• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 2 มกราคม 2563

    2 มกราคม 2563 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์เปิดตลาดปีนี้ค่อนข้างทรงตัว โดยยังดูเหมือนจะเผชิญแรงกดดันเนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองว่าทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจถึงขีดสุด และอาจชะลอการเติบโตตามเศรษฐกิจโลก

สัญญาณในเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน เป็นปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ตลอดเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดเดือน ธ.ค. -1.9% ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยมาเคลื่อนไหวแถว 96.546 จุดภายในวันนี้ แต่ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.1215 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากปิดตลาดเดือน ธ.ค. +1.8% และดูมีแนวโน้มที่จะสามารถขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดของเดือน ส.ค. ที่ 1.1249 ดอลลาร์/ยูโร ได้

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินหยวน หลังจากที่อ่อนค่าปิดตลาดเดือน ธ.ค. -1% ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 6.9630 หยวน/ดอลลาร์ และยังทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนแถว 108.68 เยน/ดอลลาร์ ใกล้ระดับต่ำสุดของเดือน ธ.ค. และยังเป็นแนวรับสำคัญที่ 108.40 เยน/ดอลลาร์

นักกลยุทธ์จาก Commonwealth Bank มองว่า ภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและปริมาณการเทขายดอลลารืที่ค่อนข้างหนาแน่นเป็นปัจจัยที่กำลังกดดันค่าเงินดอลลาร์ โดยเฉพาะเนื่องจากนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯมีแนวโน้มสูงที่จะถูกคงไว้ในแดนผ่อนคลายตลอดปี 2020 ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเริ่มที่จะกลับมาในแดนทรงตัว



· USD/JPY Technical Analysis: จับตาเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน ทิศทางค่าเงินระยะสั้นอาจเปลี่ยนแปลง

นักวิเคราะห์จาก FX Street ประเมินว่า ค่าเงิน USD/JPY เคลื่อนไหวแถว 108.70 เยน/ดอลลาร์ ในช่วงสายวันนี้ โดยดูเหมือนจะยังเผชิญแรงกดดันและเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางในระยะสั้น โดยก่อนหน้านี้ ค่าเงินปรับขึ้นใกล้เส้นแนวต้านของเทรนขาขึ้น แต่ไม่สามารถขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วันไปได้ ขณะที่เส้น RSI ยังอยู่ภาวะปกติ บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ค่าเงินน่าจะเคลื่อนไหวแบบ Sideways ต่อไปอีกสักระยะ

ทั้งนี้ หากค่าเงินปรับขึ้นเหนือแนวต้านที่ 108.80 เยน/ดอลลาร์ จะทำให้มีแรงเข้าซื้อตามมาและอาจผลักดันให้ค่าเงินขึ้นต่อไปถึง 109.20 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 19 ธ.ค. แต่ถ้าหากยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน หรือระดับ 108.67 เยน/ดอลลาร์ อาจทำให้ค่าเงินมีแรงเทขายเข้ามา และปรับลงไปถึง 108.43 เยน/ดอลลาร์ ที่เป็นระดับต่ำสุดของเดือน ธ.ค.

กรณีที่ย่อตัวลงไปถึง 108.43 เยน/ดอลลาร์ ลำดับต่อไปค่าเงินจะมีโอกาสลงทดสอบระดับ 107.80 เยน/ดอลลาร์ ที่เป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 11 ต.ค. และ 1 พ.ย.

ในทางกลับกัน ฝั่งขาขึ้นจะเผชิญแนวต้านหลายเส้นด้วยกัน ไปจนถึงระดับ 109.70 – 109.80 เยน/ดอลลาร์ หากผ่านมาได้จะมีเป้าหมายที่ 110.00 เยน/ดอลลาร์

· แหล่งข่าววงในของ Reuters ระบุว่า รัฐบาลจีนประกาศระงับการจดทะเบียนบริษัทข้ามตลาดเซี่ยงไฮ้และลอนดอนลงเป็นการชั่วคราว โดยแหล่งข่าวระบุว่า มีสาเหตุมาจากปัจจัยทางการเมืองที่น่าจะเกี่ยวข้องกับจุดยืนของอังกฤษที่มีต่อการประท้วงในฮ่องกง

การประกาศระงับการจดทะเบียนลงเป็นการชั่วคราวครั้งนี้ ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่จีนและอังกฤษจะสามารถเดินหน้าโปรเจ็คท์สร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองตลาดต่อไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่

· ตำรวจในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน ระบุว่า จับกุมกลุ่มผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองเกือบ 400 คน จากการเดินขบวนประท้วงในวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการชุมนุมที่ตำรวจอนุญาตให้จัดการชุมนุมได้ กลุ่มแกนนำจัดการชุมนุมกล่าวว่า การเดินขบวนเมื่อวันขึ้นปีใหม่มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 1 ล้านคน แต่ตำรวจกล่าวว่า ผู้เข้าร่วมมีประมาณ 6 หมื่นคน บรรยากาศการชุมนุมในช่วงแรกเป็นไปโดยสงบ แต่ต่อมาต้องยกเลิกการอนุญาต และต้องยิงแก๊สน้ำตา กับน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการชุมนุม หลังเกิดเหตุโจมตีธนาคาร HSBC และมีการปะทะกับตำรวจที่เฝ้าควบคุมสถานการณ์

นับตั้งแต่การชุมนุมประท้วงต่อต้านทางการจีนและฮ่องกงเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนม.ย.ปีที่แล้วจนถึงวันขึ้นปีใหม่มีผู้ที่ถูกจับกุมแล้วประมาณ 7,000 คน ขณะที่กลุ่มธุรกิจจากจีนแผ่นดินใหญ่และธนาคาร HSBC ตกเป็นเป้าหมายถูกโจมตีมาแล้วหลายครั้ง

· ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นรับปีใหม่ เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน จึงคลายความกังวลเกี่ยวกับด้านอุปสงค์ ประกอบกับแรงหนุนจากมาตรการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรที่มีแนวโน้มจะเพิ่มความเข้มข้นภายในปีนี้

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.5% ที่ระดับ 66.35 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.4% ที่ระดับ 61.31 เหรียญ/บาร์เรล

· ภาวะการเติบโตของอัตราการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯที่ชะลอตัวลงในปี 2019 ประกอบกับการลดค่าใช้จ่ายของบรรดาบริษัทขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่ บ่งชี้ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ น่าจะชะลอหรือทรงตัวในปี 2020 โดยนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจเห็นปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรล/วัน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com