• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2563

    24 มีนาคม 2563 | SET News

· ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวตอบรับมาตรการ QE เฟด – ดอลลาร์อ่อน

ในช่วงสายของตลาดเอเชียวันนี้ ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯเคลื่อนไหวแดนบวก ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เริ่มถูกเทขาย ซึ่งอาจเป็นการตอบรับของตลาดต่อการประกาศมาตรการ QE ของเฟดแบบไม่จำกัดงบเมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยดัชนีฟิวเจอร์ส S&P500 เคลื่อนไหวสูงขึ้นประมาณ 4% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับขึ้นประมาณ 0.06% แถว 0.827%

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวแถว 101.65 จุด คิดเป็นปรับแข็งค่าประมาณ 0.80%

ดัชนีฟิวเจอร์สและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯต่างปรับขึ้นได้ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าจะเห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นงบประมาณมหาศาลเพื่อรับมือผลกระทบจาก COVID-19 โดยรายงานจาก The Washington Post ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯกำลังพยายามเจรจาเกี่ยวกับร่างงบประมาณเป็นมูลค่าถึง 2 ล้านล้านเหรียญสำหรับมาตรการรับมือไวรัส

ขณะที่ดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าหลังการประกาศ QE หรือมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ของเฟดเมื่อคืน โดยเฟดระบุว่าจะทำการเข้าซื้อสินทรัพย์ด้วยวงเงินที่มากพอที่จะสนับสนุนสภาพคล่องของตลาดและระบบการเงินให้มีความราบรื่นมากที่สุด ซึ่งหมายความว่าเฟดจะใช้มาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์โดยไม่จำกัดวงเงิน ขณะที่พอร์ตงบดุลของเฟดเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 4.7 ล้านล้านเหรียญ

มาตรการเข้าซื้อแบบไม่จำกัดของเฟดอาจช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในตลาดเครดิต และนำไปสู่การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ได้

ขณะที่ตลาดหุ้นอาจไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างที่ควร หากรัฐบาลสหรัฐฯยังประสบความล้มเหลวในการผลักดันร่างนโยบายรับมือไวรัส

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนคาดว่าเฟดจะทำตามคำมั่นสัญญาที่เข้าซื้อสินทรัพย์ ด้วยปริมาณที่เหมาะสมกับการทำให้ตลาดสามารถซื้อขายได้อย่างราบรื่น รวมถึงสนับสนุนให้ธุรกรรมทางการเงินต่างๆเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าจะไม่สามารถหยุดยั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้ก็ตาม

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.9%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรัยตัวสูงขึ้นมากกว่า 7% โดยภาพรวมรายวันปรัยขึ้นมากที่สุดในรอบมากกว่า 4ปี ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อของบีโอเจและบรรดากองทุนบำเหน็จบำนาญ

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 7.1% ซึ่งเป็นระดับรายวันที่เพิ่มมากสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2016 ที่ผ่านมา ที่ระดับ 18,092.35 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 3.2% ที่ระดับ 1,333.10 

· ตลาดหุ้นยุโรปรีบาวน์ หลังจากที่เฟดได้ประกาศนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจชุดใหม่เพื่อสนับสนุนการซื้อขายของตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา รวมทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ในอิตาลีชะลอตัวลงเป็นวันที่สอง

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 4% ด้านหุ้นกลุ่มทรัพยากรและแก๊สเพิ่มขึ้น 6.9% เนื่องจากตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

· เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 63 น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณะสุข แถลง พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 106 ราย ยอดสะสม 827 ราย รักษาหายแล้วกลับบ้าน 5 ราย สะสม 57 ราย กำลังรักษาอยู่ 766 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย ยอดเสียชีวิตรวม 4 ราย

ผู้ที่เสียชีวิต 3 ราย เป็น ชาวไทย รายแรก ชายไทยอายุ 70 ปี เป็นผู้ป่วยเป็นวัณโรค เสียชีวิตเมื่อวาน

อีกรายอายุ 79 ปี เกี่ยวข้องกับสนามมวย อาการหนักหนักตั้งแต่แรกรับเข้ามาเมื่อ 16 มี.ค.2563 มีโรคประจำตัว และทั้ง 2 ราย รักษาตังที่โรงพยาบาลที่บำราศนราดูร

รายสุดท้ายเป็นชายไทย 45 ปี มีภาวะเบาหวาน และโรคอ้วน มาจากโรงพยาบาลเอกชนใน กทม.

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- สมาคมธนาคารไทย และแบงก์สมาชิกอุ้มลูกค้าฝ่าวิกฤติจับมือธนาคารออมสิน คลอดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วง

เงิน 1.5 แสนล้านบาท ให้สถาบันการเงินนำไปปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ขณะที่แบงก์พาณิชย์ ประสาน

เสียงลดดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยลูกค้าสู้โควิด-19

- ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอที่ประชุม ครม. วันที่ 24 มี.ค.

นี้ พิจารณาเห็นชอบกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินหลักประกันตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ฉบับใหม่ โดยปรับลดวงเงินการ

วางมัดจำการเริ่มต้นประกอบธุรกิจท่องเที่ยวลง 70% ตามลักษณะของธุรกิจประเภทต่างๆ จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวคลายความเดือดร้อน และมีเงินกลับไปใช้ได้บางส่วน แม้ว่าจะเป็นเงินไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นการช่วยเหลือกันในช่วงนี้ หลังเกิดการระบาดของไวรัส

โควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางทั้งหมด

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 2563 จากเดิมที่หดตัว

1.0% มาเป็นหดตัว 5.6% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นจากทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทวีความ

รุนแรง ลากยาว และขยายเป็นวงกว้างจนนำไปสู่การประกาศปิดประเทศของหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ ซึ่งน่าจะส่ง

ผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานการผลิตโลกอย่างมีนัยสำคัญ

อ้างอิงจากอีไฟแนนซ์ไทย

TMB ราคาร่วงหนักต่ำสุดในรอบ 11 ปี นับแต่ปี 52 ที่เคยต่ำสุดที่ 0.43 บาท นักวิเคราะห์คาดกังวลเศรษฐกิจกิจซบเซา บวกกับการระบาดของโควิด–19 กระทบสินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์ของแบงก์ พร้อมหั่นกำไรปีนี้ลง ตามแนวโน้มสินเชื่อที่ชะลอตัว - NIM ลดลง แต่ยังแนะนำซื้อ เหตุราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่าบุ๊คแวลูมาก คาดไตรมาสแรกกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 130% แถมพันธมิตรธุรกิจประกัน จะช่วยหนุนแบงก์ในระยะยาว

ราคาหุ้นธนาคารทหารไทย TMB วานนี้ ปรับตัวลดลงเกือบติดฟลอร์ มาปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดของวันที่ 0.68 บาท ลดลง 13.92% ด้วยปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นสูงสุดอันดับ 1 ในตลาด โดยหากย้อนดูราคาหุ้น TMB จะพบว่า ราคาปัจจุบันเป็นราคาที่ต่ำสุดในรอบ 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2552 ที่ราคาหุ้นเคยปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ระดับ 0.43 บาท

อ้างอิงจากกรุงเทพธรกิจ

"พล.อ.ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ประกาศ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" มีผล 26 มี.ค. จับตาเคอร์ฟิวคุมเข้มแพร่ระบาดโควิด-19

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเร้นซ์ ว่า ที่ประชุมมีมติให้ประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะประกาศใช้วันที่ 26 มี.ค. นี้ เมื่อประกาศแล้วจะจัดตั้งคณะกรรมการที่รับผิดชอบต่อไป

ทั้งนี้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบด้วย

ระดับที่ 1 สถานการณ์ฉุกเฉินทั่วไป

- ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งกระแสข่าวระบุว่า จะระบุ เคอร์ฟิว เวลา 19.00-07.00 น.

- ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ

- ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ

- ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใด ๆ

-ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘เคอร์ฟิว’ คืออะไร ร้ายแรงแค่ไหนในสถานการณ์ 'COVID-19'

ระดับที่ 2 สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวผู้ใดซึ่งต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อระงับความรุนแรงโดยไม่ชักช้า

- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงาน ตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเรียกมาให้ถ้อยคำ

- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งยึดหรืออายัดอาวุธ สินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใดได้

-ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจค้น รื้อ ถอน หรือทำลายซึ่งอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งกีดขวาง ตามความจำเป็น

- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดออกไปนอกราช อาณาจักรได้

- ออกคำสั่งให้ใช้กำลังทหารเพื่อเข้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำรวจระงับ เหตุการณ์ร้ายแรงหรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วนได้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com