• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 21 เมษายน 2563

    21 เมษายน 2563 | Economic News



·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนา:

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 2,480,740

Ø  จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 170,425 ราย

Ø  จำนวนประเทศติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 210 ประเทศ

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯล่าสุดมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 792,759 ราย และมีผู้เสียชีวิตที่ระดับ 42,514 ราย

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในสเปนล่าสุดมีผู้ติดเชื้อที่ 200,210 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 20,852 ราย

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในอิตาลีอยู่ที่ระดับ 181,228 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตรวมแล้วทั้งสิ้น 24,114 ราย

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยล่าสุดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,792 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมสะสม 47 ราย


- นางแนนซี เปโลซี เผยว่า สภาคองเกรสสหรัฐฯทำการพิจารณาข้อตกลง 4.5 แสนล้านเหรียญเพื่อช่วยภาคธุรกิจขนาดเล็ก และโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา และคาดหวังว่าจะเกิดการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐฯในคืนวันนี้


- นางอังเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเงินในยุโรปจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ท่ามกลางคณะกรรมาธิการอียูที่จะเข้าร่วมกันหารือถึงงบประมาณในวันพฤหัสบดีนี้  สำหรับการกู้เงินเพื่อเยียวยาระดับหนี้ รวมทั้งการหารือถึงแนวทางงบประมาณระยะยาวในการบรรเทาผลกระทบครั้งใหญ่

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เห็นได้ชัดคือผลกระทบต่อภาคบริการของเยอรมนีและค้าปลีก ประกอบกับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมภาคการผลิต


·         ค่าเงินดอลลาร์มีแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ค่อนข้างระมัดระวังต่อทิศทางการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจ จากแนวคิดของรัฐบาลต่างๆทั่วโลก

ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่ากลับมาเหนือ 100 จุดอีกครั้ง โดยล่าสุดอยู่ที่ 100.014 จุด

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.2% ที่ 1.0858 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2477 ดอลลาร์/ปอนด์ ด้านเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.2% ที่ 107.77 เยน/ดอลลาร์  และค่าเงินหยวนทรงตัวที่ 7.0711 หยวน/ดอลลาร์


·         สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวลดลงต่ำกว่า 0 เหรียญเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ส่งผลให้ลดอุปสงค์ท่ามกลางระดับอุปทานในระดับสูง


น้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดปรับลงไป 55.9 เหรียญ หรือ -306ที่ระดับ -37.63 เหรียญ/บาร์เรล หลังไปทำ All-Time Low ที่ -40.32 เหรียญ ในส่วนของน้ำมันดิบ Brent ที่มีการ Rollover สัญญามาเป็นส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดปรับลง 2.51 เหรียญ หรือ -9ที่ 25.57 เหรียญ/บาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่ชัดเจนว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาจะส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคลดความต้องการไปมากน้อยเท่าใด เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่แต่ในบ้านเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส

ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบฟิวเจอร์สในเช้านี้ก็ยังคงเคลื่อนไหวแดนลบ แต่สัญญาส่งมอบ WTI เดือนมิ.ย. รีบาวน์กลับได้ประมาณ 3โดยสัญญาส่งมอบ WTI เดือนพ.ค. เคลื่อนไหวต่ำกว่า -14.04 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางเนื่องจากเข้าสู่วันหมดอายุ ขณะที่สัญญาส่งมอบ WTI ฟิวเจอร์ส เดือนมิ.ย. รีบาวน์กลับมายืนเหนือ 20 เหรียญ/บาร์เรล


·         ภาคอุตสาหกรรมพลังงานสหรัฐฯ เรียกร้องให้เฟดเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินกู้ 6 แสนล้านเหรียญ เพื่อให้บริษัทแก๊สสามารถใช้กองทุนเพื่อนำไปชำระระดับหนี้ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นได้ โดยที่ภาคอุตสาหกรรมพลังงานได้ทำการส่งจดหมายไปหาเฟดกว่า 2,000 ฉบับ ภายใต้เงื่อนไขที่เฟดจะทำการเกื้อหนุนต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com