• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2563

    12 ตุลาคม 2563 | Economic News
 

·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงต้นการซื้อขาย เนื่องจากสกุลเงินที่มีความเสี่ยงลดลงหลังจากการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯประสบความล้มเหลวและค่าเงินหยวนลดลงหลังจากธนาคารกลางของจีนใช้มาตรการที่เห็นว่ามีเป้าหมายเพื่อลดการแข็งค่า

ค่าเงินยูโรปรับลดลง 0.1% ที่ระดับ 1.1817 ดอลลาร์/ยูโร ด้านดอลลาร์ออสเตรเลียลดลง 0.3% ที่ระดับ 0.7222 ดอลลาร์/ออสเตรเลีย ด้านค่าเงินเยนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ระดับ 105.52 เยน/ดอลลาร์

ด้านดัชนีดอลลาร์ขยับขึ้นไปแตะ 93.108 จุด โดยตีกลับจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ของวันศุกร์ที่ 92.997 ดัชนีดังกล่าวขาดทุนมากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์เนื่องจากหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐฯ

 

·         เดโมแครต-รีพับลิกัน ยังไม่สามารถตกลงตามข้อเสนอ ทรัมป์” ได้ ลดความหวังเกิดข้อตกลงการค้า

พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับข้อเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายทรัมป์วงเงิน 1.8 ล้านล้านเหรียญ ขณะที่การเจรจาในเวลานี้ยังเสียงแตกเรื่องเงินกู้ภาคธุรกิจขนาดเล็ก

ขณะที่รีพับลิกันเริ่มเจรจาข้อตกลงแต่มูลค่าแพ็คเกจ 4 แสนล้านเหรียญ ยังน้อยเกินไปจากที่เดโมแครตเสนอไว้ที่ 2.2 ล้านล้านเหรียญ และข้อแตกต่างที่เกิดทำให้ทั้งสองฝ่ายยังไม่พอใจ

 

·         NBC News เผย ทำเนียบขาวเสนอรายละเอียดดังนี้:

Ø  หน่วยงานและรัฐบาลท้องถิ่น 3 แสนล้านเหรียญ

Ø  ประกันการว่างงาน 400 เหรียญ/สัปดาห์ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนม.ค. และให้ย้อนหลังตั้งแต่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา

Ø  ปกป้องภาคธุรกิจจากภาระหนี้สิน

Ø  จ่ายเช็คให้แก่ผู้ใหญ่ 1,200 เหรียญ/คน และเด็ก 1,000 เหรียญ/คน

Ø  สายการบิน 2 หมื่นล้านเหรียญ

Ø  เงินกู้ PPP 3.3 แสนล้านเหรียญ

Ø  วงเงินกู้ขั้นต่ำ 1 หมื่นล้านเหรียญ

Ø  การทดสอบ และกระบวนการด้านวัคซีน รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ 1.75 แสนล้านเหรียญ

Ø  การศึกษา 1.5 แสนล้านเหรียญเงินกู้แก่นักเรียนนักศึกษา 2.6 หมื่นล้านเหรียญ

Ø  การช่วยเหลือด้านอาหาร 1.5 หมื่นล้านเหรียญ

Ø  สุขภาพเด็ก 2.5 หมื่นล้านเหรียญ

Ø  บริการไปรษณีย์ 1 หมื่นล้านเหรียญ

Ø  คงเครดิตภาษีลูกจ้าง 9.1 หมื่นล้านเหรียญ

Ø  ช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม 2 หมื่นล้านเหรียญ

Ø  บริการความถี่ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ


·         ผู้บริหาร British Airways ลาออก

 

·         หยวนอ่อนหลังธนาคารกลางจีนแก้กฎลดการ Short ในค่าเงิน

จึงส่งผลให้หยวนปรับอ่อนค่าลงในวันนี้หลังจากที่แข็งค่าขึ้นตลอดเดือนก.ย. และมีแรง Short Selling เข้ามา

ในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว PBoC มีการปรับ Ratio ค่าเงินหยวนจาก 20% สู่ระดับ 0  แต่คงอัตราขายบางค่าเงินที่ 20% พร้อมระบุว่าอาจไม่ดำเนินนโยบายนี้เป็นเวลานาน


ผู้อำนวยการจาก Bank of America Merrill Lynch กล่าวว่า การดำเนินการของธนาคารกลางจีนสะท้อนถึงความต้องการลดความเสี่ยงใดๆที่จะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่ากลับจากความไม่แน่นอนในช่วง 1 เดือน และ 1 เดือนครึ่งจากนี้ ได้แก่ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพ.ย. ที่ตลาดค่อนข้างให้ความสำคัญ

อย่างไรก็ดี เงินหยวนยังมีแนวโน้มแข็งค่า และเศรษฐกิจจีนดูจะโตได้ดีกว่าสหรัฐฯ รวมทั้งประเทศที่เหลือในโลก นักลงทุนจึงค่อนข้างสนใจในประเทศจีน และคาดระยะกลางถึงระยะยาว หยวนอาจอ่อนแข็งค่าได้อีก

 

·         รองธนาคารกลางจีน สัมพันธ์จีน-สหรัฐฯย่ำแย่ เพิ่มความเสี่ยงทางเครือข่ายการเงินครั้งใหญ่ โดยเฉพาะห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี


 

·         ส่งออกจีนเดือนก.ย.ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังตลาดเปิดทำการอีกครั้ง

โพลล์สำรวจจากสำนักข่าว Reuters ระบุว่า การส่งออกของจีนในเดือนก.ย.มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ เนื่องจากประเทศคู่ค้าเปิดเศรษฐกิจมากขึ้นอีกครั้ง ขณะที่การนำเข้าคาดว่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง

โดยเดือนก.ย.การส่งออกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า จากนักเศรษฐศาสตร์ 24 คน ขณะที่การนำเข้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีโดยปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ลดลงในเดือนก.ค.และส.ค.ที่ผ่านมา

ด้านการส่งออกไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการชะลอตัวของโลกอย่างที่นักวิเคราะห์บางรายกลัวเนื่องจากส่วนหนึ่งมาจากการจัดส่งเวชภัณฑ์และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยเพิ่มความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน

 

·         แคร์รี ลัม เลื่อนการแถลงนโยบายประจำปี

นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เปิดเผยว่า จะเลื่อนการแถลงนโยบายประจำปี ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 14 ต.ค.นี้ เพื่อเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง โดยมีเป้าหมายที่จะหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเกี่ยวกับการสนับสนุนเศรษฐกิจของฮ่องกง

พร้อมทั้งระบุว่า จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในปลายเดือนนี้ ส่วนในสัปดาห์นี้ นางลัมจะเดินทางไปยังเมืองเซินเจิ้น เพื่อเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 
40 ปี การก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น (SEZ) แต่ไม่ได้ระบุว่ามีกำหนดพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หรือไม่

 

·         บริษัท Celltrion ของเกาหลีใต้ได้รับอนุมัติทดลองยาแอนตี้บอดี้ของ Covid-19 ในเฟสที่ 3

 

·         เกาหลีใต้เผยยอดส่งออกช่วง 10 วันแรกเดือนต.ค.ลดลง 28.8%

การส่งออกของเกาหลีใต้ลดลงเกือบ 30% โดยปรับตัวลดลง 28.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วง 10 วันแรกของเดือนต.ค.สาเหตุหลักมาจากจำนวนวันทำงานน้อยลงในช่วงวันหยุดเทศกาลชูซ็อก 5 วัน

ตามข้อมูลเบื้องต้นของกรมศุลกากรเกาหลี เผยว่า ยอดส่งออกในช่วง 10 วันแรกของเดือนต.ค. ลดลงแตะระดับ 9.3 พันล้านเหรียญ

 

·         รัฐมนตรีกระทรวงการคลังไทยคนใหม่ ชี้ ไทยจะมุ่งเน้นการสนับสนุนการอุปโภคบริโภคและสภาพคล่องในช่วงหลัง Covid-19”


ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่หดตัวลงมากสุดในรอบ 
22 ปี ในช่วงไตรมาสที่ 2/2020 ที่ผ่านมา หลังการระบาดกระทบภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจหลักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

พร้อมกันนี้ จะมีการสนับสนุนสภาพคล่อง การท่องเที่ยว และเร่งกระตุ้นค่าใช้จ่ายภายในประเทศควบคู่กันไป

 

·         ราคาน้ำมันลดลง 1% หลังจากผู้ผลิตในสหรัฐฯกลับมาผลิตน้ำมันได้อีกครั้งหลังพายุเฮอริเคน

ราคาน้ำมันดิบลดลง 1% ติดต่อกันเป็นครั้งที่สองในวันนี้ เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐฯได้มีการเร่งฟื้นฟูการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเดลต้า และหลังจากการหยุดงานประท้วงของแรงงานที่ส่งผลต่อการผลิตที่นอร์เวย์สิ้นสุดลง

น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 41 เซนต์ ที่ระดับ 42.44 เหรียญ/บาร์เรล และน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ระดับ 42 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 42 เซนต์

โดยทั้งสองสัญญาเพิ่มขึ้นมากกว่า 9% ในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่เยอะที่สุดของ Brent นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ก็ปรับลดลงในวันศุกร์หลังจากบริษัทน้ำมันของนอร์เวย์ทำข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่สหภาพแรงงานยุติการประท้วงที่ขู่ว่าจะลดการผลิตน้ำมันและก๊าซของประเทศลงเกือบ 25%



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com