• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 22 กันยายน 2563

    22 กันยายน 2563 | SET News
   

· หุ้นเอเชียอ่อนแอ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการ lockdown ขณะที่หุ้นภาคธนาคารเผชิญแรงเทขาย

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากความล่าช้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯและความกังวลเกี่ยวกับการกลับมา lockdowns ท่ามกลางการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในยุโรป ทำให้ความเชื่อมั่นในเชิงบวกต่อตลาดทุนทั่วโลกลดลง

หุ้นฮ่องกงของ HSBC 0005.HK และ Standard Chartered 2888.HK ร่วงลงอีก 2% เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารทั่วโลกยังคงถูกกดดันอย่างมากจากรายงานเกี่ยวกับสถาบันการเงินที่ถูกกล่าวหาว่าเคลื่อนย้ายกองทุนที่ผิดกฎหมาย

สำหรับวันนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงปิดทำการเนื่องในวันหยุด

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.68%


· หุ้นจีนปรับลง จากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้น

ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางบริษัท วัสดุและการขนส่งที่ปรับลง หลังจากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก

โดยดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 ร่วงลง 1.2% ด้านดัชนี Shanghai Composite ร่วงลง 1.3% ที่ระดับ 4,635.76 จุด

· หุ้นยุโรปเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ปรับลงไปในช่วงก่อนหน้านี้ จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและประเด็นเกี่ยวกับสถาบันการเงินที่ถูกกล่าวหาว่าเคลื่อนย้ายกองทุนที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.5% ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.4% ขณะที่หุ้น

ประกันภัย ลดลง 0.8%


อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

· ผู้อำนวยการอาวุโสและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสขอให้หยุดใช้บริการ และถอนเงินออกจากสถาบันการเงินบางแห่ง ว่า ได้หารือกับสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิด และหากพิจารณาสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ขณะนี้ พบว่ามีสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับธุรกรรมของธนาคาร (LCR) มากกว่าที่จำเป็นเกือบ 1 เท่า จึงไม่น่าห่วงแต่จะติดตามใกล้ชิดต่อไป"คงไม่ได้ลงรายละเอียดแต่ละธนาคารในภาพรวมสุดท้ายเงินฝากจะต้องมีที่ไป หากถอนจากที่หนึ่งก็จะถูกฝากไว้อีกที่หนึ่ง และจะหมุนกลับไปช่องทางเงินกู้ในที่สุด เมื่อระบบโดยรวมสภาพคล่องยังล้นหรือมีอยู่ในระดับสูงก็ไม่กังวล"

· "ออมสิน" เตรียมสรุป "ซอฟท์โลน" กลุ่มสายการบิน เบื้องต้นใช้วิธีปล่อยผ่าน "เอ็กซิมแบงก์" คิดดอกเบี้ยลูกค้า 2%ระยะเวลา 60 เดือน คาดเข้า ครม. เร็วๆ นี้

· นายกฯ ย้ำทำแผนแม่บทเฉพาะกิจจากโควิด-19 หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ตอบโจทย์ 3 เป้าหมาย ทั้งสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค และกระตุ้นอุปสงค์ ท่องเที่ยว ย้ำ "ชีวิตวิถีใหม่หลังโควิด" ต้อง "ล้มแล้วลุกไว" ภายใต้ "พร้อมรับ-ปรับตัวเปลี่ยนแปลง" สั่งลุยเสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานราก-ยกระดับขีดแข่งขัน-พัฒนาคุณภาพชีวิตแลปัจจัยพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูประเทศในอีก 2 ปี

· รมว.พาณิชย์ สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ปรับยุทธศาสตร์ภายใต้สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 สงครามการค้าและค่าเงินบาทโดยต้องบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน รวมทั้งให้ความร่วมมือกับทุกกระทรวงเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยการส่งออกในเดือนก.ค.2563 ที่ผ่านมาส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำสุดในเดือนมิ.ย.2563 สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกที่หดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้า จึงคาดว่าการส่งออกจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

· สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า โควิด-19 ทำให้คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก ตกงาน 120 ล้านคน ในประเทศไทยตกงาน 2 ล้านคน ทำให้รายได้ท่องเที่ยวของประเทศไทยในปีนี้คาดว่าจะมีรวม 3 ล้านล้านบาท ก็จะเหลือเพียง 1 ล้านล้านบาท แต่ก็มีข่าวดีของประเทศไทย ที่ จากการจัดดัชนีสุขภาพของโลกพบว่า ไทยเป็นอันดับ 6 จาก 195 ประเทศและเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนสภาฯเตรียมถกร่างแก้ไข รธน.รวดเดียว 6 ฉบับ "ชวน" เผยเสียดายญัตติแก้ รธน.ฉบับประชาชนไม่ทันการพิจารณา 23-24 ก.ย.นี้


อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

· มติ ครม. เห็นชอบ วันหยุดยาว 19-22 พ.ย. และ 10-13 ธ.ค. ให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ ให้วันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ย. และวันศุกร์ที่ 20 พ.ย. 2563 เป็นวันหยุดเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้หยุดต่อเนื่องกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ 21-22 พ.ย. ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องถึง 4 วัน

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังมีมติเห็นชอบ ให้วันศุกร์ที่ 11 ธ.ค. เป็นวันหยุดเพิ่มเติม จะทำให้มีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-13 ธ.ค. 2563 ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

· เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,511 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 59 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,343 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 109 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย เป็นคนไทย 1 ราย และ สัญชาติอินเดีย 4 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จาก อินเดีย 4 ราย และ สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (Alternative State Quarantine , State Quarantine)

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com