ค่าเงินดอลลาร์ในฐานะ Safe-Haven เช่นเดียวกับค่าเงินเยนเวลานี้ ปรับแข็งค่าขึ้น หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการเจรจาแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจจนกว่าการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. จะแล้วเสร็จ และมองว่านางเพโลซีไม่มีความจริงใจในการเจรจาร่วมกัน
ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 0.34% ที่ระดับ 93.80 จุด
ขณะที่ค่าเงินเยนปรับแข็งค่า 0.19% ที่ระดับ 105.52 เยน/ดอลลาร์
ด้านค่าเงินยูโรเช้านี้ก็อ่อนค่าอย่างหนักทำระดับต่ำสุดที่ 1.17301 ดอลลาร์/ยูโร
ดอลลาร์อาจอ่อนค่าในยุค “ทรัมป์” แต่หาก “ไบเดนชนะ” ทิศทางดอลลาร์อาจเปลี่ยนไป
นักวิเคราะห์มองว่าหากนายไบเดนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็มีโอกาสจะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องมาตรการสำหรับไวรัสโรนาและโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะหากภาวะ Blue Wave ที่เกิดขึ้นส่งผลให้พรรเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้
ภาพรวมการเพิ่มค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะส่งผลให้ “ดอลลาร์อ่อนค่าลง” โดยเฉพาะหากนายไบเดนต้องการเปลี่ยนแปลงนโยบายการลดภาษีของนายทรัมป์บางส่วน โดยอาจยังคงการลดภาษีภาคธุรกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ภายใต้การบริหารงานของนายทรัมป์ ดัชนีดอลลาร์มีการอ่อนค่าลงไปแล้วกว่า 7% นับตั้งแต่ที่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
Eurizon SLJ กล่าวว่ ยูโรอาจร่วงแตะ 1.13 ดอลลาร์/ยูโรในช่วงสิ้นปีนี้
นักวิเคราะห์จาก Eurizon SLJ คาดการณ์ว่าค่าเงินยูโรมีโอกาสแตะ 1.13 ดอลลาร์/ยูโรได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้ ท่ามกลางอีซีบีที่มีแนวโน้มจะสนับสนุนการผ่อนคลายเพิ่มเติมและแนวโน้มของเงินเฟ้อ
ขณะที่ดัชนี CPI ของยูโรโซนในเดือนก.ย. นี้ปรับตัวลดลงไปกว่า 0.2% สะท้อนว่าเงินเฟ้อมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อได้อีก