• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 10 เมษายน 2563

    10 เมษายน 2563 | Economic News

สถานการณ์ไวรัสโคโรนา

- จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 1,608,331 ราย

- จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 95,869 ราย

- จำนวนประเทศติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 210 ประเทศ และติดเชื้อบนเรือสำราญ 2 ลำ ได้แก่ Diamond Princess และล่าสุด Holland America’s MS Zaandam

- จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯอยู่ลำดับที่ 1 ของโลก ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรวมที่ 468,895 (+329) ราย และผู้เสียชีวิตทั้งหมด 16,697 (+6) ราย

- จำนวนผู้ติดเชื้อในสเปนปรับตัวขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ของโลก ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อที่ 153,222 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 15,447 ราย

- จำนวนผู้ติดเชื้อในอิตาลีอยู่ที่ระดับ 143,626 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตรวมแล้วทั้งสิ้น 18,279 ราย และยังถือว่าอิตาลียังมียอดผู้เสียชีวิตที่มากที่สุดในโลก

- จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยล่าสุดเพิ่มอีก 50 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,473 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย รวมสะสม 33 ราย


· โฆษกประจำรัฐบาลโปแลนด์มีมุมมองว่าอัตราการระบาดไวรัสโคโรนาในประเทศมีแนวโน้มที่จะขึ้นทำจุดสูงสุดได้ในอีกไม่กี่วันนี้และจะเริ่มชะลออัตราการระบาดลง หากประชาชนยังให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการชะลอการระบาดอย่างเคร่งครัด

แต่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์เผยคาดการณ์ว่าโปแลนด์อาจมีอัตราการระบาดสูงที่สุดภายในเดือน พ.ค. หรือ มิ.ย.


· ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนอ่อนค่า ท่ามกลางการประกาศใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับล่าสุดจากเฟดเมื่อคืนนี้ ประกอบกับสัญญาณการชะลอตัวของการระบาดไวรัสโคโรนา ที่ลดความต้องการค่าเงินดอลลาร์ในฐานะ Safe-haven ลง

ค่าเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์และยูโร จากรายงานข่าวที่ว่านายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้รับการปล่อยตัวออกจากห้อง ICU หลังอาการติดเชื้อไวรัสโคโรนาของเขามีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่ค่าเงินของประเทศที่พึ่งพาการค้าขายน้ำมันเป็นหลักยังมีความผันผวนค่อนข้างสูง เนื่องจากความไม่แน่ใจว่ามาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและพันธบัตรจะสามารถช่วยกอบกู้ราคาน้ำมันที่ตกต่ำจากผลกระทบของไวรัสโคโรนาได้หรือไม่

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรค่อนข้างทรงตัวแถว 1.0926 ดอลลาร์/ยูโร ภาพรวมรายสัปดาห์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง 1.2%

การค้าขายในวันนี้เป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากตลาดออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ อังกฤษ และสหรัฐฯ ต่างปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday

ค่าเงินปอนด์ทรงตัวแถว 1.2459 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนภาพรวมรายสัปดาห์มีแนวโน้มแข็งค่าประมาณ 1.6%




· นักวิเคราะห์จาก FXStreet มองว่าภาพทางเทคนิคระยะสั้นของยูโรเคลื่อนไหวใกล้ Fibo Retracement 38.2% ที่ 1.0950 ดอลลาร์/ยูโรซึ่งถือเป็นแนวต้าน ทำให้ภาพขาขึ้นยังเป็นไปอย่างจำกัด และยังไม่มีเหตุผลใดมาสนับสนุนการซื้อค่าเงินในเวลานี้ สำหรับภาพราย 4 ชั่วโมง จะเห็นว่าเคลื่อนไหวแบบ Sideway Up หลังจากที่ยืนเหนือเส้น SMA ราย 20 และ 100 ขณะที่ RSI อ่อนตัว แต่ก็ยังทรงตัวได้แถว 60

แนวต้าน: 1.0950 1.0990 1.1025

แนวรับ: 1.0900 1.0865 1.0830

· Tokyo Shoko Research เผย มีผู้ประกอบการในญีปุ่นเพิ่มขึ้น 51 รายที่ถูกประกาศล้มละลายภายในเดือน เม.ย. เพียงเดือนเดียว โดยเป็นผลกระทบมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ล้มละลายเป็นธุรกิจขนาดเล็กในกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร


· สมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นยืนยันว่าจะพยายามป้องกันไม่ให้กระบวนการผลิตรถยนต์ในประเทศต้องหยุดชะงักลงจากผลกระทบของไวรัสโคโรนา แต่ในขณะเดียวกันก็จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนงานเป็นอันดับหนึ่ง พร้อมระบุว่าทางสมาคมกำลังพิจารณาออกมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย


· ประธาน IMF เตือน ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอาจรุนแรงยิ่งกว่าสมัย Great Depression

นายคริสทินา จอร์เจียวา ประธานองค์กร IMF เตือน ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก อาจมีความรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่สมัย Great Depression

ทั้งนี้ ทางองค์กร IMF จะเปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจฉบับล่าสุดในวันอังคารหน้านี้ เพื่อดูว่าองค์กรระดับโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะถดถอยลงมากแค่ไหน


· ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แห่งประเทศจีนเผยผลสำรวจที่สอบถามบรรดาผู้ประกอบการในประเทศ พบว่าผู้ประกอบส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่บรรดาผู้ประกอบการเหล่านี้ก็กำลังเผชิญแรงกดดันจากคำสั่งซื้อที่ตกต่ำหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ล่าช้า จึงเกิดเป็นความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบรุนแรงและลึก


· กระทรวงการต่างประเทศแห่งประเทศจีนประกาศต่อต้านการดำเนินการใดๆของสหรัฐฯที่จะเป็นการจำกัดสิทธิ์บริษัทเทเลคอมของจีน ในการดำเนินธุรกิจร่วมกับสหรัฐฯ

เมื่อวานนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯประกาศยกเลิกสิทธิ์ในการประกอบธุรกิจภายในสหรัฐฯสำหรับบริษัทเทเลคอมของจีน โดยให้เหตุผลว่าบริษัทฯนโยบายความมั่นคงระหว่างประเทศที่ไม่เหมาะสม ซึ่งทางบริษัทเทเลคอมจีนก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว


· จีนส่งสัญญาณจะผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยภายในประเทศปีนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดานย้ายเข้ามาอยู่ในภายในเมืองขนาดเล็กมากขึ้น และเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาด้านขาดแคลนแรงงาน รวมถึงกระตุ้นอัตราการผลิตของอุตสาหกรรมของประเทศที่ตกต่ำลงจากผลกระทบของไวรัสโคโรนาอีกด้วย


· เม็กซิโกคือตัวแปรสำคัญของมาตรการปรับลดกำลังผลิตของ OPEC+

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งซาอุดิอาระเบียเผย ข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 10 ล้านบาร์เรลระหว่างกลุ่มโอเปกและพันธมิตรที่ตกลงกันได้เมื่อคืนนี้ จะมีตัวแปรสำคัญอยู่ที่การเข้าร่วมหรือไม่ของเม็กซิโก พร้อมเรียกร้องให้เม็กซิโกเล็งเห็นถึงความสำคัญของมาตรการดังกล่าว ซึ่งจะไม่ได้เป็นผลประโยชน์เพียงแค่กับเม็กซิโกเท่านั้น แต่จะเป็นผลประโยชน์ให้กับทั้งโลกด้วย

นอกจากนี้ ทางซาอุฯจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Video conference ระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจากประเทศในกลุ่ม G20 คืนนี้

เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับโอกาสที่ประเทศอื่นๆอย่างสหรัฐฯ แคนาดา และบราซิล ว่าพวกเขามีโอกาสที่ให้ความร่วมมือกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันด้วยหรือไม่ รัฐมนตรีซาอุฯได้ระบุว่า พวกเขามีแนวทางของพวกเขาเอง และไม่ใช่หน้าที่ของทางซาอุฯที่จะไปกำหนดวิธีการให้กับประเทศอื่นๆ


· รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานคูเวตเผย เม็กซิโกได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกที่ตกลงกันได้เมื่อคืนนี้


· บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่ม OPEC+ นำโดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย มีแนวโน้มที่จะพยายามกดดันให้เม็กซิโกตัดสินใจเข้าร่วมมาตรการร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 10 ล้านบาร์เรล/วัน ตามที่ทางกลุ่ได้ตกลงกันเมื่อคืนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะขอความร่วมมือให้ปรับลดกำลังการผลิตลง 5 ล้านบาร์เรล/วัน หากสามารถดำเนินการในขั้นตอนแรกได้สำเร็จ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com