• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 23 เมษายน 2563

    23 เมษายน 2563 | Economic News




·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนา:

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 2,637,414

Ø  จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 184,204 ราย

Ø  จำนวนประเทศติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 210 ประเทศ

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯล่าสุดมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 848,735 ราย (+18) และมีผู้เสียชีวิตที่ระดับ 47,663 ราย (+4)

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในสเปนล่าสุดมีผู้ติดเชื้อที่ 208,389 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 21,717 ราย

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในอิตาลีอยู่ที่ระดับ 187,327 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตรวมแล้วทั้งสิ้น 25,085 ราย

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยล่าสุดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,826 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมสะสม 49 ราย





- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความไม่เห็นด้วยกับผู้ว่าการรัฐจอร์เจียสำหรับเฟส 1 ในการกลับมาเปิดทำการร้านสัก, บาร์, ร้านทำผล และภาคธุรกิจอื่นๆที่ไม่จำเป็นในสัปดาห์นี้

- หน่วยงาน Booking Holdings ผลสำรวจจากภาคธุรกิจร้านอาหารกว่า 60,000 แห่งในสหรัฐฯ พบว่า ยอดจองร้านอาหารร่วงลงแตะระดับ 0 ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา  เรียกได้ว่าปรับตัวลง 100เต็มเมื่อเทียบรายปีตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค. ขณะที่บางแห่งไม่สามารถทำอาหารส่งแบบ Delivery ได้ เนื่องจากถูกบังคับให้ต้องปิดร้านเป็นการชั่วคราวเนื่องจากเป็นร้านขนาดใหญ่


 

·         ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแต่ความต้องการในฐานะ Safe-Haven ก็ยังมีอยู่และกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนดอลลาร์ ท่ามกลางตลาดน้ำมันที่ราคาเริ่มมีเสถียรภาพหลังจากดิ่งลงแรง

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.16% แตะ 100.42 จุด จากที่ไปทำสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ 100.48 จุด

น้ำมันดิบ Brent ร่วงลงต่ำกว่า 16 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1999 ก่อนจะรีบาวน์กลับมาได้ ขณะที่ค่าเงินสกุลอื่นๆดูจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเท่านั้น

 

·         ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นได้กว่า 40% ทำสูงสุดวานนนี้ ท่ามกลางความผันผวนในตลาดที่มีค่อนข้างมาก จึงเห็น Brent ทำต่ำสุดในรอบเกือบ 20 ปี

น้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด +2.21 เหรียญ หรือ +19.1ที่ระดับ 13.78 เหรียญ/บาร์เรล โดยเรียกได้ว่าภาพใหญ่รายวันขยับขึ้นได้กว่า 40หลังจากที่ไปทำต่ำสุดที่ 10.26 เหรียญ ด้านน้ำมันดิบ Brent ปิด +1.04 เหรียญ หรือ +5.38ที่ 20.37 เหรียญ โดยระหว่างวันทำ Low ใหม่ต่ำกว่า 16 เหรียญ

 

·         กองทุนน้ำมัน ETF สหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า “USO” ที่ประกาศถึงความพยายามจะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบและอาจมีการปรับแต่งกองทุน หลังจากที่ราคาร่วงลงกว่า 80ในปีนี้ และอาจมีการปรับเพิ่มราคาหุ้นหลังจากที่ร่วงลงกว่า 10.68แตะ 2.51 เหรียญ

 

·         โรงงานภาคอุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐฯอาจมีการปรับลดกำลังการผลิตลง 900,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะถือเป็นการปรับลดรายเดือนที่มากที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤต Great Recession

โดยข้อมูลจากภาครัฐ สะท้อนว่า กำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯปรับตัวลดลง 12.2 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งยอดนำเข้าน้ำมันก็ปรับลงมา 4.9 ล้านบาร์เรล จากเดิมที่ 5.7 ล้านบาร์เรล/สัปดาห์ ในส่วนของยอดส่งออกก็ลดลงสู่ 2.9 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ 3.4 ล้านบาร์เรล/วัน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com