• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2562

    27 ธันวาคม 2562 | Economic News


· ค่าเงินดอลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน จากมุมมองเชิงบวกของข้อตกลงการค้าที่ดูจะช่วยลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบางและจำกัดการเคลื่อนไหวของค่าเงินต่างๆในตลาด

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 0.26% ที่ระดับ 109.63 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินหยวนแข็งค่ากลับลงมาแตะ 6.9911 หยวน/ดอลลาร์ ทางด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.13% ที่ระดับ 97.523 จุด

ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อยทรงตัวที่ 1.3004 ดอลลาร์/ปอนด์ก่อนช่วงคริสต์มาส แต่ก็ยังอยู่ต่ำกว่าสูงสุดที่ทำไว้ในเดือนธ.ค. ที่ระดับ 1.3514 ดอลลาร์/ปอนด์

นักวิเคราะห์ มองว่า ตลาดซื้อขายทั่วโลกโดยส่วนใหญ่ทางฝั่งตะวันตกจะปิดทำการ จึงทำให้สภาพคล่องในตลาดค่อนข้างเบาบางอย่างมาก

· จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งอยู่ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาคนว่างงานลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายตามคาด

· ยอดการซื้อสินค้าออนไลน์ในช่วงเทศกาลปีนี้ของสหรัฐฯทำระดับยอดขายสูงสุดได้เป็นประวัติการณ์โดยปรับตัวขึ้น 40% โดยยอดขายผ่านทาง E-commerce ปีนี้ปรับขึ้น 14.6% ของยอดค้าปลีกทั้งหมด และเพิ่มขึ้นกว่า 18.8% มือเทียบกับปีที่แล้ว

ขณะที่ภาพรวมของยอดขายสินค้าปลีกที่ไม่รวมกลุ่มรถยนต์ปรับขึ้นได้ 3.4%

· ผลวิจัยจากสถาบัน China Beige Book ร่วมกับบริษัทภาคเอกชนจีนกว่า 3,300 แห่ง พบว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 4/2019 อาจเป็นไตรมาสที่เติบโตได้ช้าที่สุดภายในปี 2019 แต่การขยายตัวในด้านผลประกอบการกลับดูดีกว่าไตรมาสก่อนหน้าและของเมื่อปีก่อน

ทั้งนี้ ผลวิจัยพบสัญญาณสำคัญ 3 อย่างที่เกี่ยวกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในอนาคต ซึ่งได้แก่:

1) สัญญาณของกระแสเงินทุนที่เริ่มชะลอตัวอย่างรวดเร็ว โดยทางสถาบันตรวจสอบพบว่า กระแสการไหลเวียนของเงินทุนในไตรมาสที่ 4 นี้ มีอัตราที่ย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์

2) ยอดคำสั่งซื้อสินค้าใหม่หดตัวต่อเนื่อง แม้ภาคบริษัทจะมีการรายงานผลประกอบที่ดีขึ้นก็ตาม ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าปริมาณอุปสงค์เริ่มอ่อนแอและอาจไม่สามารถสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาวได้ อีกทั้งดูเหมือนว่าภาคบริษัทจะยังไม่ค่อยตระหนักถึงสัญญาณดังกล่าวจากฝั่งผู้บริโภคสักเท่าไหร่

3) ปริมาณการกู้ยืมพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4/2019 ขณะที่จำนวนคำร้องขอกู้ยืมที่ถูกปฏิเสธกลับปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งใน 4 ภาคธุรกิจหลัก อันได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม ค้าปลีก บริการ และอสังหาริมทรัพย์

· หลังจากเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ที่มีรายงานเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจากสำนักข่าว NHK ล่าสุด รายงานจาก Kyodonews ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว ว่าเป็นการรายงานที่ผิดพลาดและเกาหลีเหนือก็ยังไม่ได้มีการยิงขีปนาวุธแต่อย่างใด

ขณะที่รายงานจาก CNN ระบุว่า เป็นความผิดพลาดของระบบเตือนภัยญี่ปุ่น โดยสัญญาณเตือนภัยดังกล่าวได้ถูกยกเลิกภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากนั้น

· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นประมาณ 1% ทำสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่าข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ขณะเดียกวันข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯก็ออกมาแย่กว่าที่คาด

น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 72 เซนต์ หรือ +1.07% ที่ระดับ 67.92 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 57 เซนต์ หรือ +0.93% ที่ระดับ 61.68 เหรียญ/บาร์เรล โดยภาพรวมน้ำมันดิบทั้ง 2 ประเภทปิดปรับขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ 17 ก.ย.

ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากกรณีที่ทางการจีนกล่าวย้ำถึงข้อตกลงการค้ากับทางสหรัฐฯที่น่าจะลงนามกันอย่างเป็นทางการได้ในเร็วๆนี้



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com