• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2563

    1 กรกฎาคม 2563 | Economic News
  

· ดอลลาร์ทรงตัวก่อนทราบข้อมูลการผลิตสหรัฐฯและภาคแรงงาน

ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรก่อนจะมีการประกาศข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐฯและการจ้างงานที่ดูจะยังสามารถฟื้นตัวได้จากที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา

ค่าเงินยูโรทรงตัวในกรอบแคบๆ ท่ามกลางเทรดเดอร์ที่รอคอยข้อมูลภาคการผลิตเยอรมนี, รวมทั้งยอดค้าปลีก และอัตราว่างงานที่จะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจยูโรโซน

ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอีกเล็กน้อยในฐานะ Safe-Haven หลังจากที่โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวว่าอาจกลับมาใช้มาตรการฉุกเฉินอีกครั้งเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา

หัวหน้านักกลยุทธ์ค่าเงินจาก Merrill Lynch กล่าวว่า ดอลลาร์ดูจะยังแข็งค่าได้เมื่อเทียบกับเงินเยนหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในทิศทางเชิงบวก แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับขึ้นไม่ได้มากนักก็มาจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการจะเข้าควบคุม Yield Curve

ค่าเงินยูโรดูจะมีเสถียรภาพ แต่ความไม่แน่นอนเรื่อง Brexit และการกลับมารเปิดทำการทางเศรษฐกิจก็อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวได้

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1223 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินเยนอ่อนค่ามาที่ 107.63 เยน/ดอลลาร์ หลังไปทำแข็งค่ามากสุดรอบ 3 สัปดาห์

ทั้งนี้ เงินเยนถูกกดดันจากข้อมูลความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของญี่ปุ่นที่แย่ลงทำต่ำสุดรอบ 11 ปี

ค่าเงินปอนด์ทรงตัวแนว 1.2367 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยตลาดยังมีความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและอียู

คืนนี้ต้องติดตามข้อมูลดัชนี PMI ของสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ว่ากิจกรรมภาคการผลิตในเดือนมิ.ย.จะสามารถฟื้นตัวได้ต่อจากที่ลงไปทำต่ำสุดในรอบ 11 ปีหรือไม่ในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ดี กลุ่มนักลงทุนให้ความสำคัญใกล้ชิดกับข้อมูล Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีนี้เป็นสำคัญ ที่คาดว่าจะเห็นการจ้างงานเพิ่มขึ้น 3 ล้านรายในเดือนมิ.ย.

เงินหยวนนทรงตัวเล็กน้อยที่ 7.0654 หยวน/ดอลลาร์ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยการกู้ยืมสำหรับธุรกิจด้านการเกษตรและบริษัทขนาดเล็กลง 0.25% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย Re-discount ลง 0.25% สู่ระดับ 2% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นักลงทุนบางส่วนก็ยังคงกังวลกับความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่ จากการที่จีนผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงที่มีผลบังคับใช้ในวันนี้


· อีซีบี พร้อมปรับนโยบายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา โดยเน้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

รองประธานอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีพร้อมที่จะปรับนโยบายตามความจำเป็นของทางยุโรป หลังจากที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา แต่การปฏิรูปในแต่ละประเทศอาจมีความสำคัญมากกว่าการใช้นโยบายทางการเงิน

· ยอดค้าปลีกเยอรมนีรีบาวน์หลังคลาย Lockdown

ยอดค้าปลีกเยอรมนีประจำเดือนพ.ค. สะท้อนถึงการรีบาวน์กลับของการอุปโภคบริโภค หลังมีการคลาย Lockdown โดยยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นได้ประมาณ 13.9% หลังจากที่ปรับตัวลงไปมากถึง -6.5% ขณะที่ภาพรวมปีนี้ยอดค้าปลีกปรับขึ้นได้ประมาณ 3.8% จากเดือนที่แล้วที่เทียบภาพรายปีดิ่งลง -6.4%

· ราคาบ้านในอังกฤษดิ่งลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012

ราคาบ้านในอังกฤษเดือนมิ.ย. ปรับตัวร่วงลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพราะได้รับผลกระทบจาการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยมาตรวัดราคาบ้านปรับตัวลง 0.1% เมือเทียบกับเดือนมิ.ย.ของปีที่แล้ว แต่หากเทียบรายเดือนปรับตัวลงมากถึง -1.4% ไม่ห่างจากเดือนพ.ค. ที่ปรับลงมาที่ 1.7% ที่เป็นระดับการดิ่งลงมากที่สุดตในรอบกว่า 11 ปี

· ยอดขายรถยนต์ใหม่ของญี่ปุ่นร่วงลง 23% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมิ.ย.

สมาคมอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ของญี่ปุ่นร่วงลงเกือบ 25% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยปรับลงไป 23% อันเนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคที่ชะลอการซื้อรถยนต์จากการระบาดของไวรัสโคโรนา

· ตำรวจฮ่องกงปราบกลุ่มผู้ประท้วงด้วยปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่

เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงมีการใช้ปืนฉีดน้ำเพื่อแยกย้ายกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ หลังจีนผ่านร่างกฎหมายเมื่อวานนี้ ท่ามกลางการรวมตัวจากความกังวลที่ว่าการกระทำดังกล่าวของจีนจะทำลายเสรีภาพศูนย์กลางทางการเงินโลก

· ภาคโรงงานอุตสาหกรรมเอเชียอ่อนตัวลงจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในเดอนมิ.ย. แม้ว่าข้อมูลกิจกรรมภาคการผลิตจีนจะเพิ่มขึ้นจากความหวังที่ว่าเราอาจจะผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดของการระบาดไปแล้ว

การชะลอตัวของอุปสงค์โลกและความกังวลในเรื่อง Second Wave ดูจะบั่นทอนแนวโน้มเชิงบวก และสร้างแรงกดดันให้เจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายต่างๆต้องหาวิธีสนับสนุนทางเศรษฐกิจของประเทศพวกเขา

ทั้งนี้ ชุดข้อมูลผลสำรวจภาคธุรกิจที่เปิดเผยในวันนี้ สะท้อนถึงทิศทางการฟื้นตัวทางภาคการผลิตดีขึ้นทั่วทั้งเอเชียในเดือนมิ.ย. โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางประเทศก็ดูจะกลับมาขยายตัวได้ แต่บางประเทศก็ยังอยู่ในทิศทางที่ชะลอตัว

· ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เรียกร้องการจัดประชุมระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือกับผู้นำสหรัฐฯก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปีนี้

· น้ำมันปรับขึ้นหลังข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลง

ราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังจากที่รายงานภาคอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นถึงสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ร่วงลงไปเกินคาด จึงสะท้อนถึงภาวะอุปสงค์ที่มีการฟื้นตัวท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 33 เซนต์ หรือ +0.8% ที่ 41.60 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 1% ขณะที่น้ำมัน WTI ปรับขึ้น 42 เซนต์ หรือ +1.1% ที่ 39.69 เหรียญ/บาร์เรล

รายงานจาก API แสดงให้เห็นว่า ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงไป 8.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 537 ล้านบาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com