• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2563

    4 มีนาคม 2563 | SET News

· หุ้นสหรัฐฯมีแนวโน้มเปิดแดนบวกในคืนนี้ หลังโจ ไบเดน ทำคะแนนนำคู่แข่ง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะเปิดในแดนบวกคืนนี้ หลังผลการเลือกตั้งตัวแทนพรรคเดโมแครตวันนี้ พบว่านายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถทำคะแนนนำคู่แข่งคนอื่นๆได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะในรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ อย่างรัฐเวอจินเนีย นอร์ทแคโรไลนา และอาร์คันซอ ซึ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าอย่างน้อยนายไบเดนจะมีชื่ออยู่ในอันดับต้นๆของตัวแทนพรรคเดโมแครตที่จะไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือน พ.ย.



· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่รีบาวน์ขึ้นได้บ้างหลังจากที่เฟดสั่นตลาดด้วยการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับผลกระทบวงกว้างจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นปรับขึ้น 0.2% โดยส่วนใหญ่ตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางเกาหลีใต้เพิ่มเติม ทางด้านดัชนียุโรปคาดจะเปิดทรงตัว

หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดร่วงลงวานนี้ ดัชนี E-mini S&P500 Futures ก็ดีดกลับมาได้ประมาณ 1.4% ด้านนิเกอิปิดทรงตัว และ S&P/ASX200 ปิด -1.7% ขณะที่ HSI ของฮ่องกง และดัชนี SSEC ก็ปิดทรงตัว

หุ้นทั่วเกาหลีใต้ที่อ่อนตัวลงได้ปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 2% หลังจากที่รัฐบาลประกาศเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 9.8 พันล้านเหรียญเพื่อรับมือกับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา

· หุ้นจีนนำโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิด +0.63% ที่ระดับประมาณ 3,011.67 จุด ด้านเสิ่นเจิ้นคอมโพเนนท์ปรับขึ้นแตะ 11,493.02 จุด และเสิ่นเจิ้นคอมโพสิตปิด +0.361% ที่ 1,895.74 จุด

ทั้งนี้ ข้อมูลภาคบริการของจีนออกมาย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.พ. โดย Caixin/Markit เผยดัชนี PMI ภาคบริการหดตัวลงมากแตะ 26.5 จุด จากระดับ 51.8 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งการอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด ถือเป็นสัญญาณถึงภาวะหดตัว



· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดในแดนลบเล็กน้อย หลังจากเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด -0.15% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่ปรับขึ้นได้ 0.8% ขณะที่หุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวปรับลง 0.9% และหุ้นส่วนใหญ่ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบ

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.38 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.55 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 0.50% ก่อนการประชุมตามกำหนดการที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 มี.ค.63 เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

- ที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 63 มาที่ 1.5-2.0% จากเดิมที่ คาดไว้เมื่อเดือน ก.พ.63 ที่ 2.0-2.5% ขณะที่ยังคงประมาณการส่งออกและเงินเฟ้อไว้ตามเดิม จากผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่ ขยายเป็นวงกว้างทั้งต่อภาคธุรกิจและการจ้างงานโดยฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและห่วงโซ่การผลิตอุตสาหกรรม

โดยจากเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค.63 ที่เริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัวลงในแทบทุกรายการ ที่ประชุม กกร. คาดว่า ในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. เครื่องชี้ต่างๆ น่าจะยิ่งสะท้อนถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจหลัง จากนั้นคงจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยเป็นสำคั

- “ประยุทธ์” นัดถก ครม.เศรษฐกิจนัดพิเศษศุกร์นี้ รับมือผลกระทบโควิด-19 “คลัง-ท่องเที่ยว” เร่งทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมสร้างความเชื่อมั่น ตลาดทุน ครม.สละเงินเดือนลงขัน ตั้งกองทุนสู้ไวรัส

- ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินสนับสนุนและเงินชดเชยภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 หรือมาตรการชิมช้อปใช้ ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะรับตามมาตรการดังกล่าวผ่านการรับเงินคืน หรือแคชแบ๊ก โดยถ้าใช้จ่ายเต็มวงเงิน 50,000 บาทจะได้เงินคืนสูงสุดไม่เกิน 8,500 บาท ให้ถือเป็นเงินได้ที่ได้รับยกเว้น ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

- น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีความผันผวน โดยในช่วงเช้าดัชนีฯร่วงแรงกว่า 10 จุด ตามดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบฉุกเฉิน ทำให้มองเศรษฐกิจสหรัฐฯได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่สุดท้ายดัชนีฯก็รีบาวด์กลับขึ้นมาได้บ้าง อาจเป็นผลจากที่ตลาดบ้านเราอยู่ในโซนเอเชียที่ตอบรับการแพร่ระบาดไปมากแล้ว และสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนก็เริ่มทยอยลดลงเรื่อย ๆ ทั้งจำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้ติดเชื้อ

อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายไปในประเทศไทย และต่อให้ไม่มีไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจไทยก็ยังไม่แข็งแรง เพราะมีเรื่องภัยแล้ง และการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 ก็ยังต้องรอ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com