• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2563

    13 มีนาคม 2563 | Gold News
     

· ราคาทองคำปรับตัวลงต่อในวันนี้ โดยมีภาพรายสัปดาห์ที่ร่วงลงมากที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี ท่ามกลางตลาดหุ้นทั่วโลกที่กลุ่มนักลงทุนดูจะเผชิญกับภาวะ Margin Calls

ราคาทองคำตลาดโลกปรับลง 0.9% ที่ 1,562.3 เหรียญ หลังจากที่ปรับตัวลงไปกว่า 3% เมื่อวานนี้ ซึ่งภาพรวมสัปดาห์นี้จะเห็นได้ถึงการปรับลงของทองคำไปแล้วประมาณ 6.7% ถือเป็นระดับการปรับตัวลงรายวันมากที่สุดตั้งแต่มิ.ย. ปี 2013

สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลง 1.7% ที่ 1,563.1 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก ANZ กล่าวว่า แรงเทขายที่เกิดในตลาดหุ้นดูจะเข้ากดดันในดอลลาร์ด้วย ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการปิดสถานะในทองคำเพื่อไปปิด Margin Calls แต่ภาพรวมระยะยาวก็ยังเห็นสัญญาณที่ดี และความเชื่อมั่นนักลงทุนยังไม่เข้าสู่ภาวะขาลง

· กองทุนไอเอ็มเอฟ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ให้เรียกร้องการบริจาคเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือประเทศยากจนในการจัดการกับความตึงเครียดของการระบาดครั้งนี้

· อีซีบีอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจยูโรโซนรับมือกับการระบาดมากขึ้นในเวลานี้ได้ แต่อีซีบียังคงเลือกที่จะคงดอกเบี้ย

· นางแนนซี เพโลซี โฆษกส.ส. กล่าวว่า บรรดาส.ส. และทางทำเนียบขาวใกล้บรรลุร่างกฎหมายร่วมกันเพื่อรับมือกับไวรัสโคโรนา และเธอเองก็คาดหวังจะเห็นการประกาศฉบับนี้ได้ในคืนนี้

· เฟดได้ทำการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินครั้งใหญ่ด้วยการอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯเป็นวงเงินสูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบทางการเงินจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

· บรรดาสายการบินต่างๆเรียกร้องให้รัฐบาลทำการสนับสนุนทางการเงินจากกรณีที่สหรัฐฯทำการระงับเที่ยวบินยุโรป

· รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า กลุ่มนักลงทุนในทองคำจะทำการติดตามและเฝ้าสนใจกาประชุมเฟดที่จะเข้ามาถึงในสัปดาห์หน้า หลังจากที่มีการตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมฉุกเฉินนอกรอบในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเฟดก็ดูมีแนวทางในการอัดฉีดเม็ดเงินครั้งใหญ่เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ตลาดการเงินหรืออาจใช้ QE ดังเช่นที่เคยใช้ในช่วงเกิดวิกฤตทางการเงินปี 2008 ขณะที่อีซีบีมีการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ก็ดูจะล้มเหลวต่อการคาดหวังต่อนักลงทุนในตลาด

อย่างไรก็ดี ภาพรวมทองคำยังมีปัจจัยสนับสนุนที่จะดันให้ราคาปรับขึ้นต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และดอลลาร์ที่มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงต่อ


ด้านสินค้าอื่นๆในกลุ่มโลหะมีค่าไม่ว่าจะเป็นซิลเวอร์ก็อ่อนตัวลงไปกว่า 3.1% ซึ่งเป็นต่ำสุดตั้งแต่ก.ค. ขณะที่แพลทินัมปรับขึ้น 4% หลังปิดทำต่ำสุดตั้งแต่ปี 2003 ในส่วนของราคาพลาเดียมปรับขึ้นไป 5.1% หลังร่วงลงเกือบ 20% ซึ่งการปรับตัวลงในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็ดูจะกดดันให้ทุกสินค้าเข้าสู่ตลาดขาลง




· Bloomberg ระบุถึงราคาทองคำในสัปดาห์นี้ว่าเป็นสัปดาห์ที่ปรับตัวลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 2016 แม้ว่าจะเห็นราคาปรับขึ้นไปทำสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีก็ตาม ท่ามกลางนักลงทุนที่ทำการเขายเพื่อปิดสถานะ ในจังหวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนอย่างมาก แม้ตลาดพยายามที่จะตอบรับข่าวดีกับการใช้มาตรการทางการเงินและการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างฉุกเฉินแต่ก็ดูจะไม่เพียงพอต่อความกังวลว่าจะเกิดภาวะถดถอยท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา

และแรงขายในตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ก็ดูจะทำให้เกิดภาวะ Margin Calls จึงทำให้นักลงทุนมองโอกาสการถือเงินสดเท่าที่จะทำได้ จึึงเลือกที่จะขายปิดทำกำไรในทองคำ ขณะเดียวกันการแข็งค่าของดอลลาร์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ากดดันราคาทองคำด้วย

· พลาเดียมปรับขึ้น 1.4% แถว 1,856.88 เหรียญ หลังร่วงไปกว่า 20% วานนี้ ในขณะที่พลาเดียมปรับขึ้น 0.1% ที่ 763.72 เหรียญในวันนี้ ซึ่งทั้ง 2 สินค้าดูจะมีภาพรายสัปดาห์ร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในส่วนของซิลเวอร์ขยับลง 2.4% ที่ 15.44 เหรียญ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com