• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 30 มีนาคม 2563

    30 มีนาคม 2563 | SET News

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปิดประเทศทั่วโลกเนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาอาจจะคงอยู่หลายเดือน ขณะที่ตลาดสามารถฟื้นตัวขึ้นได้บ้างในวันนี้ โดยที่ตลาดออสเตรเลียมีการฟื้นตัวมากที่สุดในภูมิภาค

ซึ่งตลาดส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงไปในช่วงก่อนหน้านี้ โดยดัชนี Nikkei ลดลง 1.57% ดัชนี Shanghai ลดลง 0.94%

และมีการลดลงอย่างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยดัชนี Singapore ลดลง 2.95%

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเคลื่อนไหวทรงตัว

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนารุนแรงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีหลายประเทศที่กำหนดมาตรการ Lockdown อย่างเข้มงวด ทำให้เกิดความกังวลที่ว่าญี่ปุ่นจะเข้าสู่มาตรการ Lockdown เป็นครั้งแรก

โดยดัชนี Nikkei ลดลง 1.6% ที่ระดับ 19,084.97 จุด หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งกดดันการที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ย Reverse Repo Rate ระยะ 7 วันลง 0.20% จากระดับ 2.40% สู่ระดับ 2.20% ซึ่งนับเป็นการปรับลงที่มากที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.9% ที่ระดับ 2,747.21 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่มีอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่เหล่านักลงทุนในความสำคัญอยู่

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 2.2% ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารลดลง 4.6% เนื่องจากตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ

อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

"สมคิด" สั่งคลังเตรียมออก พ.ร.ก.กู้เงินวงเงินเบื้องต้น 2 แสนล้านบาท หวังใช้รับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ควบคู่การทำมาตรการกระตุ้นศก. เฟส 3 เน้นยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาท้องถิ่น ด้าน"ศอฉ." ยังไม่ประกาศเคอร์ฟิว แต่เพิ่มด่านตรวจ-ยกระดับคัดกรองเข้มข้น ส่วน"กรุงเทพมหานคร" สั่งปิดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มอีก ครอบคลุมสถานรับเลี้ยงเด็ก พิพิธภัณฑ์ สนามเด็กเล่น และห้องจัดเลี้ยง

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังได้เตรียมความพร้อมเพื่อออกพ.ร.ก.กู้เงิน ส่วนวงเงินเบื้องต้น 200,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้เงิน

“พ.ร.ก.กู้เงินอยู่ที่กระทรวงการคลัง ซึ่งเขาเตรียมตัวมานานดูความจำเป็น ดูความเหมาะสมของเวลา จำนวน 200,000 ล้านบาทไหม ผมเชื่อว่าไม่มีปัญหา โดยเงินที่ได้จะต้องใช้อะไรเป็นสิ่งสำคัญ ไม่อยากให้เงินกู้ที่กู้มาใช้ที่กระจัดกระจายและไม่เกิดประโยชน์ในระยะยาว”นายสมคิด กล่าว

- นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า พ.ร.ก.กู้เงิน ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมการ โดยจะต้องพิจารณาถึงการดูแลขีดความสามารถเศรษฐกิจในพื้นที่ เพราะปัญหาเฉพาะหน้าคือการแพร่ระบาดของไวรัส สิ่งที่กระทรวงการคลังต้องการดูแลคือประชาชนทุกกลุ่ม และเอสเอ็มอี

“วันนี้เราต้องจัดงบดูแลเศรษฐกิจด้วย เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป เศรษฐกิจต้องอยู่ในความเข้มแข็งและเพียงพอที่จะเดินหน้าไป หากปล่อยให้ตกไปเลย เมื่อเหตุการณ์ดีขึ้น ซึ่งตอนนี้ตอบไม่ได้ว่าเมื่อไร เศรษฐกิจเราจะยิ่งไม่สามารถเดินไปได้ ดังนั้นเรากำลังดูว่าจะจัดงบอย่างไร เอาไปใช้ทำอะไร”นายอุตตม กล่าว

- นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์อำนวยการ ศอฉ. เมื่อ 27 มี.ค.63 ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว หรือ การห้ามออกจากบ้านในทุกจังหวัด แต่ล่าสุดเป็นเพียงการยกระดับความเข้มข้นในการยับยั้ง สกัดกั้นเชื้อเท่านั้น โดยกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชากา

- ร้อยตำรวจเอกพงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงมาตรการการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ว่า จากการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรุงเทพฯ ได้ออกคำสั่งใหม่ เป็นคำสั่งที่เปลี่ยนแปลงที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ออกโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ ได้พิจารณาอนุโลมสถานที่บางสถานที่ และให้ปิดเพิ่มในบางสถานที่ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป ยกเว้นสถานรับเลี้ยงเด็ก ของรัฐ และเอกชน ยกเว้นในโรงพยาบาล ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม เป็นต้นไป

สำหรับสถานที่ที่มีคำสั่งปิดเพิ่ม 5 สถานที่ ประกอบด้วย 1.สนามแข่งขัน 2.สนามเด็กเล่น รวมทั้งในสาธารณะ และหมู่บ้าน 3.สถานที่แสดงมหรสพ หรือ สถานที่มีการแสดง การละเล่น สาธารณะ 4.พิพิธภัณฑ์ และ 5.ห้องสมุด และได้ขยายคำสั่งจากเดิมมีผลถึงวันที่ 12 เมษายนนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงให้มีผลถึงวันที่ 30 เมษายนนี้

เมื่อวันศุกร์(27 มี.ค. 63) นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ระบุว่า ได้เห็นชอบให้สายการบินสัญชาติไทยจำนวน 9 สายการบิน หยุดบินในเส้นทางต่างๆ

ซึ่งสายการบินที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพ์แห่งประเทศไทย(SET) มีดังนี้

1.การบินไทย(THAI) หยุดบินเส้นทางในประเทศทุกเส้นทางระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563 และได้โอนย้ายเที่ยวบินให้สายการบินไทยสมายล์ทำการบินแทน ขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศ ได้แก่ ทวีปเอเชีย หยุดระหว่างวันที่ 25 มี.ค. – 31 พ.ค. 63 ทวีปยุโรป หยุดระหว่างวันที่ 1 เม.ย. – 31 พ.ค. 63

2.ไทยสมายล์ หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ เชียงใหม่-ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 25 มี.ค. – 31 พ.ค. 63 และหยุดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 23 มี.ค. – 31 พ.ค. 63

3.ไทยแอร์เอเชีย(AAV) หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศทุกเส้นทาง วันที่ 1 – 30 เมษายน 2563 ยกเว้นเส้นทางอู่ตะเภา-ขอนแก่น หยุดบินระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 24 ตุลาคม 2563 และหยุดบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563

4.นกแอร์(NOK) หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ-กระบี่, นครพนม, น่าน, ร้อยเอ็ด, แม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 และเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทางตั้งแต่ 31 มกราคม –25 ตุลาคม 2563

5.บางกอกแอร์เวย์ส(BA) หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงราย, กรุงเทพฯ-กระบี่, สมุย-กระบี่, เชียงใหม่-กระบี่, เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่-ภูเก็ต, เชียงใหม่-สมุย และ สมุย-เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563 สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศหยุดทำการบินทุกเส้นทาง ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 24 ตุลาคม 2563

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ยอดติดเชื้อโควิด-19 ประเทศไทยเพิ่ม 143 ราย ตายเพิ่ม 1 ราย ป่วยสะสม 1,388 ราย เสียชีวิตสะสม 7 ลุกลาม

แล้ว 59 จังหวัด "สธ." เผยบุคลากรทางการแพทย์ติดอีก 6 จากผู้ป่วยปกปิดประวัติ ห่วงทำเชื้อลามหนัก ชี้จำนวนผู้ป่วยโคม่า 17 คน

เกินครึ่งเป็นผู้สูงอายุ

- "คลัง" เผยยอดผู้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5 พันบาท วันแรกทะลุ 18 ล้านคน ยันเข้าเกณฑ์คุณสมบัติผ่าน ได้รับเงินทุก

คน ฮึ่มฟันพวกฉวยโอกาสหักหัวคิว นายกฯย้ำกำชับแก้โควิด-19 ทุกภาคส่วนหมดแล้ว แนะคุมใจตัวเองให้ได้ ทำตามมาตรการที่รัฐบาลแนะ

นำ ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงแน่

- ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ได้ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อบรรเทา

ปัญหาเรื่องกระแสเงินสดของประชาชนและภาคธุรกิจ ที่จำเป็นต้องเตรียมไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพหรือดูแลธุรกิจให้ดำเนินต่อ

ไป โดยมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลเช่าซื้อลีสซิ่ง สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจ SMEs

ซึ่งยังไม่เป็นหนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน หรือเอ็นพีแอล มีผลตั้งแต่งวดการชำระหนี้วันที่ 1 เม.ย.2563



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com