก ประกอบกับ “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ” และ “การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
ทางด้าน EIA ก็มีการประกาศในเดือนก.ย. ที่ผ่านมาด้วยการลดแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกสู่ระดับ 91.7 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ขณะที่ยอดรายวันปรับลง 8.4 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบรายปี และหดตัวมากกว่าที่คาดในเดือนส.ค ที่อยู่ที่ 8.1 ล้านบาร์เรล
โอเปกมองแนวโน้มอุปสงค์ปีนี้ย่ำแย่ โดยหั่นคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกเฉลี่ยแตะ 90.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ หรือหดตัวกว่า 9.5 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบรายปี พร้อมกล่าวเตือนถึง “ความเสี่ยงต่างๆที่มีอยู่และอาจฉุดเข้าสู่ภาวะขาลง”
การท่องเที่ยวด้วยสายการบิน “ไม่คาดว่าจะรีบาวน์กลับ” เท่าช่วงก่อนเกิดการระบาดได้จนถึงปี 2023
จีดีพีแท้จริงคาดเฉลี่ยที่ 4.7% ตั้งแต่ปี 2000-2016 ด้านจีดีพีที่ไม่รวมน้ำมันปรับขึ้น 6.4% แต่การผลิตน้ำมันของอ่าวคาดจะ -6% ในปีนี้
ที่มา: CNBC