• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 13 กรกฎาคม 2563

    13 กรกฎาคม 2563 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าจากข่าววัคซีนใหม่ที่ช่วยชดเชยข่าวยยอดผู้ติดเชื้อไวรัส

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา จึงช่วยคลายกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯและทั่วโลก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัท Gilead Sciences Inc เผยข้อมูลเพิ่มเติมของการศึกษาทดลองยาต้านไวรัสเรมเดอร์ซีเวอร์ (Remdesivir) ที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย และช่วยให้คนไข้มีอาการฟื้นตัวจากอาการป่วยด้วย และข่าวนี้ได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯให้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

บรรดานักวิเคราะห์ คาดว่า กลุ่มนักลงทุนในค่าเงินกำลังมองหาสัญญาณชี้นำครั้งใหม่เกี่ยวกับยารักษาไวรัสโคโรนา

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมา 0.2% ที่ 96.624 จุด โดยเริ่มอ่อนค่าลงหลังจากที่ดัชนีราคาผู้ผลิตหรือ PPI ปรับลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ข้อมูลเดือนก่อนรีบาวน์กลับมาที่ 0.4% ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% ที่ 1.1300 ดอลลาร์/ยูโร ด้านปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% ที่ 1.2631 ดอลลาร์/ยูโร

ค่าเงินเยนแข็งค่าลง 0.3% ที่ 106.92 เยน/ดอลลาร์ แต่ภาพรวมเงินเยนยังเคลื่อนไหวกรอบแคบๆ แม้ว่าความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้น และตลาดยังคงมีความผันผวนอย่างมาก

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าขึ้นแตะ 7.0114 หยวน/ดอลลาร์ หลังไปทำแข็งค่ามากที่สุดรอบ 4 เดือนที่ 6.9808 หยวน/ดอลลาร์ และภาพรวมในสัปดาห์ที่แล้วหยวนแข็งค่าได้เกือบ 1% จากการที่จีนส่งสัญญาณต้องการหนุนสภาพคล่องตลาดหุ้นจีนในทิศทางขาขึ้นฃ


· รัฐฟลอริดาเผยรายงานผู้ติดเชื้อพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 15,000 ราย

เมื่อวานนี้ รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันในรัฐฟลอริดาพุ่งขึ้นกว่า 15,299 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรายวันที่มากที่สุดในสหรัฐฯ ตั้งแต่มีการระบาดในประเทศ ทำให้ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อไวรัสในรัฐฟลอริดารวมอยู่ที่ 269,811 ราย ซึ่งสูงกว่ายอดรวมของหลายๆประเทศ อาทิ สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศส และบางประเทศด้วยซ้ำ


· ทรัมป์ ชี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และไม่คิดทำข้อตกลงการค้าเฟส 2

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ไม่มีความคิดที่จะทำข้อตกลงการค้าเฟสถัดไปกับจีน พร้อมกล่าวเพิ่มเติมถึงการที่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศได้รับความเสียหายอย่างหนัก ที่ไม่อาจจะหยุดยั้งมันได้

ทั้งนี้ นายทรัมป์เผยว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เกิดขึ้น ทำให้เขาไม่คิดถึงเรื่องการทำข้อตกลงการค้าในเฟสที่ 2 เพราะเขามีหลายอย่างที่ต้องคิดในใจ


· WSJ รายงานว่า สหรัฐฯมีทางเลือกจำกัดต่อการลงโทษจีนต่อกรณีฮ่องกง

รายงานจาก Wall Street Journal เมื่อวานระบุว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่สหรัฐฯกำลังชั่งน้ำหนักต่อตัวเลือกที่มีอย่างจำกัดในการจัดการกับจีนที่มีต่อกรณีฮ่องกงล่าสุด

ทั้งนี้ ระบบการเงินของฮ่องกงดูจะสร้างความเสี่ยงให้แก่บริษัทและกลุ่มผู้บริโภคของสหรัฐฯ, ชาวตะวันตกและฮ่องกง เนื่องด้วยหลายๆมาตรการที่มีการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทางการค้าที่ผลิตโดยฮ่องกง ดูจะสร้างผลกระทบเพียงเล็กน้อยให้แก่จีน


· น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นขณะที่ IEA หนุนคาดการณ์อุปสงค์น้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 2% หลังจากที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯหรือ IEA มีการปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้ แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯจะยังคงอยู่สูงเป็นประวัติการณ์ และสร้างความกังวลต่อการฟื้นตัวในการอุปโภคบริโภคน้ำมันก็ตาม

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 89 เซนต์ หรือ +2% ที่ระดับ 43.24 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 93 เซนต์ หรือ +2.4% ที่ 40.55 เหรียญ/บาร์เรล

การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นก็ได้ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบด้วยเช่นกัน โดยที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงกิจกรรมภาคธุรกิจในเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯด้วย

อย่างไรก็ดี IEA มีการปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบแตะ 92.1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ก่อนหน้ากว่า 400,000 บาร์เรล/วันจากแนวโน้มในเดือนที่แล้ว

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com