MTS Help Center

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง

ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน โดยเยนทำแข็งค่ามากสุดรอบ 7 สัปดาห์เมื่อคืนวันศุกร์ในฐานะ Safe-Haven ท่ามกลางการผ่อนคลายทางการเงิน และความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 3 พ.ย. รวมทั้งความตึงเครียดล่าสุดระหว่างสหรัฐฯและจีน

ค่าเงินเยนปรับแข็งค่ามาที่ 104.27 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากสุดนับตั้งแต่ 31 ก.ค. ก่อนจะมีการซื้อขายที่ 104.38 เยน/ดอลลาร์

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวต่ำกว่า 93 จุด โดยล่าสุดอยู่ที่ 92.937 จุด หลังจากที่ทำระดับสูงสุดได้ระหว่างสัปดาห์ที่ 93.3 จุด

ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลงแตะ 1.1833 ดอลลาร์/ยูโร ภาพรวมรายสัปดาห์เป็นแดนลบ

ข้อมูลค่าใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งของอังกฤษในช่วงต้นตลาดดูจะทำให้นักลงทุนกลับมามองถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้หลังคลาย Lockdown แต่ค่าเงินปอนด์ก็ดูจะไม่สามารถปรับขึ้นได้มากนัก โดยวันศุกร์ปิด -0.25% ที่ 1.2940 ดอลลาร์/ปอนด์

ตลาดญี่ปุ่นจะทำการปิดทำการในวันนี้และวันพรุ่งนี้ จึงทำให้นักลงทุนมีการลดสถานะในคืนวันศุกร์

ค่าเงินนิวซีแลนด์ปรับแข็งค่าขึ้นทำสูงสุดรอบ 1 ปี หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศนิวซีแลนด์กล่าวหนุนทิศทางเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลาง RBNZ จะทำการประชุมกันในสัปดาห์นี้

กรรมการผู้จัดการนักกลยุทธ์ FX จาก BK Asset Management กล่าวว่า การปรับอ่อนค่าลงมาหลังจากที่ปรับแข็งค่าไปในช่วงก่อนของดอลลาร์มาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ประกอบกับการที่ญี่ปุ่นยังใช้นโยบายควบคุมเส้นผลตอบแทนของพันธบัตรเพื่อผลักดันให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงแม้บีโอเจจะมีการใช้ QE ก็ตาม แต่ตลาดก็ยังคงมีความตึงตัวอยู่ ที่ดูจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อค่าเงินเยน

ขณะที่การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯก็จำเป็นที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่าที่อาจส่งสัญญาณถึงความผันผวนที่มากขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 3 พ.ย.นี้ โดยตลาดการเงินไม่ชอบความไม่แน่นอน ประกอบกับตลาดจับตาดูความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูจะสะท้อนว่ายังไม่สามารถหาแนวทางแก้ไขร่วมกันได้

สถานะ Short ในดอลลาร์ลดลงแตะ 3.09 หมื่นล้านเหรียญในสัปดาห์ที่ผ่านมา

รายงานจาก CFTC ระบุว่า กลุ่มนักลงทุนมีการลดสถานะ Short ในค่าเงินดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับลดลงเป็นมูลค่าสุทธิ 3.09 หมื่นล้านเหรียญ จากระดับ 3.267 หมื่นล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า