MTS Help Center

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนา:

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 2,556,512

Ø  จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 177,608 ราย

Ø  จำนวนประเทศติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 210 ประเทศ

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯล่าสุดมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 818,744 ราย และมีผู้เสียชีวิตที่ระดับ 45,318 ราย

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในสเปนล่าสุดมีผู้ติดเชื้อที่ 204,178 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 21,282 ราย

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในอิตาลีอยู่ที่ระดับ 183,957 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตรวมแล้วทั้งสิ้น 24,648 ราย

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยล่าสุดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,811 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมสะสม 48 ราย

·         วุฒิสภาสหรัฐฯอนุมัติงบเกือบ 5 แสนล้านเหรียญในกองทุนช่วยเหลือวิกฤตไวรัสโคโรนา

วุฒิสภาสหรัฐฯวานนี้มีมติเอกฉันท์ในการอนุมัติวงเงิน 4.84 แสนล้านเหรียญสำหรับการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ และคาดทางสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจะลงนามต่อช่วงปลายสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติเป็นกรณีเร่งด่วนจากางวุฒิสภา และคาดบรรดาส.ส.จะทำการโหวตในวันพฤหัสบดีนี้ และจะกลายเป็นกฎหมายการรับมือกับไวรัสโคโรนาฉบับที่ 4 ที่ใช้ร่วมกันระหว่าง 4 มาตรการ ซึ่งจะมีงบประมาณโดยรวม 3 ล้านล้านเหรียญเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าวตั้งแต่เดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ นายทรัมป์ ยังเรียกร้องให้สภาคองเกรสรีบทำการอนุมัติโดยเร็วสำหรับการขยายกองทุนเงินกู้เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบ การเพิ่มเงินช่วยเหลือแก่รัฐต่างๆ รวมทั้งรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้านั้นสหรัฐฯมีการจัดสรรงบประมาณเกือบ 3.5 แสนล้านเหรียญให้แก่ภาคธุรกิจรายย่อยเพื่อบรรเทาผลกระทบ แต่ก็ดูเหมือนกองทุนดังกล่าวจะใช้หมดไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

- เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯทำการประกาศจะแบนกลุ่มคนเข้าเมืองครั้งใหม่โดยขยายเวลาออกไปอีก 60 วัน จึงน่าจะกระทบกับผู้ขอทำกรีนการ์ด และน่าจะส่งผลกระทบให้เกิดการว่างงานเพิ่มในช่วงการระบาดของไวรัสเวลานี้

·         นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ทำการขยายเวลา Lockdown ออกไปอีก 4 สัปดาห์จนถึง 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งบางมาตรการทางผู้นำสิงคโปร์เรียกว่าเป็นการ “Circuit Breaker” ที่จะส่งผลให้สถานศึกษาและสถานที่ทำงานบางแห่งต้องปิดทำการลงชั่วคราว

·         ค่าเงินดอลลาร์ยังคงปรับแข็งค่าขึ้นต่อวานนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลง โดยจะเห็นได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ราคาน้ำมันดิบร่วงหลุด 0 เหรียญ/บาร์เรล มาทำระดับติดลบเป็นครั้งแรก อันเนื่องจากภาวะอุปทานล้นตลาด ในขณะที่อุปสงค์น้ำมันชะลอตัวลงเพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส

ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่ามาที่ 100.199 จุด หลังจากเมื่อวานมีบางช่วงที่ลงไปแกว่งตัวแถว 99.5 จุดในสัปดาห์ที่แล้ว

ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลง 0.3% ที่ 1.0833 ดอลลาร์/ยูโร

ค่าเงินเยนแข็งค่ากลับลงมาเล็กน้อย 0.2% ที่ 107.4 เยน/ดอลลาร์

·         รายงานข่าวจาก NBC อ้างถึงการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ โดยระบุว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เฝ้าติดตามข่าวการที่ นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ มีอาการน่าเป็นห่วงอย่างหนัก หลังจากเข้ารับการผ่าตัดระบบหลอดเลือดหัวใจ

ขณะที่รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส เผยว่าว่า แหล่งข่าวของรัฐบาลเกาหลีใต้ยืนยันว่า “นาย ม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้ป่วยหนักในขั้นวิกฤต ตามที่มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่านายคิมกำลังอยู่ในอาการป่วยหนัก หลังจากต้องเข้ารับการผ่าตัดเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด

ด้านทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า ไม่มีอะไรจะยืนยันเกี่ยวกับสุขภาพของนายคิม และที่เราสืบทราบมาพบว่าไม่มีความเคลื่อนไหวพิเศษใดในเกาหลีเหนือ

·         ราคาน้ำมันดิบ Brent ร่วงลงอีกครั้งวานนี้ ท่ามกลางตลาดน้ำมันที่ยังมีภาวะตื่นตระหนก (Panic) เป็นวันที่ 2 อย่างไม่มีท่าทีสิ้นสุดอันเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยิ่งทำให้เกิดความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดและอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกอ่อนแรง และอาจเรียกได้ว่าในช่วง 2 วันที่ผ่านมาคือวันที่น้ำมันดิบผันผวนมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์แห่งการซื้อขายน้ำมัน

น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลงไปกว่า 24% ที่ 19.33 เหรียญ/บาร์เรล ถือเป็นระดับปิดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก.พ. ปี 2002

น้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดร่วง 8.86 เหรียญ หรือ -43% ที่ระดับ 11.57 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ที่หมดอายุลงวานนี้รีบาวน์ขึ้นได้ 10.01 เหรียญ ส่งผลให้มีการปิดส่งท้ายสัญญาที่ระดับ -37.63 เหรียญ/บาร์เรล