• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 9 มิถุนายน 2563

    9 มิถุนายน 2563 | Economic News

· ดอลลาร์ร่วง ค่าเงินสินค้าโภคภัณฑ์พุ่ง ท่ามกลางความเชื่อมั่นสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่ม!

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่ค่าเงินในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับขึ้นจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จากความเชื่อมั่นในทิศทางเศรษฐกิจที่ปรับขึ้น รวมทั้งข้อมูลรายงานจ้างงานเดือนพ.ค.ที่ออกมาดีกว่าที่คาด

ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ประมาณ 1.1% ที่ 108.33 เยน/ดอลลาร์ ด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% ลงมาแตะ 96.641 จุด หลังจากที่ปรับขึ้นในคืนวันก่อน ทางด้านค่าเงินยูโรเองก็ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ แม้ว่าข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยรมนีจะร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย.

ค่าเงินยูโรล่าสุดแข็งค่า 0.2% ที่ 1.1303 ดอลลาร์/ยูโร หลังไปทำระดับสูงสุดอบ 3 เดือนที่ 1.1384 ดอลลาร์/ยูโร

กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจกับการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ ที่เฟดมีการส่งสัญญาณที่จำเป็นต่อความสมดุลทางเศรษฐกิจที่หดตัวไปจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดผลกระทบที่เลวร้าย พร้อมหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการระบาดของไวรัสยังไม่สามารถควบคุมได้

· เจ้าหน้าที่ทางเศรษฐกิจสหรัฐฯชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯก้าวสู่ภาวะถดถอยในเดือนก.พ.!

รายงานจากสำนักงาน National Bureau of Economic Research หรือ NBER กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯก้าวสู่ภาวะถดถอยที่ย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่ยุค Great Depression โดยปัจจุบันถือเป็นการเข้าสู่ยุคภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะมีความพยายามที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโคโรนาก็ตาม

คณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคธุรกิจ (Business Cycle Dating Committee) กล่าวว่า คณะกรรมาธิการตระหนักถึงการระบาดและการรับมือเรื่องปัญหาสุขภาพอันที่ส่งผลในทิศทางขาลง จึงเป็นความแตกต่างทางด้านรูปแบบและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมือนยุคถดถอยครั้งก่อน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯเผชิญกับการปรับตัวลงของการจ้างงานและการผลิตทั่วทุกพื้นที่เศรษฐกิจ และนี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของภาวะถดถอยที่เป็นมากกว่าสภาวะหดตัวในช่วงก่อนหน้า และเราได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปแล้วเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งจุดพีคที่สุดทางเศรษฐกิจก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วในช่วงไตรมาสที่ 4/2019

จีดีพีสหรัฐฯร่วงลงประมาณ -4.8% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และผลที่ตามมาในไตรมาสที่ 2 ระหว่างเดือนเม.ย. - มิ.ย. นั้นคาดว่าอาจจะออกมาแย่กว่า หรือบางทีอาจจะหดตัวมากถึง -20% หรือมากกว่านั้นได้ ซึ่งที่เห็นได้ชัดจะเป็นเรื่องอัตราว่างงานที่จากเดิมอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.พ. บริเวณ 3.5% ณ ปัจจุบันได้พุ่งมาที่ 14.7% ในเดือนเม.ย. และ13.3% ในเดือนพ.ค.

อย่างไรก็ดี ในยุคถดถอยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้ระยะเวลา 6 – 18 เดือน ขณะที่ Great Depression ที่เริ่มในปี 1929 เข้าช่วงถดถอยกว่า 43 เดือน

สำหรับการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ คาดว่าเฟดจะมีการกล่าวถึงคาดการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ ที่จะทำใหเรารู้ว่าการฟื้นตันเป็นไปได้เร็วกว่าที่พวกเราคาดการณ์กันหรือไม่

· ทรัมป์จะเริ่มต้นกลับมาหาเสียงอีกครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนจะเริ่มต้นกลับมาหาเสียงอีกครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่ยุติการหาเสียงตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

· อังกฤษและญี่ปุ่นเริ่มเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี

อังกฤษจะเริ่มต้นทำการเจรจากับญี่ปุ่นหลัง Post-Brexit ในวันนี้ ซึ่งรัฐบาลอังกฤษเผยว่าทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดี ข้อตกลงการค้ามักใช้เวลาหลายปีในการทำให้สำเร็จ และอังกฤษก็หวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกับทางอียูให้ได้ภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน

· น้ำมันดิบร่วงลง 3% หลังซาอุฯ เผยจะไม่ลดกำลังการผลิตเพิ่ม

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงกว่า 3% หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าการขยายเวลาลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ จะไม่รวมถึงการปรับเพิ่มจำนวนการลดกำลังการผลิต

ทั้งนี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 7 วันทำการ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ก็ปิดลดลง 1.3 เหรียญ หรือ -3.1% เมื่อคืนนี้ ที่ระดับ 41 เหรียญ/บาร์เรล ด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.36 เหรียญ หรือ -3.44% ที่ระดับ 38.19 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี น้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดต่างก็ทำระดับสูงสุดได้ตั้งแต่ช่วงต้นมี.ค. โดยในช่วงต้นตลาด WTI ปรับขึ้นไปทำสูงสุดที่ 40 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com