· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นวานนี้ หลังจากที่สหรัฐฯขยายมาตรการกักตัวในที่อาศัย จึงยิ่งตอกย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาและทำให้นักลงทุนกลับถือครองทองคำในฐานะ Safe-Haven
· ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.1% ที่ 1,618 เหรียญ ด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด -0.2% ที่ระดับ 1,622 เหรียญ ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด -10.9 เหรียญ ที่ระดับ 1,643.4 เหรียญ
· ภาพรวมราคาทองคำในไตรมาสแรกปรับตัวสูงขึ้นได้ 6.8% และเป็นการขึ้นต่อตลอดในช่วง 6 เดือน โดยในเดือนมี.ค. แม้จะมีความผันผวนแต่ก็ปิดปรับขึ้นได้ประมาณ 2.2%
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการขายทองคำออก 0.30 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 964.36 ตัน
· หัวหน้านักวิเคราะห์จาก BMO ระบุว่า ราคาทองคำเริ่มผันผวนแกว่งตัวขึ้นในฐานะ Safe-Haven อีกครั้ง โดยเฉพาะที่นานาประเทศมีการขยายเวลาให้ประชาชนเว้นระยะห่าง (Social-Distancing) จนถึง 30 เม.ย. นี้ ดังนั้น ทองคำน่าจะมีแนวรับแข็งแกร่งบริเวณ 1,600 – 1,610 เหรียญ
· ตลาดหุ้นสหรัฐฯเองก็ปรับขึ้นได้ขานรับกับมาตรการ 2.2 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งเป็นมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางนายทรัมป์ที่ส่งสัญญาณขยายเวลาให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัยออกไป
· ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ ระบุว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาได้กระจายและคุกคามเศรษฐกิจทั่วโลกแล้ว จึงทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และหลายๆประเทศควรที่จะต้องรับมือด้วยการอัดฉีดงบค่าใช้จ่ายขนานใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะภาคธนาคารล้มละลาย รวมทั้งระดับหนี้ในตลาดเกิดใหม่
· นักวิเคราะห์จาก BNP Paribas กล่าวว่า ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกจากการระบาดของไวรัสดูเหมือนจะส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าถือครองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง และคาดว่าทิศทางทองคำจะยังคงแข็งแกร่ง อย่างน้อยจนกว่าที่เงื่อนไขทางเศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพและเห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวจากมาตรการอัดฉีดขนานหนักจากบรรดาภาครัฐฯและธนาคารกลางต่างๆ
· ราคาพลาเดียมปิด +1.7% ที่ 2,308 เหรียญ ด้านแพลทินัมปิด -3.4% ที่ 716 เหรียญ และซิลเวอร์ปิด -3.8% ที่ 13.91 เหรียญ