• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2563

    29 มิถุนายน 2563 | SET News
  

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาที่ส่งผลต่อการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

ตลาดหุ้นเอเชียเริ่มต้นสัปดาห์อย่างระมัดระวัง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เหล่านักลงทุนเกิดคำถามเกี่ยวกับมุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจโลก ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลและราคาน้ำมันปรับตัวลดลง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากบางรัฐในสหรัฐฯพิจารณาแผนการกลับมาเปิดทำการใหม่อีกครั้ง ขณะที่

ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาพุ่งสูงถึงครึ่งล้านรายในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย 1/4 ของยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ในสหรัฐฯ โดยมีกรณีที่เพิ่มขึ้นในรัฐทางใต้และตะวันตกที่เพิ่มขึ้นมาใหม่

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 1.3% ซึ่งปรับลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา


· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลดลงทำระดับตำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากหลายรัฐในสหรัฐฯกำหนดข้อจำกัดทางธุรกิจเพื่อแก้ไขปัญหาการฟื้นตัวในกรณีที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนารอบใหม่

ดัชนี Nikkei ร่วงลง 2.3% ที่ระดับ 21,995.04 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำที่าุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นำโดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มวัฎจักร โดยดัชนี Nikkei ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 25 วัน ที่บริเวณ 22,356 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.

ด้านหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่า ความเชื่อมั่นการลงทุนของนักลงทุนยังคงซบเซาต่อไปจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในเฟส 1


· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนารอบใหม่ในประเทศและทั่วโลก จึงเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.6% ที่ระดับ 2,961.52 จุด

ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนของจีนกลับมาทำการซื้อขายหลังจากหยุดไปในช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง ท่ามกลาง

ปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อสัญญาณของการแพร่ระบาดที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งล้านราย รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ร่วงลงกว่า 2% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับลงท่ามกลางยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาที่เข้ากดดันความเชื่อมั่น

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรบตัวลงในวันนี้ท่ามกลางนักลงทุนที่ขานรับข่าวยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx600 เปิด -0.3% ในช่วงเริ่มต้นตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและแก๊สร่วงลง -0.7% จึงทำให้หุ้นกลุ่มหลักใหญ่ๆเคลื่อนไหวแดนลบ

ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังตอบรับกับข่าวยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาที่พุ่งสูงกว่าครึ่งล้านทั่วโลก และผู้ติดเชื้อทั่วโลกเวลานี้ทะลุ 10 ล้านรายแล้ว


· Well Fargo เตือนหาก นายโจ ไบเดน คว้าตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

นายคริสโตเฟอร์ ฮาวีย์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดหุ้น จาก Wells Fargo Securities เชื่อว่า ตลาดเข้าใจถึงความเสี่ยงหลักๆที่กำลังจะเกิด ที่ไม่ใช่เพียงแต่สถานการณ์ไวรัสโคโรนา โดยยังมีเรื่องของการที่นายโจ ไบเดน อาจเป็นผู้ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีนี้ที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน

ความกังวล: หากนายไบเดนชนะอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงเรื่องระดับภาษีที่อาจส่งผลลบต่อตลาดหุ้นได้

ในเวลานี้ นายไบเดนมีคะแนนนำในโพลล์ ซึ่งนั่นหมายถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในแง่ของภาษี พร้อมคำถามตามมาว่าเดโมแครตอาจจะไม่ใช่แค่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แต่อาจได้เสียงข้างมากในวุฒิสภาด้วยหรือไม่?

อย่างไรก็ดี คาดว่าดัชนี S&P500 ในช่วงสิ้นปียังจะมีระดับราคาเป้าหมายอยู่ที่ 3,388 จุด ซึ่งสะท้อนถึงการจะเห็นดัชนีเพิ่มขึ้นได้มากถึง 13% จากระดับปัจจุบัน

แม้ว่าระยะยาวการมาของไบเดนจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น แต่ระยะสั้นๆก็จะเห็นดัชนีผันผวนประมาณ 5-10% จากระดับปัจจุบันได้ ขณะที่เรากำลังระมัดระวังต่อตลาด ก็จะเห็นได้ว่าภาพรวมดัชนีดูจะมีการเคลื่อนไหวแบบปรับฐาน


· Morgan Stanley มองทิศทางหุ้นสิงคโปร์เป็นขาขึ้น คาดมีผลตอบแทน 14%

Morgan Stanley คาดว่า หุ้นสิงคโปร์เป็นขาขึ้นและคาดว่าอาจเห็นผลประกอบการเพิ่มขึ้นได้มากถึง 14% สำหรับดัชนี MSC ภายในอีก 12 เดือน

ในความเป็นจริงนั้นนักลงทุนอาจมีการเพิ่มการลงทุนในสิงคโปร์มากขึ้นจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในภูมิภาค โดยเราอาจเห็นเม็ดเงินในการสนับสนุนและการเข้าหาดัชนีหุ้นสิงคโปร์ในฐานุ Safe-Haven ท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐิกจของภูมิภาคนั่นเอง


อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ โดยยืนยันความจำเป็นที่จะต้องขยายเวลาการยังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน รวมทั้งผ่อนคลายมาตรการในระยะ 5

- ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 7 รายในสถานกักกันตัวของรัฐ (State Quarantine) ส่วนภายในประเทศไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องเกินกว่า 1 เดือน

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,169 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,053 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 58 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย

- หุ้น NOK ร่วงติดฟลอร์ 14.29% มาที่ 0.90 บาท หรือลดลง 0.15 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.67 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.07 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 1.03 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 1.03 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 0.90 บาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การที่บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) แจ้งการยกเลิกกิจการบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด แม้จะดูเป็นผลบวกที่ผลขาดทุนจากสายการบินนกสกู๊ตจะไม่เข้ามายังงบรวมของ NOK อีก โดยล่าสุดงบการเงินปี 62 งบรวมของ NOK ขาดทุนสุทธิ 2.1 พันล้านบาท แต่งบเดี่ยวขาดทุนสุทธิ 1.7 พันล้านบาท


อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

- “อุตตม”เผย ธปท.และพาณิชย์ยืนยันรับมือปัญหาหนี้เสียได้ ชี้เคยผ่านวิกฤตมาก่อน ขณะที่ ผลกระทบโควิด-19 เกิดในช่วงที่แบงก์มีความเข้มแข็ง แต่ไม่วางใจเตรียมพร้อมด้านเงินทุนสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจให้เดินหน้าต่อได้

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ถึงข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้เสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งได้รับการยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่ากังวล เพราะทั้งธปท.และธนาคารพาณิชย์ได้มีแนวทางรับมืออยู่แล้ว เพราะเคยผ่านวิกฤตมาก่อน ขณะเดียวกัน ขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ก็มีความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี ในส่วนของคลัง ก็ไม่ได้วางใจ ซึ่งขณะนี้ ก็เตรียมพร้อมที่จะเสริมความเข้มแข็งให้แก่ภาคธุรกิจ

- พาณิชย์เผย ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ในอีอีซี 5 เดือนแรกของปี 63 ลดลง 13.35 % รับผลกระทบจากโควิด-19 นักลงทุนชะลอลงทุน

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ยอดการจัดตั้งธุรกิจใหม่ เดือน ม.ค.-พ.ค.63 ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ประกอบด้วย เขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง พบว่า มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ รวม 2,731 ราย ลดลง 13.35 % เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. – ก.พ. 2562 จำนวน 3,152 ราย โดยมีทุนจดทะเบียนจัดตั้ง 6,790 ล้านบาท ลดลง 18.32 % เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2562 ที่มีทุนจัดตั้ง 8,313 ล้านบาท


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com