• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2562

    26 ธันวาคม 2562 | Economic News


· ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโร ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางก่อนเข้าสู่วันหยุดคริสมาสต์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากที่อ่อนค่าติดต่อกัน 5 วันทำการ

โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรแข็งค่า 0.05%



ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อย 0.06% แถว 97.715 จุด สำหรับภาพรวมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าได้ 1.6% ท่ามกลางการเข้าซื้อในฐานะ Safe-haven เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการขยายตัวที่ดีกว่าประเทศอื่นๆ



· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่า เขาและนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯและจีนที่สามารถตกลงกันได้

ขณะที่ยังไม่มีการยืนยันออกมาจากฝั่งจีน แต่ทางกระทรวงพาณิชย์จีนได้เคยระบุว่า รายละเอียดของข้อตกลงจะถูกเปิดเผยออกสู่สาธารณะหลังการลงนามอย่างเป็นทางการ



· รายงานจาก Mastercard ระบุว่า ยอดการใช้จ่ายของชาวอเมริกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้ เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน 3.4% ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่คิดเป็น 14.6% ของยอดค้าปลีกทั้งหมด ขยายตัว 18.8% จากปีก่อน

ขณะที่นายทรัมป์ ได้ทวีตข้อความแสดงความยินดีที่ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯในช่วงเทศกาลเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์



· ตำรวจฮ่องกงได้ใช้แก็สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย เพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมในย่านหม่งก๊กและฉ่าทินช่วงคืนวันคริสต์มาส โดยกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลได้ออกมารวมตัวกันบริเวณห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ และท้องถนนอีกครั้ง หลังจากที่ได้ปะทะกับตำรวจไปเมื่อวานนี้

ด้านนางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้แสดงความเหนื่อยหน่ายใจกับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ประท้วง พร้อมทั้งยังระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงทำลายบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาส



· นักวิเคราะห์จากสถาบัน Center for National Interest มีมุมมองว่า เกาหลีเหนืออาจกลับมาทดสอบขีปนาวุธระยะไกลเหมือนเมื่อปี 2017 อีกครั้ง เนื่องจากสัญญาณถึงความเป็นไปได้ดังกล่าวค่อนข้างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อไม่นานมานี้

ทั้งนี้ หลังจากที่ทางเกาหลีเหนือระบุว่า จะมี “ของขวัญ” วันคริสมาสต์ให้กับสหรัฐฯ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่กังวลว่าอาจเป็นขีปนาวุธระยะไกล ขณะที่นายนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวติดตลกว่า “อาจเป็นแจกันสวยๆ ไม่ใช่ขีปนาวุธ ตามที่หลายๆฝ่ายกังวล”



· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการซื้อขายในช่วงวันคริสต์มาส หลังจากที่รัสเซีย ระบุว่า จะร่วมมือกับกลุ่มโอเปก ในการปรับลดกำลังการผลิต นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 1.22% ที่ระดับ 67.20 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1% ที่ระดับ 61.11 เหรียญ/บาร์เรล



· บทความจาก Marketpulse ระบุว่า ข่าวเกี่ยวกับตลาดน้ำมันไม่ค่อยมีมากนัก แต่ดูเหมือนตลาดจะมีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงใหม่ระหว่างซาอุดิอาระเบียและคูเวตที่อาจทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดเพิ่มขึ้นถึง 500,000 บาร์เรล/วัน รวมถึงประเทศนอกกลุ่มโอเปกอย่าง กายอานา ที่อาจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 750,000 บาร์เรล/วัน ภายในปี 2025

ภาพรวมปี 2020 สำหรับตลาดน้ำมันมีความผสมผสานกัน โดยเอนไปฝั่งทิศทางขาลงเล็กน้อย ราคาน้ำมันในปีหน้าน่าจะเผชิญแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันทั่วโลกที่อาจเพิ่มสูงขึ้น แต่จะมีแรงหนุนจากความผ่อนคลายในสงครามการค้า


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com