· นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า สมาชิกเฟดอาจใช้เครื่องมือเพิ่มเติมทุกทางเพื่อก้าวออกจากเศรษฐกิจที่ถดถอย จากคนตกงานไม่น้อยกว่า 20 ล้านราย
แต่เขาก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมมาตรการที่จะใช้ ขณะที่นายโพเวลล์กล่าวว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาที่ไม่เหมือนเหตุการณ์ถดถอยอย่างที่เคยเกิดก่อนหน้า
และในระหว่างการสัมภาษณ์ ประธานเฟดกล่าวเรื่องจะไม่ทำการพิจารณปรับลดดอกเบี้ยสู่ระดับติดลบ
ขณะที่เมื่อวันอังคารทาง ส.ส. เดโมแครต ทำการเผยว่าอาจมีร่างงบประมาณใหม่ประมาณ 3 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งหากจะผ่านได้ก็จะต้องเผชิญกับการคัดค้านจากวุฒิสภาซึ่งมีฝ่ายรีพับลิกันมาก ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะทำการโหวตพร้อมกันในวันศุกร์นี้
· นางแมรี่ ดาร์ลี่ย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า อาจต้องใช้ระยะเวลาอีก 2-3 เดือนที่จะทำให้คนที่ว่างงานจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนากลับมามีสภาวะงานทำอีกครั้ง และประชาชนจะมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆดีขึ้น ซึ่งประชาชนควรมีระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางการจะเห็นเศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัวมากกว่าการรีบาวน์กลับรวดเร็ว
· ค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่ประธานเฟดปฏิเสธไอเดียการปรับลดดอกเบี้ยติดลบเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจต้องใช้เวลาขึ้นอยู่กับความคืบหน้าในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนา
ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 100.02 จุด
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้เฟดใช้ดอกเบี้ยติดลบ เนื่องจากข้อมูล CPI สะท้อนถึงการหดตัว -0.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดตั้งแต่ธ.ค. ปี 2008 ในช่วงเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ
· ดัชนีราคาผู้ผลิตหรือ PPI ของสหรัฐฯปรับตัวลดลงเกินคาดในเดือนเม.ย. และถือว่าเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 2015 จึงทำให้นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนกังวลเรื่องของเงินฝืดจากปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยดัชนี PPI ในเดือนเม.ย. ร่วงลง -1.3% จาก 0.2% ในเดือนมี.ค. ขณะที่ภาพรายปีหดตัวลงมากถึง -1.2% ซึ่งถือว่าหดตัวมากที่สุดตั้งแต่พ.ย. 2015
· อ้างอิงจากสำนักงานสถิติภายใต้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (BLS) เผยว่า การจ้างงานในเดือนเม.ย.จะลดลงมากถึง 20.537 ล้านคน มากกว่าที่รายงานในวันศุกร์ที่ 20.5 ล้านคน
· นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจจะทำการเปิดทำการได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังจากความเสี่ยงจากภาวะเชิงลบ
· ข้อมูลกลุ่มโรงงงานผลิตรถยนต์สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นฟอร์ด, เชฟวี่ หรือจีพส์ จะกลับมาเปิดทำการได้ในสัปดาห์นี้ แต่พนักงานต้องมีการเตรียมความพร้อมครั้งใหม่ในการหาอุปกรณ์ป้องกัน รวมทั้งเครื่องจักรก่อนที่จะกลับมาเปิดทำการโรงงานได้เต็มรูปแบบในวันจันทร์หน้า
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลงกว่า 1% แม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ท่ามกลางตลาดที่ตอบรับกับคำเตือนของประธานเฟดเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อาจใช้เวลาหลายเดือน
น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 79 เซนต์ หรือ -2.6% ที่ระดับ 29.19 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 49 เซนต์ หรือ -1.9% ที่ 25.29 เหรียญ/บาร์เรล