· หุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นอย่างระมัดระวัง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีหลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดให้คำมั่นว่าต้องมีมาตรการทางการเงินและนโยบายการเงินมาช่วยสนับสนุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
โดยฝั่งเอเชียพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงสุดอย่างรวดเร็วในประเทศออสเตรเลีย อินเดีย เวียดนาม และเกาหลีเหนือ
ขณะที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมา เฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ยใกล้ระดับศูนย์ตามที่คาด และสมาชิกเฟดยังคงเห็นพ้องที่จะใช้เครื่องมืออย่างเต็มรูปแบบในการสนับสนุนเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.3%
· หุ้นญี่ปุ่นปรับลง ท่ามกลางความกังวลไวรัสโคโรนาที่กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน!
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น จึงกดดันมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการที่เฟดตัดสินใจประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและการรายงานผลประกอบการภาคบริษัทที่ออกมาดีขึ้น
โดยความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนถูกกดดันจากรายงานที่ว่า ญี่ปุ่น วางแผนที่จะกระตุ้นชั่วโมงการทำงานที่สั้นลงสำหรับร้านอาหารและร้านคาราโอเกะในเดือนหน้า หลังจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายวันทะลุ 1,000 รายเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิดลดลง 0.26% ที่ระดับ 22,339.23 จุด ขณะที่ดัชนี Topix ลดลง 0.62% ที่ะรดับ 1,539.47 จุด
· หุ้นจีนปิดลดลง นำโดยหุ้นเทคโนโลยีและทรัพยากร จากแรงเทขายทำกำไร
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มทรัพยากรปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเทขายทำกำไรหลังจากที่หุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้
โดยการซื้อขายช่วงเช้าค่อนข้างทรงตัว หลังจากที่เฟดยังจำเป็นต้องมีมาตรการทางการเงินและนโยบายการเงินมาช่วยสนับสนุน ขณะที่สมาชิกเฟดยังคงเห็นพ้องที่จะใช้เครื่องมืออย่างเต็มรูปแบบในการสนับสนุนเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นเผชิญแรงเทขายหลงัจากช่วงพักเบรคตอนกลางวัน โดยถูกกดดันจากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นไปกว่า 2% เมื่อวานนี้ สำหรับเมื่อวานนี้ STAR 50 พุ่งสูงขึ้น 5.5% ก่อนจะปรับตัวลง 0.3%ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 ปิดลดลง 0.5% ที่ระดับ 4,656.15 จุด และดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.2% ที่ระดับ 3,286.82 จุด
· หุ้นยุโรปปรับตัวลง ท่ามกลางตลาดที่ให้ความสนใจไปยังการประกาศผลประกอบการภาคบริษัท ขณะที่หุ้น Volkswage ร่วงลง 4%!
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง หลังจากที่เฟดตัดสินใจประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่เหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการประกาศผลประกอบการภาคบริษัท
ดัชนี Stoxx600 ปรับตัวลดลง 0.7% ด้านหุ้นภาคธนาคารและกลุ่มยานยนต์ร่วงลง 1.8% ขณะที่หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น 0.2%
ตลาดยังคงให้ความสนใจไปยังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยประเทศบราซิลรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 69,000 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากไวรัสในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ รวมทั้งมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศจีน ออสเตรเลียและสเปน
Credit Suisse รายงานการเพิ่มขึ้นของรายได้สุทธิ 24% ท่ามกลาง "สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย" พร้อมกับประกาศการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลายประการ ด้านหุ้นผู้ให้กู้ของสวิสปรับตัวสูงขึ้น 1.5%
ด้านบริษัท Volkswagen ปรับลดเงินปันผลหลังจากรายงานผลขาดทุนครึ่งปีแรกที่ 800 ล้านยูโร (940 ล้านเหรียญ) ท่ามกลางการส่งมอบรถยนต์ที่ลดลง 27% เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่คู่แข่งของฝรั่งเศส Renault ขาดทุนสุทธิ7.3 พันล้านยูโรในครึ่งปีแรกของปีนี้ ทั้งนี้
หุ้น Volkswagen และ Renault ลดลง 4% และ 0.8% ตามลำดับในการซื้อขายช่วงต้น
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· "ทองคำ-บิทคอยน์" กอดคอ พุ่งแรง เผย 1 เดือน "ทองคำ" บวกกว่า 10% "เอ็มทีเอส โกลด์" ประเมินราคาทองยังเป็นขาขึ้น ขณะ "สมาคมค้าทองคำ" เตือนระวังแรงขายทำกำไร ชี้ราคาเริ่มชนเพดาน ทำสัญญาณปรับฐาน ด้าน "บิทคอยน์" พุ่งแล้ว23% "จิรายุส" มั่นใจแนวโน้มขึ้นต่อ เหตุหลายปัจจัยหนุน
· ครม.ไฟเขียวปล่อยนอนแบงก์กู้ซอฟต์โลนออมสินได้ ผ่อนคลายกฎช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเข้าถึงเงินทุน ลดความเดือดร้อนจากโควิด-19 กอช.แนะพักส่งเงินออมได้หากเดือดร้อนจากโควิด-19แนะอย่ายกเลิกเป็นสมาชิก หวั่นเสียสิทธิ์เงินสมทบจากรัฐบาล
· "ครม." ไฟเขียวต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน สิ้นสุด 31 ส.ค. "บิ๊กตู่" ย้ำแม้สถานการณ์โควิดดีขึ้น แต่ต้องดูแลทั้งระบบ เล็งหาวันหยุดเพิ่มให้คนไทยเที่ยว
· โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งในที่ประชุม ครม.ให้ทุกหน่วยงานไปพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการทำงานในปัจจุบัน โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุน พร้อมกับสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายทูตไทยที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ นอกจากต้องดูแลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว ยังขอให้ช่วยดูแลงานด้านเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะกาชักชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศ และสร้างความร่วมมือทางด้านแรงงาน หลังจากพบว่ามีหลายประเทศแสดงความสนใจแรงงานจากไทย
อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 6 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,304 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต58 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,111 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 135 ราย