• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 10 มีนาคม 2563

    10 มีนาคม 2563 | SET News
 

· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลงไปกว่า 2,000 จุด ซึ่งเป็นระดับการปรับตัวลงรายวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 2008 ท่ามกลางความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และสงครามราคาน้ำมันที่กำลังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ปิด -2,013.7 จุดหรือ -7.79% ที่ 23,851.02 จุด ซึ่งเป็นระดับการร่วงลงรายวันที่มากที่สุดตั้งแต่ 15 ต.ค. ปี 2008 ที่ในเวลานั้นปรับลงไป -7.87% ท่ามกลางหุ้นบริษัท Boeing, Apple, Goldman Sachs และ Caterpillar ที่ปรับตัวลงไปกว่า 100 จุด

ดัชนี S&P500 ปิด -7.6% ที่ 2,746.56 จุด ท่ามกลางหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงอย่างหนัก และดัชนี Nasdaq ปิด -7.29% ที่ 7,950.68 จุด

ซึ่งแรงเทขายที่เข้ามาอย่างหนักทำให้ตลาดเกิดภาวะ Circuit Breaker ตามมาในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่เปิดตลาด ส่งผลให้ตลาดระงับการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที และกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในช่วงประมาณ 21.49น.

ภาพรวมกลุ่มนักลงทุนยังคงเลือกที่จะเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่า ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่จะเข้ากระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่สภาวะถดถอย โดยจะเห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ที่ร่วงลงไปแตะ 0.318% และผลตอบแทนพันธบัตร 30 ปี หลุด 1%

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบ ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับลดลงอย่างหนักที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติทางการเงินเมื่อปี 2008 ในคืนที่ผ่านมา

โดยในญี่ปุ่น ดัชนี Nikkei เปิด -1.52% ต่อจากเมื่อวานที่เปิด -5.07% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด -1.61% ทั้งสองดัชนีต่างปรับลดลงมากกว่า 3% ในช่วงต้นตลาดวันนี้

ในเกาหลีใต้ ดัชนี Kospi เปิดค่อนข้างทรงตัว ส่วนในออสเตรเลีย ดัชนี ASX200 ปิด -0.41% คิดเป็น -20% จากระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ของดัชนี

ในภาพรวม ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น เปิด -0.19%

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัส รวมถึงสถานการณ์สงครามราคาน้ำมันระหว่างกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ที่เกิดขึ้นเนื่องจากไม่สามารถหาข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตกันได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ซาอุดิอาระเบียประกาศลดราคาส่งออกน้ำมันเดือน เม.ย. ลงอย่างมาก

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.45 - 31.60 บาท/ดอลลาร์

- นายกรัฐมนตรีไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้ (10 มี.ค.) จะยังไม่มีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือประชาชนด้วยการแจกเงิน 2 พันบาท โดยจะชะลอไว้ก่อน แต่จะมีการพิจารณามาตรการด้านอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนลดผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง

- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการ SMEs ต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ถึงสถานการณ์ธุรกิจในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ตอบว่า ยอดขาย, กำไร, สภาพคล่อง, การลงทุน-ขยายกิจการ และการจ้างงานลดลง ขณะที่ประเมินแนวโน้มในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ต่างก็เชื่อว่ายอดขาย, สภาพคล่องของธุรกิจ, การลงทุน-ขยายกิจการ และการจ้างงานจะลดลงเช่นกัน

- สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เผยแพร่บทวิเคราะห์ "วิกฤติราคาน้ำมัน... เมื่อความวัวยังไม่ทันหาย" ว่า นักเศรษฐศาสตร์อาจต้องออกมาปรับประมาณการเศรษฐกิจกันอีกรอบ GDP ไทยมีโอกาสโตได้ต่ำกว่า 0.5% ช่วงครึ่งปีแรก จากไวรัสโควิดแต่เมื่อราคาน้ำมันลงหนักเช่นนี้เศรษฐกิจไทยอาจดูแย่ลง ซบเซาลง สินเชื่อโตช้าลง แต่จะเกิดการเติบโตทางเทคนิค (technical growth) จากการส่งออกสุทธิที่เติบโตหลังการนำเข้าหดตัวแรงกว่าการส่งออกที่ทรุด ซึ่งน่าจะพอพยุง GDP ให้ขยายตัวได้บ้าง แต่เมื่อเงินเฟ้อต่ำ กำลังซื้อหดหาย ก็มีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)จะลดดอกเบี้ยได้ในรอบการประชุมวันที่ 25 มีนาคมนี้ สู่ระดับ 0.75%ต่อปี

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และภาวะในตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 25 มี.ค.63

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com