• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 2 มีนาคม 2563

    2 มีนาคม 2563 | SET News
 

· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับลงต่อ 357.28 จุด หรือ -1.39% ที่ระดับ 25,409.36 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด -0.82% ที่ 2,954.22 จุด ทางด้าน Nasdaq ปิดรีบาวน์ได้เล็กน้อย +0.01% ที่ 8,567.37 จุด

ด้านดัชนี MSCI ที่เป็นมาตรวัดดัชนีหุ้นทั่วโลกปิดปรับตัวลง 1.76% ด้านภาพรวมรายสัปดาห์ปรับตัวลงไปกว่า 10% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 2

ภาวะความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาดูจะส่งผลกระทบไปทั่วตลาดหุ้นทั่วโลก และส่งผลให้ภาพรายสัปดาห์ปรับตัวลงอย่างย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตทางการเงินนับตั้งแต่ปี 2008 และมีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกกว่า 5 ล้านล้านเหรียญในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงไปตลอดสัปดาห์กว่า 3,600 จุด และดัชนี S&P500 ปรับตัวลงไปกว่า อย่างหนักช่วง 5 วันทำการซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1940

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปิดปรับตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดประวัติการณ์ใหม่

อย่างไรก็ดี ไวรัสโคโรนาถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับภาวะการเดินทางระหว่างประเทศ และห่วงโซอุปทาน รวมไปถึงทำให้สถานศึกษาปิดทำการ และมีการยกเลิกการจัดกิจกรรมสำคัญๆทั้งหมด จึงมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะไม่สดใสต่อ หลังจากที่ประสบภาวะชะลอตัวมาตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

· เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯมีการปรับตัวลงต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลต่อข่าวไวรัสโคโรนา และการแพร่ระบาดในสหรัฐฯที่อาจเพิ่มสูงขึ้นได้ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีความแข็งแกร่งอยู่ก็ตาม โดยดัชนี S&P500 E-mini Futures เปิด -1.6% ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้วันนี้ดัชนีฟิวเจอร์สหลักของสหรัฐฯเป็นการเปิดร่วงลงต่อ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วก็ปรับลงไปกว่า 11% ซึ่งเป็นระดับรายสัปดาห์ที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 2008

· เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทีมบริหารนายทรัมป์หลายราย พยายามที่จะลดภาวะ Panic ในตลาด โดยระบุถึงว่า แม้ไวรัสโคโรนาจะแพร่ระบาดไปทั่วโลกและอาจทำให้เผชิญกับภาวะถดถอย แต่ก็เป็นภาวะ Over-react เท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ยังอยู่ในทิศทางแข็งแกร่งและคาดว่าตลาดหุ้นจะสามารถรีบาวน์กลับได้จากปัจจัยดังกล่าว

ทั้งนี้การแพร่ระบาดของไวรัสดูจะบั่นทอนภาคธุรกิจทั่วโลก และส่งผลให้ประชาชนเลือกเก็บตัว และมีการยกเลิกการจัดงานสำคัญต่างๆ จึงทำให้ตลาดหุ้นนั้นปรับตัวลง อันเป็นผลจากกลุ่มการบิน, การลงทุน, การท่องเที่ยว และภาคบริการ ทึ่จะกลายเป็นอุปสรรคต่อภาวะห่วงโซ่อุปทานและประสิทธิผลด้านการผลิตที่เข้ากระทบต่อเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางผลสำรวจ PMI ของจีนที่ส่งสัญญาณถึงการเริ่มได้รับผลกระทบของภาคธุรกิจสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดหวังว่าจะเห็นเฟดเลือกใช้การปรับลดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ท่ามกลางธนคารกลางอื่นๆที่มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลงตามเช่นกัน

· หุ้นยุโรปร่วงลงต่อเนื่อง โดยดัชนี Stoxx600 ปิด -3.8% ท่ามกลางความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนา และส่งผลให้ภาพรวมสัปดาห์ปรับลงไปกว่า 12.7% ซึ่งถือเป็นระดับที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ต.ค. ปี 2008 ที่เคยเกิดวิกฤตทางการเงินทั่วโลก

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มทรัพยากรของยุโรปยังดิ่งลงกว่า 4.6% ด้าน FTSE 100 ของอังกฤษปิด -3.7%, ดัชนี CAC40 ของฝรั่งเศส -4% และ DAX ของเยอรมนีปิด -4.5%

· หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังคงเปิดลบในวันนี้ และตลาดรอคอยข้อมูลการผลิตจีนที่คาดว่าจะออกมาแย่กว่าที่คาด โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.86% ขณะที่หุ้นอื่นๆในประเทศเปิดร่วง อาทิ FamilyMart -2.1% หลังสื่อรายงานภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัยในญี่ปุ่น ท่ามกลางการเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสภายในประเทศ

ดัชนี S&P/ASX200 เปิด -2.5% และ Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.53% ภาพรวมดัชนี MSCI เปิด -0.07%

· นักบริหารเงิน คาดเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55 - 31.70 บาท/ดอลลาร์ นักลงทุนยังกังวลเรื่องไวรัสโควิด-19 ถึงแม้ดอลลาร์จะแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้บาทอ่อนค่าไปมากแล้ว

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานตัวเลขเงินสำรองระหว่างประเทศ วันที่ 21 ก.พ.63 อยู่ที่ 228.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 14 ก.พ.63 อยู่ที่ 229.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 21 ก.พ.63 อยู่ที่ 32.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับวันที่ 14 ก.พ.63 อยู่ที่ 33.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 21 ก.พ.63 อยู่ที่ 7,227.6 พันล้านบาท จาก 7,146.4 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ก.พ.63

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค.63 อยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำ การผลิตภาคอุตสาหกรรม เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายภาครัฐ หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน อย่างไรก็ดี รายได้เกษตรขยายตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน

- ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยรัฐมนตรีอีก 5 คน โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันยังไม่มีการพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นตามที่มีกระแสข่าว หรือแม้แต่การจัดเตรียมบัญชีรายชื่อของ ครม.ชุดใหม่ โดยระบุว่า "ยังไม่ถึงเวลา"

- นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า สถานการณ์เมื่อวานนี้มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 35 ปี ผู้ป่วยรายนี้ ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ต่อมามีการติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย ถูกส่งต่อมาจาก รพ.เอกชน รักษาที่ สถาบันบำราศนราดูร ทำการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่ดีที่สุด ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ 16 กุมภาพันธ์ 2563

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แสดงความเสียใจกรณีชายไทยอายุ 35 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสองของผู้ป่วยที่มีอาการหนักก่อนหน้านี้ ได้เสียชีวิตลง โดยป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก และต่อมามีการติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลเอกชนไปรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร จนตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 มากกว่า 1 สัปดาห์แล้ว

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com